ข่าว

ชงตั้งอนุฯไต่สวนทุจริตปลูกป่าแก่งกระจาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คดีมีมูล จ่อเสนอโครงการทุจริตปลูกป่าแก่งกระจานเนื้อที่ 4,200 ไร่ ให้บอร์ดป.ป.ท.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิด 17ก.ย.นี้ หลังภาพถ่ายทางอากาศพบปลูกจริงแค่ 1-2 ไร่

 

 

          สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) - 12 ก.ย.62 พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีทุจริตปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติลดภาวะโลกร้อนจำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 4,200 ไร่ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังพบข้อมูลกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จ้างบริษัทเอกชนคู่สัญญาในวงเงิน 15 ล้านบาท ว่า สำนวนคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของป.ป.ท.เขตพื้นที่ 7 ซึ่งได้รับรายงานว่าการสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมบรรจุเป็นวาระให้บอร์ด ป.ป.ท.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดได้ในวันอังคารที่ 17 ก.ย. นี้ โดยจะเร่งรัดให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเนื่องจากคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว

 

          ทั้งนี้คดีดังกล่าว นายสมัคร ดอนนาปี อดีตผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติฯ ได้ยื่นคำร้องให้ป.ป.ท. ตรวจสอบคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 โดยป.ป.ท.ขอให้ศูนย์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนับสนุนข้อมูลด้วยการนำโดรนขึ้นบินตรวจสอบ และวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ พื้นที่ปลูกป่าตามพิกัดจากภาพถ่ายทางอากาศในแอพพลิเคชั่นดีซี่แม๊ป พบว่าอุทยานแห่ชาติแก่งกระจานยังมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยภูเขาสูงไม่มีเส้นทางคมนาคม การขนกล้าไม้เข้าไปปลูกป่าเป็นเรื่องยาก โดยภาพถ่ายทางอากาศพบร่องรอยการนำกล้าไม้เข้าไปปลูกป่าจริง แต่ปลูกไม่ตรงตามแปลงที่ได้ขออนุมัติกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อีกทั้งเป็นการปลูกป่าในพื้นที่แค่ 1-2 ไร่ ซึ่งไม่ครอบคลุมทั่วพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ซึ่งกำหนดให้เป็นแปลงปลูกป่าบางแปลงอยู่ในป่าลึก ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปปลูกต้นกล้าได้ โดยศูนย์แผนที่ดีเอสไอได้ส่งผลการตรวจสอบให้ป.ป.ท.ไปแล้วนานเกือบ 2 ปี


          ภายหลังการตรวจสอบไม่มีความคืบหน้า นายสมัครได้เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ตรวจสอบกรณีทุจริตปลูกป่าแก่งกระจาน ดีเอสไอโดยผลการตรวจสอบของพบข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว ดีเอสไอจึงสรุปสำนวนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ