ราคาของ 'Bitcoin' (BTC) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และเผชิญกับแนวโน้มขาลงของราคาทั่วทั้งตลาด 'คริปโต'
คริปโตเคอร์เรนซีที่ยิ่งใหญ่ และเป็นที่นิยมมากที่สุด มักจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาโทเค็นที่เหลือในตลาด ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าราคาของ BTC จะลดลงในช่วงเวลาสั้นๆ โดยการคาดการณ์ที่เป็นลบมากที่สุด จะตกลงไปต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ดี ก็จะเห็นได้ว่า ช่วงเวลาที่สดใสของ BTC กำลังจะมาถึง ก่อนสิ้นปี เพราะ Bitcoin ต้องดิ้นรนในช่วงนี้ และผ่านช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดในเดือนก.ย. มา แล้ว
บทความนี้กล่าวถึงเหตุผลสำคัญ 4 ประการ ที่ Bitcoin อาจมีช่วงสิ้นปีที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับการพิจารณาอีก 1 ทางเลือกที่มีศักยภาพอย่าง Bitcoin BSC - ที่อาจทำผลงานได้ดีกว่า
Bitcoin Halving จุดประกายตลาดกระทิง
1. ในเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ราคา BTC ดีขึ้น นั่นก็คือ Bitcoin halving ครั้งต่อไป ในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่กำลังใกล้เข้ามา
การ halving ในทุกๆ ครั้ง ก็เป็นตัวเร่งหลักสำหรับภาวะกระทิงครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต
การ Halving เป็นกลไกที่ลดการปล่อยซัพพลายใหม่ของ Bitcoin ที่ให้กับนักขุดลงครึ่งหนึ่ง
การ Halving จะทำให้รางวัลต่อบล็อกลดลง ส่งผลให้อุปทานลดลงครึ่งหนึ่ง ผลักดันให้มีความต้องการเหรียญมากขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้น
กราฟที่แสดงด้านบน การ Halving แต่ละครั้ง ได้ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจากนักลงทุนคริปโตจำนวนมาก ทราบดีว่าการ Halving กำลังจะมาถึงในอีก 6 เดือนข้างหน้า นี่จึงอาจเป็นเวลาที่ดีที่จะสะสม Bitcoin ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น ในช่วงกระทิงครั้งต่อไป
การจัดตั้ง Bitcoin ETFs
การจัดตั้ง Bitcoin exchange-traded fund (ETFs) เป็น 1 ในแรงผลักดันหลัก ของการฟื้นตัวของ Bitcoin ในปี 2023 เนื่องจากราคาของ BTC เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 16,550 ดอลลาร์ ในเดือนมกราคม เป็นระดับสูงสุดที่ 31,500 ดอลลาร์ ในช่วงกลางเดือนก.ค.
บริษัทลงทุนรายใหญ่ เช่น BlackRock, Fidelity และ VanEck ได้ยื่นขอจัดตั้งเมื่อต้นปีนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนใน Bitcoin มีมากขึ้น
Spot Bitcoin ETFs ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้โดยไม่ต้องซื้อหรือเก็บไว้เอง โดยมีผู้จัดการ ETF เป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังสามารถเทรดได้ในตลาดหลักทรัพย์ หากได้รับการอนุมัติ
ในช่วงปลายเดือนส.ค. SEC ได้เลื่อนการตัดสินใจในการอนุมัติออกไป เป็นช่วงกลางเดือนตุลาคมแทน
นักวิเคราะห์ของ Bloomberg เชื่อว่ามีโอกาส “75%” ที่จะได้รับอนุมัติก่อนสิ้นปีนี้ และอดีตกรรมการ SEC อย่าง Jay Clayton กล่าวว่าพวกเขา "หลีกเลี่ยงไม่ได้" ซึ่งการอนุมัติครั้งนี้ จะทำให้ราคา BTC พุ่งสูงขึ้นทันที
กฎระเบียบและการลงทุนของสถาบัน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดข้างต้น ทำให้บริษัท สถาบันขนาดใหญ่ และสถานประกอบการทางการเงินหลายแห่ง ยังคงมีความมั่นใจในศักยภาพของ Bitcoin ในอนาคต
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา การวิเคราะห์จากธนาคาร Standard Chartered ของอังกฤษ คาดการณ์ว่า BTC จะสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2023 และพุ่งไปถึง 120,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2024
เช่นเดียวกับ Spot Bitcoin ETFs และ halving ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุปทาน ที่สำคัญ พวกเขายังให้เหตุผลอีกว่านักขุดทุ่มเททรัพยากรมากขึ้นเพื่อรักษาเครือข่าย และขาย BTC น้อยลง ทำให้เกิดความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานที่จะนำไปสู่ภาวะกระทิง
รายงานระบุว่า "ความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นของนักขุด ต่อ BTC (bitcoin) ที่ขุดได้ ดังนั้นการลดอุปทาน BTC สุทธิ จะผลักดันให้ราคาของ BTC สูงขึ้น"
เช่นเดียวกับการควบคุมกฎระเบียบของคริปโต ETFs ที่ครอบคลุมมากขึ้น และ SEC ยังคงต่อสู้กับบริษัทคริปโตหลายแห่งในชั้นศาล แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
กฎระเบียบดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้ราคาของคริปโตชั้นนำดีขึ้น เนื่องจากนักลงทุนทั่วไปจะมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการและราคาก็จะเพิ่มขึ้น
ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
การเติบโตและการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็น 1 ในประเด็นร้อนที่สำคัญที่สุดในปี 2023
บริษัท นักลงทุน และรัฐบาล ต่างรีบดำเนินการเพื่อความก้าวหน้าทาง AI ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขานำเสนอ และวิธีการจัดการเทคโนโลยี
AI ได้เข้าสู่วงการคริปโตอย่างเต็มตัว เพราะโทเค็นที่มี AI หลายตัว มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปี นักลงทุนและบริษัทต่าง ๆ ก็ต่างแย่งชิงเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้
เช่นเดียวกันกับ Bitcoin ที่ Cathie Wood ซีอีโอของ ARK Invest 1 ในผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุด เชื่อว่า AI มีศักยภาพมหาศาล ที่จะเปลี่ยนแปลง BTC
Wood พูดใน podcast เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันที่จะเกิดขึ้นระหว่าง Bitcoin และ AI และทวีตบน Twitter ว่า “การร่วมมือกันระหว่าง Bitcoin และ AI สามารถเปลี่ยนวิธีการจัดการระเบียบของบริษัทต่าง ๆ ส่งผลให้มีต้นทุนที่ลดลง และเพิ่มผลผลิตอย่างล้นหลาม ฉันรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ผู้ประกอบการเหล่านี้กำลังสร้างขึ้น”
ARK Invest ยังเผยแพร่รายงานที่ชี้ให้เห็นว่าบริษัทลงทุน กำลังประเมินความสำคัญของ AI ภายใต้กลยุทธ์การลงทุน
และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Arthur Hayes มหาเศรษฐี Bitcoin ยังได้พูดถึงศักยภาพของ AI ต่อการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin โดยเชื่อว่า AI จะมองเห็นศักยภาพของ Bitcoin เหนือคริปโตตัวอื่น ๆ เนื่องจากธรรมชาติที่ยั่งยืนในตัวเอง และไม่มีการแทรกแซงจากมนุษย์
Arthur Hayes กล่าว “AI จะไม่ยอมพึ่งพาสิ่งใด ๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ ดังนั้นมีเพียงทองคำและ Bitcoin เท่านั้น”
ChatGPT ระบบ AI ที่ช่วยจุดประกายการเคลื่อนไหวของ AI ยังคาดการณ์ว่า Bitcoin จะสูงถึง 35,000 ถึง 50,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้
Bitcoin BSC – Bitcoin ทางเลือก
ด้วยราคา BTC ปัจจุบันอยู่ที่ 26,200 ดอลลาร์ ดังนั้น BTC 50,000 ดอลลาร์ จะหมายถึงการเพิ่มขึ้นถึง 90%
Bitcoin BSC (BTCBSC) เป็นโครงการใหม่ล่าสุด ที่อาจจะเติบโตได้ดีกว่า Bitcoin และกำลังเสนอราคาที่ คล้ายกันกับ Bitcoin ในเดือนเมษายน ปี 2011 ที่ 0.99 ดอลลาร์
Bitcoin BSC เพิ่งเปิดตัวในสัปดาห์นี้ และระดมทุนได้แล้วกว่า 200,000 ดอลลาร์ โดยเป็น Bitcoin clone ที่ใช้ส่วนที่ดีที่สุดของคริปโตตัวแรก แต่ปรับปรุงให้ดีขึ้น
โครงการนี้สร้างขึ้นบน Binance Smart Chain และมีกลไก proof-of-stake แทนที่จะใช้กลไก proof-of-work ของ Bitcoin นั่นหมายความว่า Bitcoin BSC มีประสิทธิภาพกว่า และสามารถปรับขนาดได้มากกว่า มีต้นทุนการทำธุรกรรมที่ถูกกว่า และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าอีกด้วย
ที่สำคัญไปกว่านั้น Bitcoin BSC ยังเสนอผลตอบแทนจากการ stake ที่สูงลิบ
ตามแดชบอร์ดการ stake ของ Bitcoin BSC พบว่ามี BTCBSC มากกว่า 100,000 BTCBSC ที่ถูกล็อคเข้าสู่ staking pool ทำให้ปัจจุบันมีอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) มากกว่า 2,000%
การ stake ไม่เพียงแค่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงจูงใจในการถือโทเค็นให้นานขึ้น และลดแรงกดดันในการขาย ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้น
BTC20 ซึ่งเป็น Bitcoin clone อีกตัวหนึ่งที่เพิ่งเปิดตัวไป สามารถทำกำไรได้เกือบ 600% เมื่อเปิดตัวในกระดานแลกเปลี่ยน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และ Bitcoin BSC นั้นคงจะมีประสิทธิภาพที่คล้ายกัน และ Binance Smart Chain มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำกว่า BTC20 บน Ethereum อย่างมาก
นอกจากราคาจะเท่ากับ Bitcoin ในเดือนเมษายน 2011 แล้ว Bitcoin BSC ก็จะมีอุปทานหมุนเวียนเหมือนกัน โดยมี 4 ล้านโทเค็น ที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับการพรีเซลครั้งแรก และกันไว้อีก 2.125 ล้านโทเค็น สำหรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยมีราคาอยู่ที่ 0.99 ดอลลาร์ เช่นเดียวกัน
นั่นจะทำให้โครงการมีอุปทาน 6.125 ล้านอุปทาน เมื่อเปิดตัว คิดเป็น 29% ของอุปทานทั้งหมด และอีก 420,000 (2%) BTCBSC ที่ขุดไว้ล่วงหน้า จะมีไว้สำหรับสภาพคล่องในกระดานแลกเปลี่ยน
อุปทานสูงสุดจะอยู่ที่ 21 ล้าน เช่นเดียวกับ Bitcoin โดย 14.455 ล้านโทเค็น จะถูกกันไว้สำหรับ staking pool
Bitcoin BSC จะทยอยปล่อยโทเค็นในเวลา 120 ปี เหมือนกับ Bitcoin ทำให้โครงการมีอายุการเก็บรักษาที่มาก และเมื่อมีการปลดล็อคโทเค็น ก็จะสร้างแรงจูงใจให้ถือครองมากขึ้น
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารข้อมูลของโครงการ Bitcoin BSC และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram สำหรับติดตามข่าวสารล่าสุด
ไปที่ Bitcoin BSC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง