แก๊งคอลเซ็นเตอร์กระตุกหนวดรองเลขาฯ ปปง. ปลอมไอดีไลน์หลอกเหยื่อให้หลงเชื่อโอนเงิน สูญเงินกว่า 1ล้านบาท เตือนรูปแบบหลอกลวงซับซ้อน
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.60 พล.ต.ต รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง. )รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัทไปรษณีย์ไทยโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายและแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีพัสดุที่ยังไม่ได้รับจากไปรษณีย์ไทย โดยระบุว่าในพัสดุนั้นเป็นบัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่ง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งผิดพ.ร.บ.ไปรษณีย์และกฎหมายฟอกเงิน และหากผู้เสียหายต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์เรื่องเงิน ต้องโอนเงินมาให้ ปปง. ตรวจสอบ หากไม่โอนเงินมาจะต้องโดนระงับบัญชีทั้งหมดที่มีและหากผู้เสียหายเกิดความลังเล มิจฉาชีพจึงพยายามหว่านล้อมเล่าถึงวิธีการต่างๆ ในชั้นสืบสวนจนผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว ก่อนจะโอนสายโทรศัพท์ที่ปลอมขึ้นมาไปยังผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการแอบอ้างเป็นผู้บริหารของสำนักงาน ปปง.
"ที่ผ่านมามิจฉาชีพจะแอบอ้างว่าเป็นรองเลขาธิการ ปปง. พร้อมส่งภาพไอดีไลน์ปลอมของผมเพื่อยืนยันกับผู้เสียหายว่าเป็น ปปง. จริงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแอบอ้างเป็น พ.ต.ท. หญิงเอมอร ไชยบัวแดง อดีตรองเลขาธิการ ปปง. ซึ่งเป็นข้าราชการที่เกษียณอายุราชการไปแล้วอีกด้วย ส่วนผู้ที่จ้างให้เปิดบัญชีและผู้รับจ้างเปิดบัญชี อาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน และถึงที่สุดเช่นกัน มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาท หากมีข้อสงสัยใดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือสงสัยว่าอาจจะโดนหลอกลวงให้โอนเงิน สามารถโทรสอบถามได้ที่โทรศัพท์สายด่วน ปปง. 1710 "รองเลขาธิการฯปปง.กล่าว
รองเลขาฯปปง. กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีรูปแบบการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินผ่านอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก และถูกปรับเปลี่ยนวิธีการให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงขอเตือนประชาชนว่า หน่วยงานราชการจะไม่ติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์หรือสื่อสังคมออนไลน์ แต่จะติดต่อเป็นเอกสารทางราชการเท่านั้น ดังนั้นหากได้รับสายโทรศัพท์จากมิจฉาชีพต้องมีสติ ไม่ตกใจ และไม่โอนเงินให้กับมิจฉาชีพโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อซื้อขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มด้วย เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวงให้โอนเงินและอาจเข้าข่ายการรับจ้างเปิดบัญชี หรือนำไปสู่การซื้อขายหรือขายบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง