ข่าว

ร้อนแรง.. "รังสิมันต์ โรม" จี้ปลด! "ธรรมนัส" ปมคณะทำงานเอี่ยว "เบน สมิธ"

ร้อนแรง.. "รังสิมันต์ โรม" จี้ปลด! "ธรรมนัส" ปมคณะทำงานเอี่ยว "เบน สมิธ"

19 ต.ค. 2568

ไปกันต่อ สำหรับข่าวลือใหญ่ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ ในกัมพูชา ร้อนจน สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ออกมายืนยันว่า ไม่เป็นความจริง

 

ขณะเดียวกันได้มีการพูดถึง "รังสิมันต์ โรม" ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงประเด็น 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ ระบุว่า.. "เราต้องยอมรับจริงๆ ว่าตอนนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสแกมเมอร์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปประชุมหรือพูดคุยกับนักการเมืองที่ไหน ทุกคนล้วนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องยอมรับ ว่าความเคลื่อนไหวของประเทศไทยกลับตามหลังประเทศอื่นๆอย่างมีนัยยะสำคัญ 

 

ไม่นานมานี้ ท่านนายกตั้งคณะทำงานที่จะปราบปรามเรื่องแก๊งสแกมเมอร์ ความเคลื่อนไหวแบบนี้ฟังเหมือนจะดูดี แต่ผมเป็นห่วงจริงๆว่าจะเป็นแค่เพียงการซื้อเวลาเท่านั้น เพราะนอกจากการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว เรายังไม่เห็นความเคลื่อนไหวอย่างเอาจริงเอาจังของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่จะทลายศูนย์กลางของแก๊งสแกมเมอร์แต่ประการใด 

 

ไอ้ที่จับๆไปที่มีให้เห็นอยู่บ้าง ก็เทียบไม่ได้กับบรรดาแก๊งสแกมเมอร์ที่ใกล้ชิดกับสมเด็จฮุนเซ็น อันนั้นน่ะหลายแสนล้านบาท เผลอๆนับล้านล้าน เป็นเครือข่ายใหญ่มาก ทุกวันนี้เราก็เห็นแค่เพียงการส่งสัญญาณฟอกขาวของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐต่ออาชญากรตัวเป้งที่กัดกินสังคมไทยมาเป็นเวลานานเท่านั้น น่าผิดหวังจริงๆ

 

 

ผมขอเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยเหตุที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีถ้าท่านต้องการเอาจริงเอาจังและไม่ได้มีส่วนได้เสียใดๆกับแก๊งสแกมเมอร์ ท่านต้องสั่งการดังต่อไปนี้ได้แล้ว

 

 

1. ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า ออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสให้คณะทำงานของตัวเองเป็นทนายความให้กับนายเบน สมิธ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเฝ้าระวังจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซ็น อาจทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าทำหน้าที่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบของกรรมาธิการ อีกทั้งยังใช้อำนาจในลักษณะของการข่มขู่การฟ้องปิดปาก ต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ทำให้ขาดความเหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นใดอย่างยิ่ง

 

 

2. สั่งการให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินขอฃนาย เบน สมิธ และภรรยา, ร.อ. ธรรมนัส ตลอดจนเครือข่ายของนายยิม เลียก หากพบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดก็ต้องยึดอายัดทันที

 

 

3. สั่งการให้ ตร. เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการปราบปรามและดำเนินคดีเครือข่ายทุนเทายึดประเทศพวกนี้ หากเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา ก็ต้องมีการใช้กลของศาล ICC เพื่อเอาผิดต้องผู้นำของ กัมพูชาด้วย

 

 

ผมในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นฯ หวังว่าท่านนายกจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนตัวผมก็จะทำหน้าที่ของตัวเองในการเชิญท่านธรรมนัส ท่านนฤมล และท่านวรภัค เพื่อมาชี้แจงต่อกรรมาธิการความมั่นคงในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย โปรดมาด้วยตนเองนะครับ อย่าส่งใครมาแทน

 

 

สุดท้ายนี้ในฐานะที่ผมได้ติดตามคณะรัฐสภาไทยในเวทีการประชุม IPU หรือสหภาพรัฐสภา ณ นครเจนีวา ผมก็จะหยิบยกเรื่อง Scam Center เพื่อเป็นหนึ่งในเรื่องเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่การยกระดับความร่วมมือในการจัดการแก๊งสแกมเมอร์ต่อประเทศต่างๆต่อไปด้วยครับ"

 

ร้อนแรง.. \"รังสิมันต์ โรม\" จี้ปลด! \"ธรรมนัส\" ปมคณะทำงานเอี่ยว \"เบน สมิธ\"

ร้อนแรง.. \"รังสิมันต์ โรม\" จี้ปลด! \"ธรรมนัส\" ปมคณะทำงานเอี่ยว \"เบน สมิธ\"

ร้อนแรง.. \"รังสิมันต์ โรม\" จี้ปลด! \"ธรรมนัส\" ปมคณะทำงานเอี่ยว \"เบน สมิธ\"