ข่าว

นำม็อบ 22 พ.ย. ประท้วง "ทรัมป์-อันวาร์" แทรกแซงเอกราชไทย ปมชายแดน

นำม็อบ 22 พ.ย. ประท้วง "ทรัมป์-อันวาร์" แทรกแซงเอกราชไทย ปมชายแดน

17 พ.ย. 2568

จตุพร ฝนัดม็อบ 22 พ.ย. หน้าสถานทูตมาเลเซีย-สหรัฐฯ ประท้วง "ทรัมป์-อันวาร์" แทรกแซงไทย ปมกัมพูชาวางระเบิดชายแดน ถามฝ่ายค้านกลัวทรัมป์ เป็นขี้ข้าค้อมหัวศิโรราบ?

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 16 พ.ย. 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เอกราช!" ว่า คณะหลอมรวมพลัง เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และประชาชนได้ประชุม มีมตินัดชุมนุมหน้าสถานทูตมาเลเซียและสหรัฐฯ ในวันที่ 22 พ.ย. เพื่อประท้วงโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐและนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ที่เข้าแทรกแซงเอกราชไทยในปัญหากัมพูชารุกล้ำอธิปไตยเหนือดินแดนของไทยจนเกิดบาดหมางและทำพื้นที่ชายแดนตึงเครียด

โดยทรัมป์ใช้อันวาร์เปิดช่องทางให้เข้ามายุ่งเกี่ยวการเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชาและกัมพูชาละเมิดข้อตกลงวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตแดนไทยเป็นเหตุให้ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด 1 นาย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประท้วงและระงับข้อตกลงปฎิญญากัวลาลัมเปอร์ชั่วคราว เพื่อรอให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจึงดำเนินการต่อ

อย่างไรก็ตาม การประท้วงของนายกฯ ไทย ต้องการให้กัมพูชาขอโทษกรณีลักลอบวางทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นพฤติกรรมสะท้อนไม่อยากเจรจาสันติภาพ แต่พรรคฝ่ายค้านไทย แปลความหมายเจตนาขั้นต่ำสุดของนายอนุทิน เป็นการแข็งข้อกับทรัมป์ โดยจะส่งผลเสียต่อกำแพงภาษีการค้าที่สหรัฐเรียกเก็บกับไทย

 

"นายกฯ ไทย (นายอนุทิน) ยังไม่มีท่วงทำนองแข็งข้อกับทรัมป์เลย หากทรัมป์ต้องการเป็นกรรมการเจรจาทวีภาคีแล้ว คุณต้องมีใจที่เป็นธรรมเสียก่อน เพราะกัมพูชาละเมิดข้อตกลงเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยเข้ามาวางระเบิดใหม่ทำให้ทหารไทยขาขาดและเกิดความเสียหาย"

 

นายจตุพร กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านไทยทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน อิงแอบและกลัวสหรัฐจนหัวหดจึงออกประณามนายอนุทินว่า ทำให้ไทยเสียหายกับมาตรการกำแพงภาษีทรัมป์ ทั้งที่ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาไม่เกี่ยวข้องกับมาตรการเจรจาด้านภาษีกับสหรัฐ

 

"เมื่อกัมพูชาวางระเบิดละเมิดไทย ทรัมป์นั่งเป็นหัวหงอกหัวดำอยู่ได้อย่างไร คุณทำตัวไม่สมกับเป็นประเทศมหาอำนาจ ความจริงคุณต้องเตือนกัมพูชา และคุณไม่มีสิทธิ์อะไรมาบังคับประเทศไทย"

 

นาบจตุพร ย้ำว่า เมื่อทรัมป์แทรกแซงไทยแล้ว ประชาชนคนไทยจึงมีสทธิ์สำแดงพลังความเป็นชาติที่แข็งแรงหน้าสถานทูต เพื่อถ่วงดุลสหรัฐ ไม่ให้มาบ่งการโดยอ้างกำแพงภาษีมาเอารัดเอาเปรียบไทย

 

"วันที่ 22 พ.ย.นี้ คนไทยจะส่งสัญญาณความไม่พอใจทรัมป์กับอันวาร์ที่หน้าสถานทูตมาเลเซียและสหรัฐ เพราะเราเป็นประเทศเอกราช เราไม่เป็นชาติที่ไร้ศักดิ์ศรี ซึ่งเราจะยินยอมโดยอ้างความกลัวไม่ได้ เมื่อกัมพูชาละเมิดแอบวางทุ่นระเบิดจนทหารไทยขาขาด แล้วไทยจะเจรจาอะไรกันต่อไปอีก"

 

ส่วนพรรคฝ่ายค้านไทยนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายอนุทินเสนอให้กัมพูชาขอโทษเป็นเนื้อหาที่เบาที่สุดแล้ว แต่ฝ่ายค้านจะยอมเป็นขี้ข้าค้อมหัวศิโรราบให้ทรัมป์หรือ? แล้วเขาจะไว้ชีวิตคุณเหรอ ดังนั้นชาติที่มีเอกราชต้องกล้าสวนกลับเหมือนกัน เพื่อไม่ให้ประเทศใหญ่มารังแกประเทศเล็กได้ เพราะเราเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่ไม่ตกอยู่ใต้อาณานิคม เราเป็นชาติที่มีเอกราช

 

"ขอไทยอย่ากลัว ยิ่งแสดงความขี้ขลาดตาขาวก็ยิ่งถูกกดขี่ แค่คุณ (ทรัมป์-อันวาร์) ทำหน้าที่เป็นกรรมการให้ตรงไปตรงมา คุณยังทำไม่ได้เลย ดังนั้น ต้องยืนต่อสู้ที่ตัวตรงกันด้วยท่วงทำนองของความเป็นชาติ เราเชื่อว่าประเทศที่มีเกียรติเท่านั้นที่จะเจรจาอย่างมีเกียรติต่อกันได้ อย่าได้กลัวเรื่องกำแพงภาษี เพราะเรื่องดินแดนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและเรื่องสแกมเมอร์ก็ต้องปราบ เราต้องไม่ทำให้ประเทศไทยเป็นของตายของใครที่จะมาข่มเหง ตบหัวเล่นกันทุกวัน"

 

นายจตุพร ไม่เห็นด้วยกับท่วงทำนองของฝ่ายค้านที่ไม่ต้องการให้ไทยแข็งข้อใส่ทรัมป์ เพราะกระทบกับเศรษฐกิจการค้าของกลุ่มทุนจึงต้องเกรงใจสหรัฐ แต่ไทยเป็นประเทศเอกราชต้องไม่ทำตัวกระจอกงอกง่อย

 

อีกทั้งเชื่อว่า ไทยยังไม่เสียเปรียบการค้ากับสหรัฐเพิ่มเลย และทรัมป์มีพฤติกรรมกลับไปกลับมา เปลี่ยนท่าทีใหม่โดยไม่เกี่ยวข้องกับภาษีการค้าแล้ว ดังนั้น ไทยต้องเป็นชาติไม่วอกแวกและควรยืนตัวตรง พูดความจริงอย่างประเทศเอกราชมีศักดิ์ศรี และต้องไม่มีหลักยึดแบบตรรกปัญญาอ่อนของพรรคฝ่ายค้านบางพรรค