ข่าว

อัยการรับสำนวน ก.ล.ต.ฟ้องแพ่ง 890ล.ปั่นหุ้นบริษัทสื่อ-POLAR

อัยการรับสำนวน ก.ล.ต.ฟ้องแพ่ง 890ล.ปั่นหุ้นบริษัทสื่อ-POLAR

27 มี.ค. 2561

"รองโฆษกอัยการ" แจงข้อ ก.ม.หลักทรัพย์ ให้อำนาจ ก.ล.ต. ยื่นอัยการฟ้องแพ่ง มาตรการลงโทษปรับ "25 นักปั่นหุ้น" กว่า 890 ล้านได้  

 


           27 มี.ค.61-นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวชี้แจงถึงขั้นตอนดำเนินการ กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีหนังสือขอให้พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องคดีแพ่ง กับผู้กระทำผิด 25 รายร่วมกันสร้างราคาหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) 6หลักทรัพย์  คือ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) , บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) , บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) บริษัทผลิตและจำหน่ายเส้นใยสังเคราะห์ , บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) , บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE-W1) ตามาตรการลงโทษให้ชำระค่าปรับทางแพ่งด้วยอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด จำนวน  890,789,424 บาทว่า จากการประสานงานไปยัง "นางอมราวดี ศัลยพงษ์" อธิบดีอัยการสำนักงานคดีแพ่ง ได้ทราบข้อมูลว่า สำนักงานอัยการคดีแพ่ง เพิ่งได้รับสำนวนดังกล่าวจาก ก.ล.ต. เมื่อวานที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ที่จะให้ฟ้องบังคับตามมาตรการทางแพ่ง ซึ่งขณะนี้พนักงานอัยการ กำลังพิจารณาสำนวนโดยจะดูรายละเอียดทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายก่อนที่จะแจ้งผลดำเนินการ

           โดยเรื่องนี้ เป็นผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งหากมีการกล่าวหาว่าทั้ง 25 รายกระทำผิด ตามกฎหมาย ม.317/1 เขียนไว้ชัดเจนว่า หาก "ก.ล.ต." เห็นว่าควรดำเนินการลงโทษทางแพ่ง จะเสนอไปยัง "คณะกรรมการ" พิจารณาการลงโทษทางแพ่งก็ได้ ซึ่งคณะกรรมการนั้นจะประกอบไปด้วยอัยการสูงสุด , ปลัดกระทรวงการคลัง , ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) , อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเลขาธิการ ก.ล.ต ซึ่งหากคณะกรรมการชุดดังกล่าวเห็นชอบตามที่ ก.ล.ต.เสนอ ก็จะมีมาตรการลงโทษทางแพ่ง ซึ่ง "ฝ่ายผู้ที่ถูกกล่าวหา" ถ้ายินยอมปฏิบัติตามที่คณะกรรมการชุดนั้นกำหนด ก็จะทำเป็นบันทึกความยินยอมเพื่อชำระเงินตามที่กำหนด และเมื่อชำระหมด คดีก็จะสิ้นสุดทั้งในส่วนแพ่ง และอาญา

             แต่กรณีนี้ "คณะกรรมการ" มีมติปี 2559 แต่ไม่มีการชำระ ดังนั้น ตาม ม. 317/8 ที่กำหนดไว้จึงให้สามารถฟ้องเป็นคดี ต่อศาลแพ่งได้ ซึ่งตาม พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 14 (5) ได้วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า "กรณีนิติบุคคลที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ แต่มี พ.ร.บ.หรือ พ.ร.ก.จัดตั้งขึ้น หากอัยการเห็นสมควร ก็จะรับดำเนินการให้" ซึ่งตรงนี้ถือเป็นดุลพินิจของอัยการ โดย ก.ล.ต. ก็จัดอยู่ในหน่วยงานที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐแต่เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งโดยกฎหมาย มี พ.ร.บ.จัดตั้ง ซึ่งสามารถส่งให้อัยการดำเนินการทางแพ่งได้