
"อนุทิน" มั่นใจดีลถอนอาวุธ "ไทย-กัมพูชา" สร้างสันติภาพ ย้ำ! เปิดด่านชายแดนต้องถาม ปชช.ก่อน
"อนุทิน" ลั่น! ถอนอาวุธร่วม "กัมพูชา" คือจุดเริ่มต้นสันติภาพชายแดน ย้ำ! “เรื่องเปิดด่านชายแดน ต้องถามประชาชนก่อน” จะไม่เปิดจนกว่าจะมั่นใจ
การลงนามถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมลงนามเพื่อเป็นสักขีพยาน ที่มีกรอบความร่วมมือ 8 เรื่องเพื่อมุ่งสู่การสร้างสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชาอย่างแท้จริง
จนนำไปสู่การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC ) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ว่าด้วยการถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และกองทัพภาคที่ 2 แห่งราชอาณาจักรไทย ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ โอเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งได้แบ่งประเภทอาวุธออกเป็น 3 ประเภท และกำหนดช่วงเวลาในการถอนอาวุธแต่ละประเภท โดยกำหนดเป็น 3 ช่วง คือ ตั้งแต่วันที่ 1 - 21 พฤศจิกายน 2568 วันที่ 22 พฤศจิกายน - 12 ธันวาคม 2568 และวันที่ 13 - 31 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้จากการเริ่มถอนอาวุธหนักร่วมกันเป็นวันแรก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งในช่วงแรกอาจมีการติดขัดบ้างแต่ทั้ง 2 ฝ่ายพยายามที่จะทำตามข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้ ส่วนเรื่องการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ขอย้ำว่าต้องถามประชาชนก่อนและจะไม่เปิดด่านจนกว่าจะมั่นใจว่าภัยต่อความมั่นคงของชาติลดลงไปจนเราสามารถวางใจและควบคุมได้
ที่มา กรมประชาสัมพันธ์



