
ทัวร์ถล่ม "อนุทิน" บอก ไทยก็ล้ำเข้ากัมพูชาเช่นกัน ล่าสุดโฆษกรีบแจงข้อเท็จจริง
ดราม่า "อนุทิน" ให้สัมภาษณ์ปมแก้ปัญหาชายแดน หลังจับทือเซ๋น MOU กัมพูชา บอกไทยก็ล้ำเข้ากัมพูชาเช่นกัน ล่าสุดโฆษกรีบแจงข้อเท็จจริง
27 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการลงนามในถ้อยแถลงกับกัมพูชาถึงกระแสการเปิดด่าน ซึ่งยืนยันไม่มีการเปิดด่าน
ในบางช่วงบางตอนได้ระบุถึงการบริหารจัดการพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนว่า ขณะนี้เราเน้นไปที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ส่วนของกัมพูชาที่ล้ำมาฝั่งไทยก็มี และส่วนของฝั่งไทย ที่ล้ำไปฝั่งกัมพูชาก็มีเช่นกัน ซึ่งหากจะแฟร์ ก็ต้องแฟร์ทั้งสองฝ่าย และถ้าตกลงได้แล้ว มีของเราล้ำเข้าไป เราก็ต้องกลับมา และรัฐบาลไทยต้องจัดหาที่อยู่ให้กับคนที่ล้ำเข้าไปฝั่งกัมพูชา เช่นเดียวกันกับฝั่งกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในฝั่งไทย หากทำเช่นนี้ได้ ความเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทยจะลดน้อยลง และถึงจะมาเริ่มฟื้นฟูเรื่องความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งขณะนี้เราเหลือแค่เลขานุการโท เราได้เรียกทูตกลับมาแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าตนเองก็ไม่ได้อยากจะค่อย ๆ ทำมาก เพราะมันคือโอกาสที่เราเสียไป ถ้าความเป็นภัยไม่มีแล้ว เราก็จะต้องเร่งดำเนินการในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับไปในจุดที่มันควรแก่เหตุ หากตนเองบอกว่าฟื้นเลย เดี๋ยวจะไม่พอใจกันอีก แต่ยืนยันว่าจะไม่ทำให้เกียรติภูมิของประเทศเสียหายไปอย่างแน่นอน และเรื่องของการเปิดด่าน สำหรับตนเองจะเป็นเรื่องสุดท้าย เมื่อสถานการณ์ที่เป็นอันตรายหมดไปแล้ว ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ และกลับมาเปิดด่าน ซึ่งจะเป็นจุดสุดท้ายของกระบวนการ และหวังว่าความเป็นปกติสุขจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้เกิดกระแสดราม่าถึงคำพูดนายอนุทิน ที่ระบุว่า
"ส่วนของฝั่งไทยที่ล้ำไปฝั่งกัมพูชาก็มีเช่นกัน ซึ่งหากจะแฟร์ ก็ต้องแฟร์ทั้งสองฝ่าย และถ้าตกลงได้แล้ว มีของเราล้ำเข้าไป เราก็ต้องกลับมา และรัฐบาลไทยต้องจัดหาที่อยู่ให้กับคนที่ล้ำเข้าไปฝั่งกัมพูชา เช่นเดียวกันกับฝั่งกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในฝั่งไทย"
ล่าสุด นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า
"ท่านเปรียบเทียบว่าในการบริหารจัดการในข้อที่ 4 ถ้าไทยรุกล้ำไปฝั่งเขาก็ต้องเอากลับมาหาที่ให้อยู่ ซึ่งการที่กัมพูชารุกล้ำมาฝั่งไทยก็ต้องหาที่ให้คนที่รุกล้ำฝั่งไทยอยู่ใหม่ ในเชิงบริหารจัดการควรทำเช่นนั้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า นายกพูดถึงการบริหารจัดการที่เป็นธรรม ไม่ได้ไปเฉพาะเจาจงหรือชี้ว่ามีตรงไหนที่ไทยไปรุกล้ำกัมพูชา และการแก้ปัญหาต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง



