
"อนุทิน" คุย "โดนัล ทรัมป์" แบบส่วนตัว ลุ้นข่าวดีลดภาษีนำเข้าสหรัฐ
"อนุทิน" เผยเรื่องคุย "โดนัล ทรัมป์" แบบส่วนตัว ลุ้นข่าวดีลดภาษีนำเข้าสหรัฐ แถมเดินกลับมาย้ำปากเปล่า สัญญาเคลียร์ผู้แทนการค้าฯ ให้
30 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยถึงการพูดคุยกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นกรณีพิเศษ ในช่วงหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 2568) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยระบุว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น และมีประเด็นสำคัญที่น่าจับตา
นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กล่าวขอบคุณ นายทรัมป์ อีกครั้งที่เคยเป็นผู้ประสานงานการลงนาม "สันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา" และได้มีการอัปเดตความคืบหน้าว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มปฏิบัติตามข้อตกลงแล้ว โดยตั้งเป้าจะทำให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็วที่สุด
ประเด็นที่สองที่ถือเป็นไฮไลต์ของการพูดคุยคือ "การลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ" ซึ่งนายอนุทินได้พูดคุยต่อเนื่องจากครั้งแรกในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่มาเลเซีย โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวกำลังรอขั้นตอนสุดท้ายก่อนลงนาม แต่ตนได้ขอให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ช่วยสนับสนุนให้ไทยได้รับเงื่อนไขที่ดีมากกว่าเดิม ในฐานะมิตรประเทศที่ดีของสหรัฐฯ มาโดยตลอด
"นายโดนัลด์ ทรัมป์ รับปากและจะไปแจ้งกับฝ่ายผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ว่าจะทำอย่างไรให้มีการพูดคุยกัน ให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุด" นายกฯ กล่าว
เมื่อถูกถามถึงแนวโน้ม นายอนุทินแสดงความมั่นใจว่า สถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีมาก เนื่องจากได้พูดคุยกับนายทรัมป์ถึงเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้ง และที่สำคัญ หลังจากการพูดคุยครั้งล่าสุด นายทรัมป์ได้แยกย้ายไปทักทายผู้นำอื่น แต่ได้เดินกลับเข้ามาหาตนอีกครั้ง เพื่อย้ำว่าจะไปพูดคุยกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ให้ ซึ่งแสดงว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงจดจำเรื่องนี้ได้อย่างดี
นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่ไทยได้ร่วมประชุมใหญ่ระดับโลกทั้งอาเซียนและเอเปค ได้มีโอกาสหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ เช่น นายกรัฐมนตรีแคนาดา, ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน, ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ รวมถึงภาคธุรกิจอย่าง SK Bioscience แสดงให้เห็นว่า "ความสนใจของประเทศไทยในสายตาต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นเยอะ"
รายงานข่าวระบุว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างเป็นกันเองและชื่นมื่นมาก นอกจากจะมีการจับมือกันแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ "สัมผัสไหล่" นายกรัฐมนตรีอนุทินอย่างสนิทสนมอีกด้วย



