ข่าว

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เปิดบัญชีง่าย ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เปิดบัญชีง่าย ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย

29 พ.ย. 2567
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ และบัญชีเงินฝากประเภทอื่น ๆ แตกต่างกันอย่างไร ก่อนเปิดบัญชีเงินฝากต้องพิจารณาอะไรบ้าง หาคำตอบได้บทความนี้

KEY

POINTS

บัญชีเงินฝากคืออะไร มีทั้งหมดกี่ประเภท?

  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
  • บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
  • บัญชีเงินฝากประจำ
  • บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี

ชวนหาคำตอบ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ต่างจากบัญชีเงินฝากประเภทอื่นอย่างไร?

  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ VS บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ VS บัญชีเงินฝากประจำ


ข้อดีของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีอะไรบ้าง?
แนะนำบัญชีเงินฝาก ttb all free บัญชีเงินฝากรู้ใจวัยทำงาน!
เลือกบัญชีเงินฝากที่ใช่ ใช้งานตรงใจมากที่สุด

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออนไลน์ ทุกวัยเปิดบัญชีได้ง่าย ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมการเงิน

 

บัญชีเงินฝาก saving-account

 

ใครที่เคยเดินเข้าธนาคารก็จะพบว่า บัญชีเงินฝากมีหลายรูปแบบ ทั้งบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำ และบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ฯลฯ ซึ่งหลายคนสงสัยว่าบัญชีเหล่านี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร และไม่รู้ว่าควรฝากเงินเข้าบัญชีแบบไหนที่ใช่มากที่สุด? ในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับบัญชีเงินฝาก อ่านจบแล้วรู้ทันทีว่าควรเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์แบบไหนดี!

 

 

 บัญชีเงินฝากคืออะไร มีทั้งหมดกี่ประเภท?

บัญชีออมทรัพย์

 

 

บัญชีเงินฝาก คือ สมุดที่ธนาคารมอบให้แก่ผู้ฝากเงิน เพื่อแสดงรายละเอียดความเคลื่อนไหวของธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงิน ฝากเงิน หรือโอนเงินเข้าบัญชี ในปัจจุบันบัญชีเงินฝากมีหลากหลายประเภท บางประเภทของเงินฝากมีเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปและซับซ้อน เช่น ถ้าถอนก่อนกำหนดอาจจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่สถาบันการเงินกำหนดไว้ หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน จะไม่ได้รับสมุดบัญชี เพราะฉะนั้นเราควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะเลือกสมัครเปิดบัญชีเงินฝากของแต่ละประเภท ซึ่งสามารถแบ่งบัญชีเงินฝากได้ออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

 

1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์

 


บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ คือ บัญชีที่เหมาะแก่การทำธุรกรรมการเงินทั่วไป เพราะไม่กำหนดระยะเวลาไถ่ถอน รวมทั้งไม่บังคับฝากเงินเข้าเป็นประจำทุกเดือน และในกรณีที่ต้องการถอนเงินออกจากบัญชี สามารถถอนเงินได้ 2 ช่องทาง ได้แก่

  • ถอนเงินผ่านตู้ ATM ด้วยบัตรเดบิต หรือบัตร ATM
  • ถอนเงินผ่านสาขาของธนาคาร

 

นอกจากนี้ขั้นตอนการ เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ก็ไม่ยุ่งยากเท่าบัญชีประเภทอื่น เพราะใช้เอกสารเพียงไม่กี่อย่าง เช่น บัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) แค่มีบัตรประชาชนตัวจริง และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ก็สามารถเปิดบัญชีผ่านทางแอปพลิเคชัน ttb touch ได้ทันที หรือติดต่อได้ที่ทีเอ็มบีธนชาต ทุกสาขา

 

 

2. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน

 

บัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นบัญชีเงินฝากที่ช่วยให้จัดการเงินหมุนเวียนได้ง่ายขึ้น ลดการพกเงินสดจำนวนมาก อย่างเช่น บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ของ ttb สามารถใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) ได้ โดยธนาคารจะตัดดอกเบี้ยจากบัญชีทุกสิ้นเดือน สามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ง่ายจากใบแจ้งรายการเดินบัญชีทุกเดือน

 

 

3. บัญชีเงินฝากประจำ

บัญชีเงินฝากประจำ จะให้เจ้าของบัญชี ฝากเงินเข้าบัญชีตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด ซึ่งหากถอนเงินออกมาก่อนครบกำหนด จะไม่ได้ดอกเบี้ยในอัตราบัญชีเงินฝากประจำ แต่จะได้ดอกเบี้ยในอัตราบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทน

 

4. บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี

ในกรณีที่เจ้าของบัญชีเงินฝากได้ดอกเบี้ยเกินกว่า 20,000 บาทขึ้นไป จะถูกหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวน 15% แต่หากไม่ต้องการจ่ายภาษีดังกล่าว ก็สามารถหาทางออกได้ด้วยการเปิดบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี แต่ทั้งนี้เจ้าของบัญชีต้องฝากเงินเป็นประจำทุกเดือนตามที่ทางธนาคารกำหนด

 

 

ชวนหาคำตอบ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ต่างจากบัญชีเงินฝากประเภทอื่นอย่างไร?

เมื่อพิจารณาบัญชีเงินฝากทั้ง 4 ประเภทข้างต้น พบว่ามีผู้เปิดบัญชีออมทรัพย์มากกว่าบัญชีเงินฝากประเภทอื่น เพราะเปิดบัญชีง่าย มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน แต่ทั้งนี้บางคนอาจมีข้อเปรียบเทียบว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับบัญชีประเภทอื่นต่างกันอย่างไร ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 

  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ VS บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน

 

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ คือ บัญชีอเนกประสงค์สำหรับใช้จ่าย ออมเงิน หรือโอนเงินฝากในบัญชีตามที่เจ้าของบัญชีต้องการ ส่วนจะมีอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

ในขณะที่บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน มักใช้สั่งจ่ายเช็ค ทำให้เงื่อนไขการเปิดบัญชีซับซ้อนกว่า โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด รวมทั้งอาจกำหนดเงินฝากขั้นต่ำมากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันจะไม่มีหน้าสมุดบัญชีเหมือนกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อีกด้วย

 

  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ VS บัญชีเงินฝากประจำ

 

การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์มีความยืดหยุ่นมากกว่าบัญชีเงินฝากประจำ กล่าวคือ เจ้าของบัญชีไม่จำเป็นต้องฝากเงินเป็นประจำทุกเดือน และการถอนเงินออกมาใช้จ่ายไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงสาขาของธนาคาร โดยสามารถใช้บัตรเดบิต บัตร ATM หรือใช้แอปพลิเคชัน mobile banking ถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ได้

ในขณะที่บัญชีเงินฝากประจำ จะกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องฝาก ซึ่งในช่วงที่ขาดสภาพคล่องก็อาจฝากเงินไม่ไหว และการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากประจำต้องดำเนินการที่สาขาของธนาคารเท่านั้น

 

 

ข้อดีของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มีอะไรบ้าง?

จากความแตกต่างของบัญชีเงินฝากทั้ง 3 ประเภทข้างต้น สามารถสรุปข้อดีของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ได้ดังต่อไปนี้

 

1.สะดวกสบายในการทำธุรกรรมการเงิน

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีที่ใช้คู่กับแอป mobile banking ได้ ทำให้เมื่อฝากเงินเข้าไปแล้วก็สามารถสแกนจ่ายค่าสินค้าและบริการ รวมทั้งโอนเงินไปยังบัญชีต่างธนาคารที่ต้องการได้ผ่านปลายนิ้วสัมผัส โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) ยิ่งไปกว่านี้การผูกบัญชีเงินฝากเข้ากับแอป mobile banking ยังมีความปลอดภัยมากกว่าการเดินทางไปทำธุรกรรมการเงินที่สาขาธนาคาร ซึ่งมีความเสี่ยงทำเงินสูญหายอีกด้วย

 

2.ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

หลายคนไม่รู้ว่าโดยทั่วไปแล้ว ในกรณีที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตกับทางธนาคารแต่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันใด ๆ เราสามารถใช้บัญชีเงินฝากเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในกการสมัครบัตรเครดิตได้เช่นกัน เช่น หากต้องการสมัครบัตรเครดิต ttb แต่ไม่มีสลิปเงินเดือน

 

 

เราสามารถสมัครได้โดยใช้เงินฝากบัญชี ttb all free ค้ำประกันได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารได้กำหนด สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บัญชีเงินฝาก ttb all free ค้ำประกันในการสมัครบัตรเครดิต ttb ได้ที่เว็บไซต์ https://www.ttbbank.com/th/fin-tips/detail/understanding-secured-credit-card

 

 

 

 

แนะนำบัญชีเงินฝาก ttb all free บัญชีเงินฝากรู้ใจวัยทำงาน!

 

บัญชีออมทรัพย์ คือ

 

 

หากกำลังมองหาบัญชีเงินฝากที่เปิดบัญชีง่าย ทำได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน ต้องไม่พลาดกับบัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) ที่แค่ฝากเงินก็ได้รับความคุ้มครองชีวิต และมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์อื่นอีกมากมาย ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

1.ประกันอุบัติเหตุฟรี

บัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) มีจุดเด่นด้านประกันอุบัติเหตุ เพียงแค่ฝากเงินในบัญชีก็ได้ประกันอุบัติเหตุฟรี เมื่อเปิดบัญชีเงินฝาก โดยต้องคงเงินฝากไว้ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปทุกวันตลอดเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันสิ้นเดือน ก็ได้รับความคุ้มครองทันที

 

ซึ่งประกันอุบัติเหตุ สามารถเคลมประกันได้สูงสุด 3,000 บาท/อุบัติเหตุแต่ละครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งของอุบัติเหตุ ไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแสดงบัตร all free E-Care Card จากแอป ttb touch เบิกค่ารักษาได้กับสถานพยาบาลชั้นนำในเครือธนชาตประกันภัยกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ และรับวงเงินคุ้มครองชีวิต 20 เท่าของเงินฝากสูงสุด 3 ล้านบาท ยิ่งคงเงินฝากต่อเนื่องไว้ทุกวัน ตลอดเดือน รับความคุ้มครองฟรีต่อเนื่อง

 

2.ไม่จำกัดการถอนเงินฝาก และไม่มีค่าธรรมเนียมเปิดบัญชี

เมื่อนำเงินสดฝากธนาคาร เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องถอนเงินออกมาใช้จ่าย โดยการเปิดบัญชีเงินฝากที่จำกัดการถอนเงิน อาจทำให้เกิดปัญหาเวลาทำธุรกรรมที่ต้องใช้เงินจำนวนมากได้ ซึ่งบัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) สามารถถอนเงินได้ทุกสาขา โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน และการเปิดบัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี)ยังไม่เสียค่าธรรมเนียมเปิดบัญชี รวมทั้งค่าธรรมเนียมรายปีอีกด้วย

 

 

เลือกบัญชีเงินฝากที่ใช่ ใช้งานตรงใจมากที่สุด

บัญชีเงินฝากแต่ละประเภทนั้นมีวัตถุประสงค์การใช้งานแตกต่างกันออกไป และกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครไม่เหมือนกัน ก่อนเปิดบัญชีเงินฝากจึงจำเป็นต้องศึกษาให้ดีว่าตัวเราเหมาะกับบัญชีเงินฝากแบบไหนมากที่สุด

 

หากยังไม่รู้ว่าควรฝากเงินกับธนาคารไหนดี? ต้องไม่พลาดกับบัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) บัญชีธนาคารที่รู้ใจชาววัยทำงาน ที่พร้อมมอบสวัสดิการประกันอุบัติเหตุให้แก่ชาวไทยทุกคน และเปิดบัญชีเงินฝากได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ แอปพลิเคชัน ttb touch และทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา ทั่วไทย!

 

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีเงินฝาก ttb all free (ทีทีบี ออลล์ ฟรี) สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ https://www.ttbbank.com/link/sebl-24/komchud/wnov/ttb-allfree-deposit หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428  เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด