ข่าว

ลูกชายยายลักษณ์ เปิดปากขอโทษ รับเมียเครียดพลั้งมือทำร้ายแม่

ลูกชายยายลักษณ์ เปิดปากขอโทษ รับเมียเครียดพลั้งมือทำร้ายแม่

15 ส.ค. 2562

ลูกชายยายลักษณ์ รับเมียเครียดหลังประสบอุบัติเหตุจึงแอบทำร้ายแม่ เผยคบกันมา 10 ปีไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรง ขอโทษสังคมไม่มีเวลาดูแลแม่ วอนหน่วยงานหาสถานที่รับไปดูแล

 

               วันที่ 15 สิงหาคม 2562 ที่ห้องพักผู้ป่วยโรงพยาบาลสามพราน ต.ไรขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งนางทองลักษณ์ หรือ คุณยายลักษณ์ อายุ 81 ปี ได้นอนพักรักษาตัวหลังจากถูกเพื่อนบ้านที่หมู่บ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑล สาย 5 ม.13 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองไร่ขิงให้นำรถพยาบาลมารับตัวไปรักษา เนื่องจากคาดว่าจะถูกคนในครอบครัวทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง โดยเฉพาะที่ใบหน้าและดวงตามีรอยบวมคล้ำจนตาปิด และมีบาดแผลหลายแห่งที่ศีรษะ โดยถูกส่งตัวมาตั้งแต่เมื่อช่วงสายของวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

 

 

               โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามอาการของคุณยายลักษณ์ วันนี้พบว่ามีอาการดีขึ้น สามารถฟังเสียงและโต้ตอบได้ดี แม้จะได้ยินจากหูข้างซ้ายเพียงข้างเดียว เนื่องจากใบหน้าและที่กกหูบวมจนปิดรูหู ที่ดวงตายังมองไม่เห็น เนื่องจากยังบวมและคล้ำดำจากการถูกกระแทก โดยมีผู้ที่มาเฝ้าไข้ญาติเตียงข้างๆ และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

 

 

ลูกชายยายลักษณ์ เปิดปากขอโทษ รับเมียเครียดพลั้งมือทำร้ายแม่

 

 

               จากการสอบถาม นางสาวตุ๊กตา ที่มานอนเฝ้าไข้ญาติอยู่เตียงติดกันกับคุณยายลักษณ์ เล่าว่า อาการของยายลักษณ์ดีขึ้น จากเมื่อวานที่ไม่พูดอะไรเลย วันนี้สามารถลุกขึ้นนั่งได้ และรับประทานนมกล่องรวมถึงตนได้ป้อนข้าวต้มให้ก็ยังกินได้ดี แต่ดวงตาที่มองไม่เห็นต้องใช้มือคลำสัมผัสตามหาแหล่งที่มาของเสียงเพื่อสำรวจว่าเป็นใคร ซึ่งคุณยายลักษณ์นอนอยู่คนเดียว ดูแล้วเป็นภาพที่น่าสงสารมาก ขณะที่ลูกชายได้มาเยี่ยมแม่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รวมประมาณ 30 นาทีก่อนจะกลับออกไป

 

 

ลูกชายยายลักษณ์ เปิดปากขอโทษ รับเมียเครียดพลั้งมือทำร้ายแม่

 

 

               โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายสุทิน (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี บุตรชายของยายลักษณ์ ซึ่งได้เดินทางกลับเข้ามาเยี่ยมดูอาการของยายลักษณ์อีกครั้ง ซึ่งได้บอกว่า ตนเองนั้นทราบว่ามีข่าวเกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ได้กลับไปสอบถามภรรยาแล้ว และได้พูดคุยกันทั้งคืนโดยได้บอกว่าเหตุการณ์นี้ขอให้เกิดขั้นเป็นครั้งสุดท้าย และขอโทษต่อสังคมและแม่ และยอมรับว่าตนเองนั้นผิด ที่ไม่มีเวลาดูแลแม่ ปล่อยให้ภรรยากับแม่อยู่กันตามลำพังบ่อยครั้ง เนื่องจากต้องทำงานหนัก ตนเคร่งครัดกับการทำงาน ตลอด 24 ปีที่ผ่านมาไม่เคยสาย ไม่เคยลางาน เพราะมีภาระต้องดูแลอีก 3 ชีวิต

 

 

 

               นายสุทิน บอกต่ออีกว่า ตนมีสำนึกของความเป็นลูกแน่นอน ที่มีทุกวันนี้ก็เพราะแม่ และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ภรรยาที่เคยแต่งงานร่วมชีวิตกันมา 10 กว่าปีนั้น ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ เมื่อก่อนภรรยาเขาก็ดูแลแม่ตนดีมากและแม่ตนก็เลี้ยงหลานดีมากเช่นกัน ปัญหาน่าจะเกิด 2 เดือนหลังที่ตนนั้นขี่รถจักรยานยนต์ล้มจนไหล่หัก ส่วนภรรยาก็ขาหัก พัก 2 เดือนเช่นกัน ก็ไม่มีรายได้ และเกิดความเครียดสะสม โดยการทุบตีนั้นเกิดมาก็คงระยะหลังเพราะตนก็สังเกตุว่าเกิดสิ่งผิดปกติกับแม่ พยายามจะสอบถามไปยังผู้จัดการหมู่บ้านแต่ยังไม่ได้บอกอะไรมากนัก ก็มาเป็นข่าวก่อน จริงๆแล้วตนคิดจะแก้ปัญหาให้จบด้วยตัวเองแต่ไม่ทัน

 

 

ลูกชายยายลักษณ์ เปิดปากขอโทษ รับเมียเครียดพลั้งมือทำร้ายแม่

 

 

               “วันนี้ผมบอกกับภรรยาว่าจะไม่มีเรื่องเหล่านี้อีกแล้ว เพราะดูเขาจะมีความเครียดรุนแรงมากขึ้น การทำร้ายและคำพูดไม่ดีผมก็ไม่ได้เห็นเอง ก็จะเริ่มมีคนมาพูดให้ฟังมากขึ้น วันนี้ผมบอกแล้วว่าต่อไปจะไม่มีอีก และขอสัญญากับทุกคนเรื่องนี้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับแม่ผมอีก แต่ผมก็ยังติดปัญหาเรื่องการดูแลแม่ เนื่องจาผมไม่มีเวลา คงต้องปรึกษาหน่วยงานให้มาช่วยผมด้วย” นายสุทิน กล่าว

 

 

ลูกชายยายลักษณ์ เปิดปากขอโทษ รับเมียเครียดพลั้งมือทำร้ายแม่

 

 

               ขณะที่ นางสาวกานต์พิชชา อมรภักธัญพร หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชน เทศบาลเมืองไร่ขิง ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมคุณยายลักษณ์ พร้อมทีมงาน กล่าวว่า สำหรับการพับเรื่องดังกล่าวทางเทศบาลเมืองไร่ขิง ได้มีการออกโครงการดูแลผู้สูงอายุอยู่แล้ว ก็ได้พอทราบเรื่องราวบ้างและได้เข้าไปตรวจหลายครั้ง กระทั่งเมื่อวาน อสม. ได้มาแจ้งว่ามีหญิงชราถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้เร่งออกให้การช่วยเหลือ แต่ติดปัญหาที่ทำเบียนบ้านของคุณยายลักษณ์นั้นอยู่นอกพื้นที่ จึงไม่สามารถช่วยได้เต็มที่ แต่ได้เตรียมประสานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อประสานองค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ละจังหวัดว่า ที่ใดว่างพอจะส่งยายลักษณ์ไปพักได้ เพราะทางบุตรชายได้แจ้งว่าไม่พร้อมในการจัดสถานที่เลี้ยงดู ซึ่งต้องคุยกันหลังจากอาการของยายลักษณ์ดีขึ้นต่อไป