ข่าว

แจงดราม่า โบกปูนปิดทางเข้าออกน้องหมา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แจงอีกด้านดราม่าโบกปูนปิดทางเข้าออกหมา ตัวแทนนิสิตโต้ขัง ยันปิดไว้เพราะติดศูนย์อาหาร หวั่นส่งผลต่อสุขอนามัย ชี้ใต้อาคารมีทางเชื่อมอีกตึกที่ไม่ได้มีการปิดโพรง

 

                  เพจ WATCHDOG THAILAND โพสต์ชี้แจงกรณีสุนัขถูกโบกปูนปิดทางเข้าออก โดยระบุว่า หลัง WDT ลงเรื่องราวร้องเรียนจากคณะเภสัชศาสตร์​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนนิสิตของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงชี้แจงมาหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือน้องหมาในนามของนิสิตเภสัช

 

 

 

 

 

                  1. ช่องใต้อาคารดังกล่าวได้มีการโบกปูนปิดทับมานานแล้ว ซึ่งไม่ได้ตั้งใจจะขังน้องหมานะครับ เพราะว่ามีทางออกอื่นให้น้องหมาเข้าออก เพียงแต่จำเป็นต้องกั้นฝั่งนั้นไว้เนื่องจากฝั่งนั้นติดกับศูนย์อาหาร ส่งผลต่อสุขอนามัยของร้านอาหารและบุคคลที่มาใช้บริการ เลยจำเป็นต้องปิดฝั่งนั้น ส่วนอีกฝั่งหนึ่งยังเปิดให้น้องหมาเข้าออกตามปกติ

                  2. อาคารดังกล่าวไม่ใช่อาคารที่อยู่ในสังกัด คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับ อาคารดังกล่าวเป็นอาคารสถาบัน 2 สังกัดสถาบันวิจัยสภาวะสิ่งแวดล้อม

                  3. ส่วนเรื่องอื่นเรื่องคนใหญ่คนโตในคณะ หรืออะไรทำนองนี้ไม่ทราบข้อมูล

                  #WDTจึงชี้แจงว่าได้นัดหมายให้ปุ๋มพีระบุญจากเดอะโฮปลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานให้ได้พบและเจรจากับผู้ร้องเรียนพร้อมคณะอาจารย์ต้นสังกัดหน่วยงานสถานที่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

                  โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรภัทร์ อิงคโรจน์ฤทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านกายภาพ เข้าร่วมเจรจาหาทางแก้ไขด้วยตนเองพร้อมคณาจารย์อีกหลายท่าน โดยเฉพาะ รองคณบดี คณะเภสัช คนต้นเรื่อง พร้อมกลุ่มคนรักสัตว์ ผู้ให้ข้าวน้ำและดูแลน้องหมาในจุฬาฯ

                  #ผลการเจรจาได้ข้อสรุปร่วมกันด้วยความมุ่งแก้ปัญหาของทั้งสองฝ่ายอย่างมีเมตตาธรรมและความเข้าใจ ในแนวทางชุมชนคนรักสัตว์จัดการตนเอง และทำให้ก่อเกิดโมเดลขึ้นมาหลายๆแห่ง ดังนี้

                  #ทางจุฬาฯได้ให้ความร่วมมือทำการเปิดทุกโพรงในด้านที่มีการปิดไว้ทั้งหมด...

                  โดยคณะอาจารย์ผู้ร่วมเจรจาชี้แจงว่า มั่นใจว่าสุนัขสามารถออกอีกด้านหนึ่งได้... และยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบช่องทางใต้อาคารได้

 

 

 

                  ซึ่งปุ๋มพีระบุญก็ได้มุดเข้าไปสำรวจใต้อาคารแล้วพบว่าภายใต้อาคารมีช่องทางเชื่อมต่อถึงกันจริง และน่าจะเชื่อมไปถึงอีกฝั่งของตึกที่ไม่ได้มีการปิดโพรง...

                  เพราะเหตุที่ต้องปิดโพรงด้านนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนให้อาหารนำอาหารมาให้ตรงจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดที่มีคนสัญจรมาก จึงอยากให้เปลี่ยนจุดไปให้อาหารในจุดอื่น เพราะได้รับการร้องเรียนหลายครั้งแล้ว

                  และอาจมีการทำประตูกลปิดตรงโพรงแทนซึ่งน้องหมาจะมุดออกจากใต้ตึกได้แต่กลับเข้าไปไม่ได้... เพื่อประโยชน์ในกรณีจับทำหมัน-ทำวัคซีน

                  โดยต้องมีการตรวจสอบอย่างแน่ชัดก่อนแล้วว่า...#ไม่มีหมา หมาท้อง หรือแม่หมาและลูกหมาอยู่ใต้อาคาร

                  #ความห่วงกังวลของผู้ดูแลสัตว์ในจุฬาว่าศรีนวลและเพื่อนๆจะออกไม่ได้ จึงเป็นอันว่าเข้าใจกันว่าปลอดภัย

                  #จะมีการสำรวจ“ประชากรสุนัข”ทั้งหมด พร้อมขึ้นทะเบียนสุนัข และ“คนให้ข้าว”ที่เลี้ยงดูสุนัขในจุฬา

                  #จัดตั้งกลุ่ม ชมรมสวัสดิภาพสุนัขที่มีอยู่แล้ว เพื่อร่วมกันดูแลสุนัขทั้งหมดในพื้นที่... สร้างกติกาการดูแลและการอยู่ร่วมกัน ด้วยการจัดทำหมันและวัคซีน รวมถึงการให้อาหารให้มีความสะอาด เรียบร้อย ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ และไม่มีปัญหาต่อชุมชนส่วนรวม

                  #จัดโซนพื้นที่ “ให้อาหารได้” และ “ห้ามให้อาหาร”

                  #คณะเภสัชฯ ยินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดหา“วัคซีนรวม”ให้กับสุนัขทั้งหมด

                  #คณะสัตวแพทย์ จุฬา ยินดีสนับสนุนเรื่องโครงการการ“ทำหมัน”สุนัข

                  ก็จบด้วยดีครับ และกลายเป็นอีกหนึ่งชุมชนคนรักสัตว์จัดการตนเองที่ได้ชื่อว่า “จุฬาโมเดล”


                  ขอบคุณ

                  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรภัทร์ อิงคโรจน์ฤทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                  ผศ.ภญ.ดร.รุ่งเพ็ชร สกุลบำรุงศิลป์ คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                  คุณนงลักษณ์ สมใจ เลขานุการคณบดี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                  อ.จุฑารัตน์ -น้องแอน - น้องแมน กลุ่มอาสาปชช.และกลุ่มสวัสดิภาพสัตว์ จุฬาฯ
                  ปุ๋ม พีระบุญ จาก องค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ THE HOPE THAILAND ประชาชนผู้ร้องเรียนเหตุทารุณกรรม

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ