ข่าว

เลขาฯศาลยุติธรรม ยันหน้าที่ สตช. ตามจับ ไวพจน์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลขาฯศาลยุติธรรม ยันหน้าที่ สตช. ตามจับ "ไวพจน์" อ้างยังไม่ได้รับหมายจับฟังไม่ขึ้น พร้อมถกหน่วยงานเกี่ยวข้องบูรณาการหมายจับออนไลน์

 

 

          เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2563 - ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม เมื่อเวลา 11.30 ภายหลังการแถลงผลการดำเนินงานของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมในภาพรวม ประจำปี พ.ศ. 2562 ระหว่างเดือน ม.ค. – ธ.ค.62 แล้ว

 

          นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่สำนักงานศาลยุติธรรม ได้เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลหมายจับกับ สตช. แล้ว กรณีการติดตามจับกุมตัวพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัฐ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จำเลยในคดีร่วมแกนนำ นปช.บุกที่ประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับแล้ว แต่มีปัญหาพนักงานสอบสวนติดตามตัวไม่ได้ จะอ้างว่ายังไม่ได้รับหมายจับได้หรือไม่ว่า ตามขั้นตอน เมื่อศาลออกหมายจับแล้ว เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะติดตามตัวจำเลยมา ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับทราบหมาย

 

          นายสราวุธ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีในการบันทึกข้อมูลหมายจับที่ผ่านมา ตนได้กำชับให้บันทึกข้อมูลปัจจุบันทันทีเพื่อให้ถึงหน่วยงานที่รับข้อมูลต่อ โดยจากปัญหาเรื่องนี้ก็เห็นว่าจะต้องมีการหารือเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันในการปฏิบัติเพราะเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งในส่วนของสภาผู้แทนฯ ก็จะได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการแจ้งข้อมูลที่ ส.ส.ถูกดำเนินคดีอาญาต่อไปเช่นกัน เพราะอาจต้องมีกรณี ที่ส.ส.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีตัวอย่างก่อนหน้านี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้แจ้งให้สภาผู้แทนฯ ทราบ เมื่อมีคดีตัดสิทธิ ส.ส. โดย ก่อนหน้านี้ในส่วนของ ป.ป.ช.ก็เคยหารือกับศาลแล้วที่ต้องแจ้งข้อมูลให้ทราบเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกดำเนินคดีอาญาเพราะตามกฎหมายบางกรณีจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

 

           เลขาฯสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กรณีดังกล่าวก็เป็นตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน จึงต้องมีการประชุมหารือร่วมทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหมายจับที่ยังโต้แย้งกันว่าแม้มีข้อมูลหมายจับออนไลน์ยังต้องใช้หมายจับที่เป็นการดาษแสดงเมื่อเข้าจับกุมหรือไม่นั้น ก็จะต้องประชุมหารือ สตช. เพื่อบูรณาการแนวทางปฎิบัติ เพราะส่วนหนึ่งอาจเกี่ยวข้อกับข้อกฎหมาย แต่ขอย้ำว่าในส่สนของสำนักงานศาลยุติธรรมตนได้สั่งการให้ออกหนังสือเวียนให้ลงข้อมูลทันที 

 

          เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีที่คณะกรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองปลายปี 2562 นายสราวุธ กล่าวว่า นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัยไปแล้ว ก็ได้มีการทำอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการกดดัน ขณะเดียวกัน ในส่วนคดีอาญาที่ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ได้ขออนุญาตประธานศาลฎีกาดำเนินคดีนายคณากร ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ด้วย ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดระยะเวลาฝากขังแล้ว แต่พนักงานอัยการยังไม่ได้มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดยะลา ทั้งนี้ในการดำเนินคดีอาญากับการสอบสวนทางวินัยนั้นจะทำควบคู่กันไป สำหรับตัวนายคณากรปัจจุบันยังปฏิบัติหน้าที่อยู่กองผู้ช่วยในศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ