ข่าว

ชี้เป้า 5 บริษัททำเว็บไซต์ที่เจ๋งที่สุดในปี 2023

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 5 บริษัททำเว็บไซต์ที่เจ๋งที่สุดในปี 2023 พร้อมล้วงลึกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ให้ทุกคนได้ทราบกัน ใครที่ยังไม่เคยมีเว็บไซต์ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

เว็บไซต์เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจในทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ในยุคที่คนนิยม Social Media มาก ๆ อย่างทุกวันนี้ก็ตาม เว็บไซต์ก็ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดิม สำหรับวันนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 5 บริษัททำเว็บไซต์ที่เจ๋งที่สุดในปี 2023 พร้อมล้วงลึกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ให้ทุกคนได้ทราบกัน ใครที่ยังไม่เคยมีเว็บไซต์ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
 

แนะนำ 5 อันดับบริษัททำเว็บไซต์สุดเจ๋ง!
ทุก ๆ ปี จะมีบริษัททำเว็บไซต์เปิดขึ้นมาใหม่ ทำให้เรามีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าบริษัทรับทำเว็บไซต์บริษัทไหนเจ๋งจริง!? (ผลิตผลงานคุณภาพ งานดี ตอบโจทย์การใช้งาน ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย และมีความโดดเด่น) ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเราได้จัดอันดับบริษัททำเว็บไซต์ประจำปี 2023 ไว้ให้แล้ว! เราไปติดตามชมกันได้เลยว่าจะมีบริษัทไหนบ้าง และเป็นบริษัทที่คุณกำลังให้ความสนใจอยู่หรือไม่!?

 

 

บริษัท เยส เว็บ ดีไซน์ สตูดิโอ (Yes Web Design Studio)

 

 

1. Yes Web Design Studio
Yes Web Design Studio (เยส เว็บ ดีไซน์ สตูดิโอ) บริษัททำเว็บไซต์ใจกลางสยาม ที่โดนเด่นเรื่องการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ รวมถึงการจัดตั้งระบบต่างๆ บนเว็บไซต์เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละธุรกิจมากที่สุด Yes เป็นบริษัทรับทำเว็บไซต์เจ้าแรกของไทยที่ใช้กลยุทธ Free Homepage Mockup Design เปิดให้บริการมามากกว่า 4 ปี โดยทีมงานมืออาชีพ


นอกจากบริการด้านเว็บไซต์แล้ว ยังมีบริการด้านดิจิทัลอย่างครบวงจร (One Stop Service) อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตลาดออนไลน์, SEO, Media Production (ผลิตภาพและวิดีโอ), Branding & Corporate Identity, CRM, การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด และ Content Marketing

Yes มีลูกค้าที่เป็นองค์กรชั้นนำมากมาย ทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ Agoda, Land Rover and Jaguar, PTT, Boonrawd (Singha), Buriram United หรือ Italthai เป็นต้น เรียกได้ว่า Yes เป็นเจ้าใหญ่ในวงการออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ครับ


Website : https://yeswebdesignstudio.com
Tel : 096-879-5445
LINE : @Yeswebdesign
E-mail : [email protected]
Facebook : https://www.facebook.com/yeswebdesignstudio 
ที่อยู่บริษัท : ชั้น 17 อาคารวิทยกิตติ์ ถนนพญาไท วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (BTS สยาม)

 
Minimice Group (มินิไมซ์ กรุ๊ป)

 


2. Minimice Group
Minimice Group (มินิไมซ์ กรุ๊ป) บริษัททำเว็บไซต์และบริการด้านการตลาดออนไลน์ ที่มีชื่อเสียงด้านการทำ SEO มากว่า 5 ปี พร้อมให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ด้วยเครื่องมือการตลาดดิจิทัลครบวงจร มีประสบการณ์ในการร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับประเทศมาแล้วหลายแห่ง เช่น Fastwork Fitwhey และ Thammachart Seafood เป็นต้น


Website : https://minimicegroup.com
Tel : 02-258-5515
LINE : @Minimicegroup
Facebook : Minimice Group
ที่อยู่บริษัท : เลขที่ 63 ซอยปรีดีพนมยงค์ 14 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

 


3. Lexicon
Lexicon (เล็กซิคอน) บริษัทดิจิตอลเอเจนซี่ที่โดดเด่นด้านการทำ Brand Storytelling หรือการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจของคุณอย่างล้ำลึก น่าประทับใจ เพื่อให้ลูกค้า “รู้สึก” ใกล้ชิดและอินไปกับแบรนด์มากขึ้น

Website : https://lexiconthai.com
Tel : 02-235-8868
Facebook : Lexicon Business Communications
ที่อยู่บริษัท : วอลล์สตรีท ทาวเวอร์ ชั้น 25 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

 


4. ArioMarketing
ArioMarketing (อริโอมาร์เก็ตติ้ง) บริษัททำเว็บไซต์ที่มีบริการด้านการตลาดออนไลน์ร่วมด้วย โดยจะเน้นไปที่การทำโฆษณาผ่านช่องทาง Google และ Facebook เป็นหลัก ซึ่งล่าสุดได้มีการเพิ่มบริการ Influencer Marketing หรือการทำโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ สำหรับแบรนด์ที่ต้องการเพิ่ม Awareness

Website : https://ariomarketing.co.th
Tel : 02-026-3302
LINE : @ArioMarketing
Facebook : ArioMarketing
ที่อยู่บริษัท : อาคารลิขิต ห้อง 6/2 ชั้น 6 ลาดพร้าวซอย 23, จันทรเกษม, จตุจักร, กรุงเทพมหานคร 10900

 


5. Upmedio
Upmedio (อัพมีดิโอ) มีบริการเด่นคือการทำ SEO ควบคู่ไปกับการโปรโมตเว็บไซต์ เพื่อให้ติดหน้าแรกบน Google โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานบนเว็บไซต์และเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีบริการทำการตลาดผ่านช่องทาง Social Media อย่าง Facebook Instagram Tiktok และ LinkedIn อีกด้วย

Website : https://www.upmedio.com
Tel : 02-566-0491
Facebook : Upmedio
ที่อยู่บริษัท : 62 The Millenia tower No.1806, 18th floor, Soi Langsuan, Pathumwan, Bangkok 10330

 


เว็บไซต์จำเป็นจริงเหรอ?
ในสมัยนี้ เวลาที่คนอยากจะ “ค้นหา” อะไร มักจะไม่ค่อยเดินไปหาตามพื้นที่ต่าง ๆ และสอบถามด้วยตัวเองแล้ว แต่จะพึ่งพา Google ในการหาคำตอบเสมอ เพราะมันง่ายและประหยัดเวลามากกว่า ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง ไม่ต้องเสียค่ารถ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็รู้คำตอบแล้ว อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่คุณมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตบนมือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือนาฬิกาสมาร์ทวอทช์เท่านั้น

 


ซึ่งสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาบน Google ก็คือเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย พร้อมกับพาดหัวที่ดึงดูดใจให้เราอยากกดเข้าไปอ่านตาม ยิ่งเว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่สูงมากเท่าไหร่ โอกาสที่คนจะเห็น คลิกเข้าชม และสั่งซื้อสินค้าของคุณก็ยิ่งมีมากเท่านั้น แต่การทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่บนหน้าแรกของ Google นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ซึ่งสิ่งแรกที่คุณควรจะมีคือเว็บไซต์ที่สวยงามและตอบโจทย์การใช้งานนั่นเอง

 


จริงอยู่ที่เราสามารถขายของได้บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกเหนือจากเว็บไซต์ อย่าง Facebook, Shopee, Lazada, Instagram, Tiktok, Twitter ฯลฯ แต่อยากให้ทราบว่าการทำธุรกิจหรือขายสินค้าบนพื้นที่ของคนอื่น มันไม่ได้ยั่งยืนเท่าไหร่นัก แพลตฟอร์มนั้นอาจจะปิดบริการลงเมื่อไหร่ก็ได้ บอกยกเลิกสัญญากับเราได้ทุกเมื่อ ปรับเงื่อนไขการให้บริการเพื่อให้เราเสียเงินมากขึ้นก็มีไม่น้อย และอาจจะมีการเก็บค่าบริการเช่าพื้นที่อันแพงหูฉีกร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน หากเราไม่ได้มีเว็บไซต์ของตัวเองมารองรับ ลูกค้าประจำอาจจะหาเราไม่เจอ ไม่รู้ว่าเรามีช่องทางอื่น ๆ ให้ติดตาม หรือทำให้เราเสียลูกค้ากลุ่มนี้ไปได้เลย

 


การออกแบบเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ขอบคุณภาพจาก Idtheftcenter 

 

ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มไหนเป็นหลัก อย่างน้อย ๆ คุณก็ควรเปิดเว็บไซต์เป็นหน้าร้านของตัวเองไว้ด้วย  แต่ไม่ใช่ว่าเปิดเว็บไซต์ทิ้งไว้เฉย ๆ โดยที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย อันนี้ก็เปรียบเสมือนกับร้านค้าร้างที่ไม่มีการนำของมาตั้งโชว์ ไม่มีการบอกว่าขายอะไรบ้าง ลูกค้าก็ไม่รู้ว่าคุณให้บริการอะไร ดังนั้น คุณจึงต้องมีการอัปเดตข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอด้วย

 

เว็บไซต์ (Website) เปรียบเสมือนร้านของเรา ส่วนหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home Page) ก็คือหน้าร้าน ถ้าเราอยากจะนำเสนออะไรให้ลูกค้ารู้ เราก็ต้องนำเสนอลงไปที่หน้าเว็บไซต์นี่แหละ โดยเว็บไซต์นั้นมีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ตรงที่มีความมั่นคง ยั่งยืน ไม่ต้องเสียค่ายิงโฆษณา และสามารถใส่ข้อมูลรายละเอียดได้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของสินค้า ข้อมูลของบริษัท ฯลฯ เรียกได้ว่าพื้นที่นำเสนอนี้มีไม่จำกัด! สามารถใส่ได้ทั้งตัวหนังสือ รูปภาพ และรวมไปถึงวิดีโอด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำธุรกิจ

 
 ตัวอย่างการออกแบบเว็บไซต์ด้วย Elementor
ขอบคุณภาพจาก elementor

 

ประโยชน์ของเว็บไซต์
1. เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น

การเปิดหน้าร้านจริง สามารถรองรับลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกค้าเก่าเจ้าประจำ หรือไม่ก็คนที่สัญจรไปมาแถว ๆ นั้น โอกาสที่จำนวนลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้นจึงมีอยู่น้อยมาก อีกทั้งลูกค้าอาจจะไม่แน่ใจว่าคุณเปิดทำการวันไหนบ้าง หรือมีสินค้าอะไรมาใหม่บ้าง เป็นต้น 

 

การเปิดเว็บไซต์จะช่วยให้คุณและลูกค้าเข้าถึงกันง่ายมากขึ้น ลูกค้ารู้จักสินค้าใหม่ผ่านการที่คุณอัปเดตบนเว็บไซต์ ลูกค้ารู้วันปิด-เปิดร้านล่วงหน้า และติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมีการทำ SEO (Search Engine Optimization) ร่วมด้วย โอกาสที่ลูกค้าจะพบคุณก่อนคู่แข่งก็จะยิ่งสูงขึ้น


2. สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ
เว็บไซต์ช่วยให้คุณนำเสนอภาพลักษณ์ขององค์กรได้อย่างครบครันและน่าเชื่อถือมากที่สุด คุณสามารถปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้มีลักษณะที่ตรงกับความต้องการได้ คุณมีจุดเด่นอะไร มีวิสัยทัศน์อย่างไร และพร้อมให้บริการอะไร สามารถนำเสนอแบบจัดเต็มได้เลย!


3. เพิ่มโอกาสในการขายสินค้า/บริการ
เมื่อเว็บไซต์มีข้อมูลสินค้าครบถ้วนแล้ว ลูกค้าก็ไม่จำเป็นที่จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่หรือพนักงานขายอีก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เลยว่าต้องการซื้อสินค้านั้นหรือไม่ หากลูกค้าอยากได้สินค้านั้นจริง ก็สามารถสั่งซื้อบนเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอให้เปิดบริการก่อนเหมือนกับการซื้อที่หน้าร้าน


4.ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปิดหน้าร้านจริง
หากเทียบความเสี่ยงระหว่างเว็บไซต์และหน้าร้าน พบว่าการเปิดหน้าร้านมีความเสี่ยงสูงกว่า และใช้ระยะเวลาในการคืนทุนนานกว่า การเปิดหน้าร้านจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ทั้งค่าเช่าพื้นที่ ค่าก่อสร้าง ค่าตกแต่งสถานที่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเฟอร์นิเจอร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะที่เว็บไซต์นั้น จะมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าและไม่ต้องจ่ายหลายก้อนให้ยุ่งยาก หากคุณจ้างบริษัททำเว็บไซต์ที่ครบวงจร
 

5. นำข้อมูลมาต่อยอดทำธุรกิจได้
ข้อดีของการทำเว็บไซต์อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญต่อการทำธุรกิจ คือการนำข้อมูลและสถิติที่ได้จากพฤติกรรมลูกค้าจริง มาวิเคราะห์และนำไปต่อยอดปรับใช้ในแผนการดำเนินธุรกิจได้ เนื่องจากเว็บไซต์สามารถดูได้ทั้งจำนวนคนที่เข้าเว็บไซต์ในแต่ละหน้า จำนวนครั้งที่เรียกชมเว็บไซต์ คนชอบเข้าเว็บไซต์ในช่วงเวลาไหน คนชอบสินค้าอะไรมากที่สุด อัตราที่ลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์มีกี่เปอร์เซ็น หรือลูกค้าอยากรู้ข้อมูลแบบไหนบ้าง เป็นต้น

 

ธุรกิจแบบไหนควรมีเว็บไซต์?
-โรงพยาบาล คลินิกความงาม คลินิกสุขภาพ
-โรงงานรับผลิตสินค้าและวัสดุต่าง ๆ 
-ธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ 
-ธุรกิจที่พักอาศัย บ้าน คอนโด โรงแรม รีสอร์ท ห้องพัก
-ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ภัตตาคาร
-ธุรกิจอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
-ธุรกิจความงาม เครื่องสำอางค์ สกินแคร์
-โรงเรียน สถาบันกวดวิชา
-ธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าด้านเกษตร
-ธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้าง
-ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์หรือยานพาหนะ
-ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
-สำนักงานบัญชี สำนักทนายความ

 

สรุป
การมีเว็บไซต์อย่างเดียวไม่พอ คุณอาจจะต้องปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้มีความสวยงามและสดใหม่อยู่เสมอด้วย เพราะถ้าเว็บไซต์ของคุณง่ายต่อการใช้งาน ลูกค้าก็อยากจะเข้ามาดูและจับจ่ายซื้อสินค้าของคุณบ่อย ๆ นั่นเอง อย่างไรก็ตามถ้าคุณอยากจะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองสักหนึ่งเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ติดต่อบริษัททำเว็บไซต์ที่สนใจได้เลย เพราะการทำเว็บไซต์เองนั้นไม่ง่าย จะต้องอาศัยประสบการณ์จากมืออาชีพจริงๆ หวังว่าบทความนี้จะตอบคำถามสิ่งที่คุณอยากรู้ได้ และทำให้คุณได้ทราบว่าควรจะไปจ้างทำเว็บไซต์ที่ไหนดีนะครับ

 

 


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ