ฝรั่งนักโดดร่ม ระทึก ค้างหน้าผา 8 ชม. โรยตัวช่วยปลอดภัย

        วันที่ 13 มกราคม จากกรณีนายโจฮันเนส กลาสเซอร์ นักกระโดดร่มชาวออสเตรีย ขึ้นไปกระโดดเบสจัมป์ จนพลาดติดอยู่บนยอดเขาอกทะลุ เมื่อช่วงเวลา 08.10 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจตระเวนชายแดนอีกหลายนาย เร่งให้การช่วยเหลือ

  ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ามาเป็นกำลังเสริมให้แก่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง ในการช่วยเหลือนายโจฮันเนส ในขณะเดียวกัน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฤา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ

สถานการณ์เป็นไปด้วยความตึงเครียด เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนวางแผนการช่วยเหลืออย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัยผู้ประสบเหตุ และเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือ เนื่องจากในพื้นที่มีสภาพลมพัดแรงต่อเนื่อง ในการวางแผนมีการขอสนับสนุนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 สงขลา ที่มีความชำนาญในการปืนป่ายหน้าผา และประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจส่วนหน้าจังหวัดยะลา เพื่อเข้าช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ประสบเหตุ

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 เดินทางมาถึงจังหวัดพัทลุง ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง ก็ได้มีการจัดทีมเพื่อเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาอกทะลุ จุดเกิดเหตุ ต่อมาในเวลา 11.15 น. เฮลิคอปเตอร์เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ แต่หลังบินประเมินสถานการณ์ปรากฏว่า ไม่สามารถใช้ ฮ.เพื่อการช่วยเหลือได้ด้วยข้อจำกัดของสภาพพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องปรับแผนให้การช่วยเหลือ

ต่อมาในเวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เชือกโรยตัวลงไปถึงร่างของนายโจฮันเนส ก่อนจะพยุงตัวนายโจฮันเนสโรยตัวมาอยู่ยังจุดที่ปลอดภัย เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 43 สงขลา เดินเท้าขึ้นไปให้การช่วยเหลือลงมาถึงภาคพื้นดินได้อย่างปลอดภัย มีเพียงบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณเข่า 2 ข้าง ในเวลา 15.30 น รวมเวลาที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการช่วยชีวิตนายโจฮันเนส จำนวน 8 ชั่วโมง

นายสมฤทธิ์ ชูกลิ่น หัวหน้าพนักงานหน่วยกู้ภัยพัทลุง เล่านาทีเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวว่า มีความยากลำบากในการช่วยเหลือนิดหน่อยเนื่องจากพื้นที่มีความชัน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ตลอด อีกทั้งนักท่องเที่ยวมีร่างกายใหญ่ พร้อมกับมีสภาพร่างกายที่อิดโรย จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการช่วยเหลือเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีการช่วยเหลือตนและทีมงานใช้วิธีการโรยตัวเพื่อเข้าถึงตัวผู้บาดเจ็บและนำตัวลงมา ก่อนใช้วิธีพาลงเดินเท้าเดินลงบันไดมาได้สำเร็จ และขณะที่เจ้าหน้าที่พานักท่องเที่ยวลงมาถึงด้านล่าง ก็มีเสียงปรบมือของชาวบ้านนับร้อยที่มาร่วมส่งกำลังใจให้ทั้งเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวผู้ประสบภัย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพัทลุง จึงเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพัทลุง

สำหรับนายโจฮันเนส ได้เดินทางมาโชว์กระโดดร่มในงานวันเด็กที่ผ่านมา พร้อมกลุ่มเพื่อน 9 คน แต่นายโจฮันเนส พร้อมแฟนสาวชาวออสเตรีย ติดใจบรรยากาศการกระโดดร่มของจังหวัดพัทลุง จึงขออยู่ต่อ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายโจฮันเนสออกจากที่พักเพื่อไปกระโดดอีกครั้งโดยขึ้นบนเขาอกทะลุแต่ร่มกลับไปติดกับโขดหิน ทำให้นายโจฮันเนสติดอยู่บริเวณหน้าผาหินภูเขาอกทะลุ จนมีชาวบ้านไปเห็นและแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือ