
"จิรัฏฐ์" อดีต สส.พรรคประชาชน เปิดข้อหาแท้จริง ที่โดนศาลสั่งจำคุก
"จิรัฏฐ์" อดีต สส.พรรคประชาชน เปิดข้อหาแท้จริง ที่โดนศาลสั่งจำคุก เชื่อถูกกลั่นแกล้งจากรัฐไทย ขอสู้ต่อชั้นอุทธรณ์
ความคืบหน้าภายหลัง ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุก นายจิรัฏฐ์ หรือ นวรินทร์ ทองสุวรรณ์ อดีต สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีใช้ใบสด.43 ปลอม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
16 ธ.ค. 2568 นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ผมได้ประกันตัวออกมาตอนบ่าย 3 เพิ่งเห็นพาดหัวที่อาจทำให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะเรื่องปลอมเอกสาร วันนี้ศาลตัดสินว่าผมไม่ได้ปลอมเอกสารครับ โดยสรุปคำพิพากษาเท่าที่จำได้ ดังนี้
- 1. ยกฟ้องข้อหาปลอมแปลงเอกสาร
- 2. ผิดข้อหาใช้เอกสารปลอม "การกระทำของจำเลยกระทบต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชน" สั่งลงโทษ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
นายจิรัฏฐ์ ระบุว่า ยังมีข้อเท็จจริง และข้อต่อสู้จำนวนมากที่ศาลยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูด เช่น
- โจทย์ฟ้อง โดยที่ยังไม่ได้เห็นใบสด.43 ของผมเลย
- ผมนำเอกสารไปใช้แสดงเพราะเชื่อว่าไม่ไช่เอกสารปลอมแน่นอน ในเมื่อได้รับมาจากมือสัสดี ในสถานที่และในเวลาราชการ ซึ่งตลอด 13 ปีถึงปัจจุบัน ผมไม่เคยถูกกองทัพแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาไม่ไปรายงานตัว หรือข้อหาหนีทหารเลย (หากเอกสารฉบับนี้ปลอม ผมต้องมีความผิดตามข้อหาดังกล่าวในปีถัดไป ไปแล้ว) อีกทั้งลายเซ็นเจ้าหน้าที่ในใบสด.43 ของผม ก็เป็นลายเซ็นเดียวกันกับในเอกสารต้นขั้วที่กองทัพนำมาแสดงเอง เอกสารฉบับนี้จึงเป็นของจริงสำหรับผมอย่างไม่ต้องสงสัย
- ในเมื่อยกฟ้องและผมไม่ได้ปลอมเอกสาร ดังนั้นเอกสารฉบับนี้ก็ควรเป็นของจริง
- โจทย์ไม่ได้พิสูจน์ว่าเอกสารของผมเป็นของปลอมอย่างไร และใครเป็นคนปลอม
- โจทย์เพียงชี้แจงกระบวนการออกใบสด.43 และสรุปว่านอกเหนือจากนี้ถือว่าปลอมหมด โดยไม่ฟังข้อเท็จจริงอื่นเลย
- ศาลอ้างว่าผมเป็นกมธ.ทหาร ย่อมรู้กฎหมาย และรู้ว่าเอกสารฉบับนี้ปลอม ซึ่งกมธ.ทหารไม่ไช่เจ้าหน้าที่ทหารที่ทำงานอยู่ในกับระเบียบ และกระบวนการของทหารครับ
- ในเมื่อผมไม่ได้ปลอมขึ้นมา และผมก็ไม่ไช่สัสดี ผมจะแยกแยะของปลอมกับจริงได้อย่างไร
- ผมไม่มีเหตุจำเป็นต้องนำเอกสารราชการปลอมที่ไม่ได้มีผลทางกฎหมายอะไรอีกแล้ว ไปใช้หาประโยชน์อื่นใด
- การใช้เอกสารที่ไม่มีผลทางกฎหมายใดใดแล้ว ถูกต้องโทษจำคุกถึง 2 ปี ไม่รอลงอาญา ผมคิดว่าโทษรุนแรงเกินไปไม่ได้สัดส่วน
ข้อสังเกตเพิ่มเติมในชั้นไต่สวน
- หลักฐานเอกสารที่กองทัพใช้ ส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่ถูกทำลายแล้ว (มีการเจาะรูขนาดใหญ่กลางเอกสาร)
- ภาพที่กองทัพนำมาใช้เป็นหลักฐานเป็นภาพจาก tiktok ของนายทันกวิน ที่อัดคลิปโจมตีผมจำนวนมาก และเจ้าตัวก็มาคัดค้านการประกันตัวผมทุกครั้ง ทุกคดี
- ประวัติอาชญากรรมในคดีไม่ไปรายงานตัวเมื่อ 13 ปีที่แล้วของผม ซึ่งโจทย์นำมาเป็นหลักฐาน มีข้อความระบุว่า "เป็นมติให้เก็บไว้ใช้เพื่อประโยชน์ในราชการ" ลงวันที่ก่อนผมถูกฟ้องร้อง 8 เดือน และในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีการขอคัดสำเนาคำพิพากษาในคดีไม่ไปรายงานตัวเมื่อ 13 ปีก่อนที่ศาลฉะเชิงเทราโดยปลัดอำเภอ และสารวัตร สภอ.บางปะกง โดยไม่ทราบจุดประสงค์
- นายทหารพระธรรมนูญช่วยราชการยศพันโท ที่ได้รับคำสั่งให้ดำเนินคดีผม ใช้หลักฐานกล่าวหาจากภาพของรายการ politic ในขณะที่ผมให้สัมภาษณ์ ซึ่งจะมีบางช่วงบางตอนที่ผมได้หยิบเอกสารดังกล่าวออกจากกระเป๋าเสื้อและกำไว้ในมือ ซึ่งนายทหารยศพันโทท่านนี้ ซูมเข้าไปยังร่องนิ้วของผมขณะถือเอกสารและอ้างว่าเห็นเป็นเลขลำดับที่เอกสาร ซึ่งไม่ตรงกับต้นขั้วที่ชื่อนวรินทร์ จึงฟันธงว่าเป็นของปลอม
- ผมพยายามไล่ดูคลิปแบบ frame by frame อย่างน้อย 3 รอบแล้ว ก็ยังไม่เห็นตัวเลขที่ว่าแบบชัดๆ
- สิ่งที่ชัดที่สุด คือนายทหารยศพันโทท่านนี้มีความมุ่งมั่นและความพยายามมากเพื่อจะหาหลักฐานมาเอาผิดผมให้จงได้
จากข้อสังเกตเพิ่มเติมที่ว่ามา ผมรู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้งจากรัฐไทย (หลายหน่วยงาน) ที่ทำเรื่องนี้กันอย่างเป็นขบวนการ และมีแบบแผน โดยมีฝ่ายความมั่นคงเป็นหัวเรือใหญ่
วันนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าได้ทำอะไรผิดพลาดไปในอดีต ซึ่งผมก็ได้รับโทษไปเรียบร้อยแล้ว จากการถูกสังคมตั้งถาม และบางคนก็นำมาใช้ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่นั่นเป็นความจริงที่ผมปฏิเสธไม่ได้ ต้องน้อมรับและอดทนต่อไป แต่กับคดีนี้ที่ชัดเจนว่าเป็นคดีการเมือง ทั้งกระบวนการฟ้องร้อง รวมถึงคำตัดสินที่ออกมา ผมจึงต้องสู้ต่อเพื่อขอความเป็นธรรมในชั้นอุทธรณ์ครับ



