ใครว่า "ติ่งเกาหลี" ไม่สนใจการเมือง | คมชัดลึก

             กับปรากฎการณ์ของ "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ที่พาเหรดทำกิจกรรม เดินขบวนเรียกร้องไปยัง "รัฐบาล - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) "  ให้จัดการเลือกตั้งภายในปี 2561 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นอกจากจะเป็นกระแส "เอาด้วย" ของ กลุ่มที่สนใจ เรื่องการเมืองอย่างเอาจริงเอาจัง แล้ว ยังเป็นกระแสลามไปถึง "กลุ่มวัยรุ่น" ที่ถูกขนานามว่า เป็น "ติ่งเกาหลี" 

             เห็นได้ชัดเจน คือ กระแสบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง "ทวิตเตอร์" ที่ ทีมข่าวคมชัดลึก เกาะติดกระแสฮอต ของ บรรดาแฟนคลับศิลปินเกาหลี ที่วันๆ เอาแต่ตามติดชีวิต ศิลปิน - ดารา สัญชาติเกาหลีที่ตัวเองชื่นชอบ และชื่นชม จนถูกตั้งฉายาว่า เป็น "ติ่งเกาหลี"   เขาหันมาร่วมแชร์ความเห็นและความรู้สึกต่อ "ความอยากเลือกตั้ง" ผ่าน ทวิตเตอร์แอคเค้าน์ของตัวเอง พร้อมติดแฮชแท็ก #ThWantElection  และ #กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
     

                 ซึ่งไม่การแชร์ความเห็นนั้น ไม่ใช่แค่ทำกันแค่วันเดียว เพราะ "ติ่งเกาหลี" รวมใจกันแชร์ มาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ถือเป็นวันครบรอบ 4 ปีการทำรัฐประหาร ของ  "คสช." จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม และถือเป็น แฮชแท็กติดอันดับป๊อปปูล่า ในเทรนด์ทวิตเตอร์ เมื่อจับความเคลื่อนไหวจะพบว่า "บรรดาติ่งเกาหลี" จะรวมใจแชร์ความเห็นและโพสต์ข้อความ พร้อมติดแฮชแท็ก #ThWantElection  และ #กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทุกๆ วัน เวลา 18.00 น.  โดยความเห็นส่วนใหญ่ เกี่ยวเนื่องกับการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ และแชร์ความเห็นทั้งภาคภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อสารไปยังชาวต่างประเทศ

                  กระแสดังกล่าว นี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หรือ เรื่องไร้สาระอีกต่อไป ตามความเห็นของ "MK-อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อกนัน  เว็ปข่าวและชุมชนคนไอทีรุ่นใหม่" ปัจจุบันทำงานให้กับ เว็ปไซต์ยอดฮิต อย่าง Wongnai ฐานะผู้เฝ้าสังเกตการณ์ปฏิบัติการของโลกออนไลน์  โพสต์ความเห็นต่อปฏิกริยานั้น ในเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยมีสาระสำคัญ ที่เป็นบทสะท้อนภาพความต้องการและความสนใจต่อการบ้านการเมือง ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เพิ่มมากขึ้น

  

                 "ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ที่กลุ่มวัยรุ่น วัยใส คนรุ่นใหม่ที่ติดตามศิลปินเกาหลี หรือ ติ่งเกาหลี ใน ทวิตเตอร์ ที่ถือเป็นกลุ่มคนที่ห่างไกลจากการเมืองมากที่สุด แต่กลับมีบทบาทในการแสดงความเห็น ร่วมกันปั่นแฮชแท้ก #กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง  และ#ThWantElection จนยอดพุ่งสูงถึง 1ล้านทวิต  แม้ความเห็นของกลุ่มนี้ หลายอย่างจะมั่วๆ เช่น ลือกันว่าไทยจะโดน ยูเอ็น บอยคอต แต่ไม่ใช่ประเด็น  เพราะความสำคัญ คือ ติ่งเกาหลี ที่อยู่ไกลการเมืองมากที่สุด กำลังเข้ามามีบทบาท เป็น  active citizen ในสังคมโดยตรง" โพสต์ของ อิสระยะ ระบุ

                 นายMk-อิสระยะ ยังสะท้อนภาพปรากฎการณ์ตามมุมมองส่วนตัวด้วยว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ คือ มีความเป็นธรรมชาติ และน่าติดตามว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรุ่นใหม่นี้จะไปได้ไกลขนาดไหน และคนเหล่านี้เมื่อเติบโตเขาจะมีความคิดทางการเมืองอย่างไร  การปั่นแฮชแท็กรอบนี้ ยังเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น 
  

                   กับการเฝ้าสังเกตของ นักสังเกตการณ์ กับ กระแส "ติ่งเกาหลี" ที่สนใจเรื่องการเมืองมากขึ้น ถือว่าเป็น กระแสที่น่าจับตา และคิดไปได้ว่า อาจเป็นปรากฎการณ์ทางการเมืองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อถึงวันเลือกตั้งจริงๆ พวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นหนึ่งเสียง ที่รวมกันเป็นพลังเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ตามระบบประชาธิปไตย ที่มีจุดเริ่มต้น ที่ การเลือกตั้ง ก็เป็นได้ หากพวกเขาพร้อมใจ กันมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

                   แต่ปรากฎการณ์นั้น จะถึงขั้นเรียกกระแส รวมใจออกมาเลือกตั้ง เมื่อวันหย่อนบัตรถูกกำหนดขึ้นจริงหรือไม่ ยังเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม ถึงการมีส่วนร่วมทางการเมือง เพราะเพียงแค่กระแส ทางโซเชียลมีเดีย ที่ถูกฝ่ายมั่นคงตั้งธง ว่า เป็น "กลุ่มจัดตั้ง" จะกลายเป็น "จุดเปลี่ยน การเมืองได้จริงหรือไม่"

                  เพราะหากจับกระแส การแสดงพลัง ผ่านการเปิดหน้า ร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อย่างล่าสุดที่ตัวแทน "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ประกาศทำกิจกรรม "ซดมาม่า ซ้อมอดอยาก รอเลือกตั้ง" เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ลานสกายวอร์ค หน้าศูนย์การค้าชื่อดัง แถวสยาม   นำโดย "เพนกวิน- พริษฐ์ ชิวารักษ์"  แม้กระแส แฮชแท็กบนทวิตเตอร์จะมีล้นหลาม แต่การออกหน้าร่วมกิจกรรม ยังมีบางตา

 

                  ดังนั้นจึงเป็นคำถามสำคัญ ว่า เมื่อถึงวันแสดงพลัง ออกเสียง ลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว คนรุ่นใหม่ - ติ่งเกาหลี เขาจะออกมาใช้สิทธิมากน้อยแค่ไหน และมากพอที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย ได้แท้จริงหรือไม. 

เรื่องโดย ณัฐธยาน์ พงษ์สุวรรณ ม.เนชั่น