ข่าว

สส.ชนนพัฒฐ์ ฉะผู้สื่อข่าว "อย่านั่งแท่นแต่บ้าน" ปมน้ำท่วมหาดใหญ่

สส.ชนนพัฒฐ์ ฉะผู้สื่อข่าว "อย่านั่งแท่นแต่บ้าน" ปมน้ำท่วมหาดใหญ่

01 ธ.ค. 2568

ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ สส.กล้าธรรม ปะทะคารมเดือดผู้สื่อข่าวเนชั่น หลังโพสต์วอนรัฐเร่งระบายน้ำ เจอตอบกลับ "วานป้าลงมาดูที่เขาทำงานบ้าง"

1 ธ.ค. 2568  เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงในจังหวัดสงขลา หลังเกิดการปะทะคารมระหว่าง นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว หรือ สส.กฤต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 พรรคกล้าธรรม กับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา จากสำนักข่าวอิศราและเนชั่น โดยมีชนวนเหตุจากความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ที่ต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมขังต่อเนื่องกว่า 10 วัน

 

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.สิงหนคร ได้โพสต์ข้อความเรียกร้องผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเดือดร้อนที่กินเวลานาน ระบุว่า “เรียนท่านผู้มีอำนาจใหญ่โต ตอนนี้ชาวสิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ ระโนด อยู่กับน้ำมา 10 วันแล้ว วานช่วยสั่งการเครื่องผลักดันน้ำลงทะเลที” เพื่อวอนขอให้หน่วยงานรัฐเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยด่วน
 

สส.ชนนพัฒฐ์ ฉะผู้สื่อข่าว \"อย่านั่งแท่นแต่บ้าน\" ปมน้ำท่วมหาดใหญ่

ไม่นานนัก สส.ชนนพัฒฐ์ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าวในเชิงตำหนิ ระบุข้อความว่า “วานช่วยลงมาดูทีเค้าทำไรกันอยู่ อย่านั่งแท่นแต่บ้าน แล้วได้แต่พิมพ์ทอสัพ…” และตามด้วยข้อความที่สองว่า “พันพรือๆ ผมวานป้าลงมาดูที่เขาทำงานกันบ้างนะครับ ป้าพักผ่อนบ้าง” ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของโพสต์อย่างยิ่ง

 

ผู้สื่อข่าวรายนี้จึงได้ตอบกลับ สส. ทันที โดยชี้แจงสถานการณ์ส่วนตัวและวิจารณ์การใช้ภาษาของผู้แทนประชาชน ระบุว่า “ไม่ได้ออกไปดูค่ะเพราะน้ำถึงเอวมาหลายวันแล้ว และในฐานะผู้แทนประชาชน ควรใช้คำที่เหมาะสมกว่านี้ คำแบบนี้ไม่น่ามาจากมือผู้แทนค่ะ” การโต้ตอบที่ดุเดือดนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ตำหนิการเลือกใช้ภาษาของ สส.ชนนพัฒฐ์ ว่าไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้แทนประชาชนที่ควรให้ความสำคัญกับการรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน

 

สส.ชนนพัฒฐ์ ฉะผู้สื่อข่าว \"อย่านั่งแท่นแต่บ้าน\" ปมน้ำท่วมหาดใหญ่
 

รายงานข่าวระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จริงว่า หลายอำเภอของคาบสมุทรสทิงพระ รวมถึงอำเภอสทิงพระ, กระแสสินธุ์, ระโนด และบางส่วนของอำเภอควนเนียง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ แม้ในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดน้ำจะเริ่มลดลงแล้วก็ตาม ประชาชนหลายหมู่บ้านแสดงความกังวลว่าน้ำที่ท่วมขังมานานเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งอาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพ หากไม่มีการเร่งผลักดันน้ำออกจากระบบอย่างเร่งด่วน โดยดราม่าในครั้งนี้จึงสะท้อนถึงความเดือดร้อนสะสมของชาวบ้านที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจัง และแรงกดดันต่อการทำงานของหน่วยงานรัฐและผู้แทนในพื้นที่ที่ต้องดูแลปัญหาอุทกภัยอย่างทันท่วงที

 

สส.ชนนพัฒฐ์ ฉะผู้สื่อข่าว \"อย่านั่งแท่นแต่บ้าน\" ปมน้ำท่วมหาดใหญ่

สส.ชนนพัฒฐ์ ฉะผู้สื่อข่าว \"อย่านั่งแท่นแต่บ้าน\" ปมน้ำท่วมหาดใหญ่