ข่าว

เตรียมตัวลงทะเบียน ชิมช้อปใช้ เฟส 2 งดแจกเงินพัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.คลัง ยืนยัน มาตรการชิมช้อปใช้ระยะที่สอง จะมีทำแน่นอน แต่จะเน้นปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ

ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับมาตรการชิมช้อปใช้ ที่รัฐบาลจะโอนเงินให้ประชาชนผ่านแอพพลิเคชั่น โดยทำการลงทะเบียนมาตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 23 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนแห่กดลงทะเบียนเต็มภายใน 1 ชั่วโมงแทบทุกคืน ล่าสุดรัฐบาลเตรียมเดินหน้าชิมช้อปใช้เฟส 2 เน้นกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชน ไม่เน้นแจกเงินฟรี 
 

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ยืนยันว่ามาตรการชิมช้อปใช้ระยะที่สอง จะมีทำแน่นอน แต่จะเน้นปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้รับรายงาน ว่า มีผู้ใช้จ่ายผ่านมาตรการนี้แล้วประมาณ 1.3 ล้านคน ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเกินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1.7 แสนราย

“โครงการชิมช้อปใช้ ไม่ได้ส่งผลทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ยังมีภาพทางสังคมเอื้ออาทรแฝงอยู่ด้วย ผมได้เห็นภาพลูกๆ ที่ได้เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ พาคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงคนในครอบครัว รวมตัวกันไปท่องเที่ยวด้วยกัน เป็นการใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข

ซึ่งที่ผ่านมา 1 สัปดาห์ได้ผลตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ขาย และพี่น้องประชาชน ชื่นชมกับมาตรการนี้ และขอให้มีการขยายผลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า จะมีระยะที่สอง ต่อไปแน่นอน”

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการทำโครงการชิมช้อปใช้ระยะที่สองว่า กระทรวงการคลังกำลังเร่งศึกษาโครงการชิมช้อปใช้ระยะที่สองออกมาให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เปิดลงทะเบียนได้ต่อเนื่องทันทีภายในเดือนต.ค.นี้ หลังจากลงทะเบียนระยะแรกครบ

อย่างไรก็ตามจะมีการปรับปรุงเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ใหม่ เพื่อต้องการกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมโครงการ นำเงินส่วนตัวออกมาใช้จ่ายเพื่อสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น และจะเร่งเสนอให้ รมว.คลัง รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาในเร็วๆ นี้

“แนวคิดชิมช้อปใช้ระยะสอง เบื้องต้นจะเริ่มทันทีเดือน ต.ค.นี้ โดยเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มอีก 1-2 ล้านคน แต่จะปรับสิทธิประโยชน์ใหม่ ไม่มีการแจกเงินให้ไปใช้จ่ายฟรี 1,000 บาท เหมือนกับระยะแรก แต่จะเพิ่มสิทธิในกระเป๋าที่สองในส่วนของเงินแคชแบ็ก 15% ให้เพิ่มมากขึ้นจาก 4,500 บาท เป็น 5,500- 6,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายแทน

ส่วนระยะเวลายังกำหนดให้ใช้ได้ถึงสิ้นเดือนพ.ย.นี้เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอเสนอให้ฝ่ายนโยบายพิจารณารายละเอียด โดยดูผลการดำเนินโครงการระยะแรก รวมถึงงบประมาณที่เหลือควบคู่กัน ก่อนสรุปอย่างชัดเจน”

ทั้งนี้สาเหตุที่โครงการชิมช้อปใช้ระยะสอง จะไม่มีการแจกเงิน 1,000 บาท ไปใช้ฟรีๆแบบในระยะแรก เพราะคนที่ลงทะเบียนส่วนใหญ่หวังแค่รับเงิน 1,000 บาทเพื่อไปใช้ฟรีๆอย่างเดียว เห็นได้จากยอดใช้เงิน 1,000 บาทมีสูงกว่า 1 พันล้านบาท

แต่ยอดกระเป๋าสองที่ใช้จ่ายเงินของตัวเองมีแค่หลัก 10 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ตรงกับเป้าหมายของรัฐที่ต้องการให้คนนำเงินส่วนตัวมาใช้เพิ่มขึ้น ดังนั้นชิมช้อปใช้ระยะที่สอง จะเน้นดึงคนที่มีกำลังซื้อมาลงทะเบียน และนำเงินส่วนตัวมาใช้จ่ายเป็นหลัก

 

สำหรับสิทธิ์การรับเงินคืน 15% (Cash back) มีดังนี้

นอกจากการรับเงิน 1,000 บาท (G-Wallet) แล้ว ผู้ที่ลงทะเบียนยังสามารถรับเงินคืน (Cash Back) ได้อีกด้วย โดยหากมีการเติมเงินส่วนตัวเพื่อใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชันเพิ่มเติม รัฐบาลจะชดเชยเงินคืนให้เป็นจำนวนเท่ากับ 15 เปอร์เซ็นต์ ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน

***เช่น หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,000 บาท จะได้รับเงินคืน 150 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท จะได้รับเงินคืน 225 บาท และหากใช้จ่ายเพิ่ม 30,000 บาท จะได้รับเงินคืน 4,500 บาท เป็นต้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ