ข่าว

สสส. ขับเคลื่อนให้วัด-ร.ร.ปริยัติธรรมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สสส. ร่วมกับมูลนิธิโพธิยาลัย ถอดบทเรียนการทำงานของเครือข่ายพระคิลานุปัฏฐาก ขับเคลื่อนให้วัด-ร.ร.ปริยัติธรรมเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า สาเหตุสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) สู่การมีสุขภาวะที่ดี “วัดสร้างสุข พระสุขภาพดี บนวิถีธรรม สู่สุขภาวะชุมชน”

ที่ โรงแรมฮอลิเดย์ การ์เด้นท์ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิโพธาลัย จัดเวทีเสวนา “แลกเปลี่ยนบทเรียนการทำงานวัดปลอดบุหรี่ ปัจจัยเสี่ยงและการสร้างเสริมสุขภาวะวัดและชุมชน โดยเครือข่ายพระคิลานุปัฏฐากระหว่างภูมิภาค” ภายใต้โครงการวัดปลอดบุหรี่ สร้างชีวีด้วยหลักธรรม นำสู่สุขภาวะชุมชน โดยมีเป้าหมายในการทำให้วัดและโรงเรียนปริยัติธรรมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)

สสส. ขับเคลื่อนให้วัด-ร.ร.ปริยัติธรรมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธ, ผศ.ดร. อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการวัดปลอดบุหรี่ฯ กล่าวว่า การรณรงค์ให้พระสงฆ์ สามเณร เลิกบุหรี่ โดยตั้งคำถามว่าการสูบบุหรี่นั้นผิดศีล 5 หรือไม่ และจากการทำงานวิจัยเกี่ยวกับการวิเคราะห์หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งยืนยันว่า “ผิด” แต่หลายท่านยังมีความเห็นที่ต่าง โดยดูที่ “เจตนา” การมีศีลคือ เจตนาว่าทำแล้วร่างกายสุขภาพดีขึ้น แต่จะผิดถ้าเจตนานั้นทำแล้วเกิดการเบียดเบียนตนเอง หรือผู้อื่น เป็นการทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายสุขภาพร่างกายตนเอง

 

และนอกจากศีล 5 จะด่างพ้อย ยังมีเบญจธรรม คือ เมตตา กรุณา ซึ่งการสูบบุหรี่ ถือเป็นความปรารถนาดีหรือไม่ ก็จะเห็นชัดว่าการสูบบุหรี่ผิดหรือไม่ผิด 

พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธ, ผศ.ดร. อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการวัดปลอดบุหรี่ฯ

“แม้ว่าการสูบบุหรี่ ไม่มีบัญญัติในพระธรรมวินัย แต่พระธรรมวินัยนั้นพระพุทธเจ้าบัญญัติขึ้นเพื่อการแก้ปัญหา ไปสู่การเจริญสติ และการสุดพ้น อะไรที่จะเป็นอุปสรรคต่อการหลุดพ้น พระพุทธเจ้าก็จะบัญญัติเป็นพระธรรมวินัย ในสมัยพุทธกาลอาจจะยังไม่เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ชัดว่าการสูบบุหรี่มีโทษต่อร่างกาย ซึ่งการเข้ามาบวช เป็นแนวทางหนึ่งที่จะข่มใจ เพื่อที่จะลดละเรื่องนี้ได้ ถ้าเลิกได้จริง นับว่าเป็นอานิสงส์แล้ว คิดว่าพระควรออกมาพูดเรื่องนี้ให้มากขึ้น เพื่อที่จะให้ญาติโยมได้รับฟัง เพราะนี่คือเรื่องสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม คนที่มาบวชก็คือคนในชุมชน อาจจะต้องคุยกับญาติโยม ในการหากิจกรรม ในการขับเคลื่อนทำให้คนรู้เลยว่า วัดเป็นเขตปลอดบุหรี่ ใครเข้ามาห้ามสูบ” พระวิสิทธิ์ กล่าว

สสส. ขับเคลื่อนให้วัด-ร.ร.ปริยัติธรรมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ตั้งแต่คณะแพทยศาสตร์ได้สร้างโรงพยาบาลสงฆ์  มีพระเข้ามารักษาเกิน 10,000 รูปต่อปี จากเดิม 3,000 รูปต่อปี ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ขณะที่การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุโรคของปอด หัวใจและหลอดเลือด พระสงฆ์ ก็เหมือนกับฆราวาสมารับบริการมากขึ้นอุบัติการณ์ของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก มองว่าการป้องกันโรคย่อมดีกว่าการรักษา โดยการลดปัจจัยเสี่ยง 1. ถ้างดสูบบุหรี่ได้ ก็สามารถป้องกันได้หลายโรค และ 2 .อาหาร ที่รับถวายจากญาติโยม ต้องรณรงค์ให้จัดอาหารไม่หวาน มันเค็ม เพื่อรักษาสุขภาพ 

ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

“นอกจากบุหรี่ธรรมดา ที่น่ากังวลคือ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีสารนิโคติน สารเสพติด ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด มีผลต่อเส้นเลือด กระทบต่อสุขภาพเหมือนกัน เดิมคนมักคิดว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีผล แต่งานวิจัยระบุชัดแล้วว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา และยังมีโอกาสติดสารเสพติดอื่น ๆ ที่รุนแรงขึ้น เราจำเป็นต่อให้ความรู้แก่พระสงฆ์ เพราะพระจะได้เทศน์บอกญาติโยม ให้ตระหนักถึงภัยของบุหรี่ ทั้งบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากนี้ในพื้นที่โรงพยาบาล วัด โรงเรียน เป็นที่ปลอดบุหรี่ 100% และจริง ๆ แล้วก็ห้ามจัดให้มีพื้นที่สูบบุหรี่ ทำให้เกิดความยุ่งยากในการสูบมากขึ้น ก็เอื้อให้คนเลิกบุหรี่ได้ และองค์กรที่จะรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ก็ควรเป็นต้นด้วยการไม่สูบบุหรี่เองด้วย” ศ.นพ.บรรณกิจ กล่าว

 

นายศรีสุวรรณ ควรขจร รองประธานบริหารแผน คณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ปี 2564 ประเทศไทยมีผู้สูบบุหรี่ 9.9 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 17.4 อายุเฉลี่ยที่สูบจนเป็นนิสัยปกติในภาพรวมของประเทศคือ 19.7 ปี โดยอัตราการสูบบุหรี่ในกลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี อยู่ที่ร้อยละ12.7 ซึ่งลดลงจากปี 2560 (ร้อยละ15.4) แม้ว่าการสูบบุหรี่เป็นประจำมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย แต่กลับพบว่าเริ่มมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน

นายศรีสุวรรณ ควรขจร รองประธานบริหารแผน คณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

โดยพบว่าในจำนวนประชาชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า 78,742 คน เป็นเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี มากที่สุด ถึงร้อยละ 30.5 ขณะที่ผลการสำรวจสถานการณ์บริโภคยาสูบของสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรมปี 2565 พบว่า สามเณรเคยทดลองสูบบุหรี่ซิกาแรตร้อยละ 23.9 และเคยทดลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 32.8 

 

“สสส. ได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิโพธิยาลัยใน 2 ด้าน ได้แก่ 1. การขับเคลื่อนวัดและศาสนสถานให้เป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และสุราจำนวน 19 จังหวัด และ 2. การพัฒนาให้โรงเรียนปริยัติธรรมเป็นโรงเรียนปลอดบุหรี่ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีแก่สามเณร จำนวน 42 แห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและขยายพื้นที่วัดและโรงเรียนปริยัติธรรมเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และเป็นศูนย์กลางในการสร้างเสริมสุขภาวะ และพัฒนากลไกความร่วมมือระดับภาคต่างๆ นำไปสู่การเป็นวัดโรงเรียนปลอดบุหรี่ 100% และสร้างแกนนำพระสงฆ์เพื่อช่วยให้ผู้ที่สูบสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ผ่านการส่งต่อสายเลิกบุหรี่ 1600” นายศรีสุวรรณ กล่าว

สสส. ขับเคลื่อนให้วัด-ร.ร.ปริยัติธรรมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

โดยผลการดำเนินงานโครงการในการช่วยให้พระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชน ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่โดยใช้ฐานวัดในการชวนคนเลิกบุหรี่ ผ่านใบอธิฐานจิตพบว่ามีผู้เข้าร่วมลงนามอธิฐานจิตงดเหล้าบุหรี่ จำนวน 13,227 คน โดยกระจายไปตามวัดต่างๆ จำนวน 3,000 แห่ง พร้อมกันนี้ได้มีพระสงฆ์จำนวน 147 รูป  ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ โดยเข้าร่วมการอบรมพระคิลานุปัฏฐากและใช้กระบวนการสงฆ์ พระวินัยอย่างเข้มข้นในเรื่องการห้ามสูบบุหรี่ เช่น มีการเฝ้าระวังจากญาติโยมและพระสงฆ์แกนนำ ในการที่จะไม่ให้มีการสูบบุหรี่ภายในวัด

สสส. ขับเคลื่อนให้วัด-ร.ร.ปริยัติธรรมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง