ข่าว

สรุปประชุม กมธ.มั่นคงฯ เดือด! "พิมพ์วิไล" แฉโอนเงินเว็บพนันให้ใครบ้าง

สรุปประชุม กมธ.มั่นคงฯ เดือด! "พิมพ์วิไล" แฉโอนเงินเว็บพนันให้ใครบ้าง

13 พ.ย. 2568

สรุปประชุม กมธ.มั่นคงฯ เดือด! "บิ๊กโจ๊ก" พา "พิมพ์วิไล" พยานปากเอก แฉโอนเงินเว็บพนัน ให้ตำรวจคนไหนบ้าง?

13 พ.ย. 2568 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน วาระการพิจารณาเรื่องสแกมเมอร์ต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเว็บพนัน โดยเชิญนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม และนายสมยศ พลายด้วง หรือ โกถึก สส.สงขลา แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คน ไม่มา 

นายรังสิมันต์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่านายชนนพัฒฐ์ ตอนแรกแจ้งว่าจะมาชี้แจง แต่สุดท้ายได้แจ้งมาว่าติดภารกิจในพื้นที่ แต่ไม่มีหนังสือแจ้งมา ส่วนนายสมยศ ทำหนังสือแจ้งว่าติดภารกิจไปต่างประเทศ ทำให้การพิจารณาวันนี้ จะเน้นไปที่ขบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกกว่า 200 นาย

จากกรณีรับส่วยจากขบวนการเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมไปถึง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาให้ข้อมูล ใช้เวลาในการประชุมร่วม 5 ชั่วโมง

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้สอบถาม น.ส.พิมพ์วิไล ว่า เหตุใดถึงโอนเงินไปหลายครั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดสงขลา จำนวนมาก และเป็นเงินค่าอะไร โอนอย่างไร 

น.ส.พิมพ์วิไล กล่าวว่า หลังจากที่ตนโดนจับ ได้ไปสอบถามคนที่ว่าจ้างให้โอนเงิน ว่าทำไมตนถึงได้โดนจับกุม ซึ่งคนที่ว่าจ้างตอบกลับว่า เงินที่โอนให้ตำรวจหรือโอนให้ไปในที่ต่างๆ เป็นเงินผิดกฎหมายหรือจากการพนัน และเป็นเงินที่เป็นส่วยที่ส่งให้กับตำรวจทั้งหมด ซึ่งส่วยดังกล่าว บางรายการก็รู้ บางรายการก็ไม่รู้ว่าเป็นส่วยเกี่ยวกับอะไร แต่ที่รู้คือเป็นส่วยเว็บไซต์การพนันออนไลน์
 

สรุปประชุม กมธ.มั่นคงฯ เดือด! \"พิมพ์วิไล\" แฉโอนเงินเว็บพนันให้ใครบ้าง

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จึงถามต่อว่า ตำรวจชุด PCT4 ที่มี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุด พบว่ามีการโอนเงินเข้าไปด้วย จึงอยากทราบว่า น.ส.พิมพ์วิไล โอนเงินจากเว็บพนันไปให้จริงหรือไม่ โอนผ่านใคร ตำรวจชื่ออะไร 

น.ส.พิมพ์วิไล ยอมรับว่าโอนผ่านจริง โดยคนว่าจ้างให้โอนให้ติดต่อกับคนๆ หนึ่ง ที่เขาจะมาเรียกเก็บจากตนทุกวันที่ 5 และ 10 ของเดือน โดยเขาแจ้งมาว่าตำรวจชุดนี้คือชุด PCT 4  จะโอนไปให้รองกาโม่ ซึ่งเป็นนายตำรวจอยู่ในชุด PCT 4 เรื่องนี้ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่

เพราะหลังจากที่ตนโดนจับกุม เพราะเป็นแค่คนที่โอนและทำบัญชี จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่มารู้ภายหลัง ทำให้ต้องไปร้องเรียนว่าเมื่อตนโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วทำไมต้องมาจับตนด้วย จึงคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จึงถามถึงนักการเมืองท้องถิ่น โดยมีชื่อของสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยพบว่ามีการโอนเงินไปให้ 1 ครั้ง จำนวน 1 แสนบาท และมีการโอนเงินไปให้กับนายคชาชาญ ซึ่งเป็นบัญชีม้าของดาบยาว รวมถึงโอนเงินไปให้บัญชีม้าคนอื่นๆ ของดาบยาว

โดยพบว่าเส้นเงินวิ่งต่อไปยังภรรยาของบิ๊กต่อ จำนวน 38 ครั้ง มูลค่า 3 ล้าน รวมทั้งพี่ชายและพี่สาวของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และเส้นเงินนี้ก็วิ่งไปยังนายเวรของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ทุกเส้นเป็นการโอนออก แต่มีเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ โอนกลับมาที่ น.ส.พิมพ์วิไล เพราะอะไร

 

น.ส.พิมพ์วิไล จึงกล่าวว่า ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
 

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เลยกล่าวว่าอยากให้ กมธ.แจ้งไปยังผู้บัญชาการคณะกรรมการข้าราชการตรวจ (ก.ตร.) และส่งเรื่องที่ชี้มูลไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะได้นำเรื่องไปประกอบสำนวนการสอบสวน รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ยึดอายัดทรัพย์นายตำรวจทั้งหมดที่รับเงินจากเว็บพนัน  และส่งเรื่องไปยังกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลังทั้งหมดของตำรวจที่รับเงินจากเว็บพนัน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ชี้แจงตลอดการประชุมว่าตนยังไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง บางคำถามก็ไม่ได้เตรียมข้อมูลมา ตนเตรียมข้อมูลมาแค่ 3 คำถามที่ส่งไปให้แค่นั้น ดังนั้น ขอให้เขียนให้ละเอียดว่าจะถามอะไรบ้าง จะได้มอบหมายให้ผู้ที่รับผิดชอบจริงมาตอบ ซึ่งอีกฝั่งมีข้อมูลเยอะ แต่ฝั่งเราไม่มีข้อมูล ดังนั้น ขอให้เชิญมาอีกรอบ

และระบุว่าจะต้องตอบในประเด็นไหนบ้าง ก่อนจะชี้แจงเส้นเงินที่เกี่ยวกับ น.ส.พิมพ์วิไลว่าได้ดำเนินคดีแล้ว ซึ่งในเส้นเงินนี้ ไม่มีเส้นเงินที่เกี่ยวกับตำรวจ PCT 4 อยู่ในนั้น ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกออกหมายจับแล้ว 2 นาย

นอกจากนี้ ยังชี้แจงเส้นเงินที่เกี่ยวกับนายชนนพัฒฐ์ ขณะนี้คณะตำรวจนครบาลรับผิดชอบไปแล้ว 21 เว็บ ที่มีการปิดไปแล้วและเปิดขึ้นมาใหม่ ทุกวันนี้มีการเสนอปิดกั้นไปที่กระทรวงดีอีฯ แล้วแสนกว่าเว็บ ปิดได้ประมาณ 70%  ซึ่งเว็บแต่ละเว็บขึ้นอยู่กับการจดทะเบียน อาจจะไปจดในประเทศที่ไม่ผิดกฎหมาย พอเมื่อปิดเขาก็สามารถเปิดขึ้นได้ใหม่ แค่เปลี่ยนตัวอักษรนิดหน่อย

สรุปประชุม กมธ.มั่นคงฯ เดือด! \"พิมพ์วิไล\" แฉโอนเงินเว็บพนันให้ใครบ้าง