ชีวิต "ป้าจูรี" รองหัวหน้า ปชป. ลูกชาวนา สู่ ดาวติ๊กต๊อก และ เส้นทางการเมือง | คมชัดลึก

ทำความรู้จัก "จูรี นุ่มแก้ว" ดาว TikTok และ อินฟลูเอนเซอร์ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งภาคใต้ เปิดตัวแน่ชัดว่าตัดสินใจสมัครเข้าพรรคประชาธิปัตย์ (ก่อนหน้านี้มีกระแสสังกัดพรรคภูมิใจไทย) และล่าสุดเขาได้รับเลือกในดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ด้านการสื่อสาร)

 

"จูรี นุ่มแก้ว" หลายคนมองภาพลักษณ์เป็นสาวประเภทสอง แต่จริงๆแล้วเขาชื่อ ตรัย นุ่มแก้ว มี ภรรยา และมีลูก 3 คน ที่ผ่านมาต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าการแต่งหญิงเป็นเครื่องแบบในการทำงาน เพราะเขาทำคอนเท้นต์จนได้รับฉายาในโซเชียลว่า "ป้าจูรี"

 

มีผู้ติดตามในติ๊กต็อก maxtrai แหลงเล่า มากกว่า 1.8 ล้านคน และถูกใจกว่า 96.4 ล้านครั้ง ส่วนในเฟซบุ๊กไม่น้อยหน้า เพจ จูรี นุ่มแก้ว มีผู้ติดตามกว่า 4.5 แสนคน เพจ แหลงเล่า By Maxtrai มีผู้ติดตามถึง 1.3 ล้านคน

 

การศึกษา

-ระดับปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต (ระยะเวลาเรียน 2ปีครึ่ง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง 

-ปริญญาโทนิติศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาบริหารงานยุติธรรม)มหาวิทยาลัยรามคำแหง 

-เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 67

-ใบอนุญาตว่าความ

 

การทำงาน

-อดีตประธานศูนย์พัฒนาการพูดราคำแหง

-อดีตข้าราชการประจำสำนักประธานศาลปกครองสูงสุด(พนักงานคดีปกครอง)

-แชมป์เดี่ยวดวลไมค์คนแรกของประเทศไทย

-อดีตผู้ประกาศข่าวประจำช่องเวิร์คพอยท์ 

 

 

ชีวิตคนชื่อจูรี นุ่มแก้ว จากทุ่งนา "ระโนด" สู่ ดาว TikTok 56 ล้าน และเส้นทางการเมือง 

 

จากเด็กบ้านนอกลูกชาวนาใน อ.ระโนด จ.สงขลา จุรีได้ใช้ความสามารถสอบบรรจุเข้ารับราชการได้สำเร็จ แต่ชีวิตในระบบราชการ อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา

 

จุรีจึงผันตัวเข้าสู่วงการสื่อสารมวลชน โดยได้เป็น ผู้ประกาศข่าว ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง หลังจากชนะการประกวดภายในองค์กร แต่ชีวิตในฐานะผู้ประกาศข่าวก็ไม่ได้ทำให้จูรีรู้สึกมั่นคงในระยะยาว เมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เขาได้เลือกที่จะละทิ้งความสำเร็จในเมืองกรุง เก็บกระเป๋าพาลูกและภรรยากลับสู่บ้านเกิดอีกครั้ง

 

ชีวิตสุดลำบาก พลิกวิกฤตสู่เน็ตไอดอล

​การกลับบ้านไม่ได้ง่ายดายนัก แต่ความลำบากไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้ ด้วยความมุมานะและความตั้งใจในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทำให้เขาตัดสินใจเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว 

 

จุรีใช้ภาษาใต้สำเนียงบ้านเกิดถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตประจำวัน สะท้อนปัญหาสังคม ชุมชน และประสบการณ์ส่วนตัวในบุคลิกของ "ป้าจูรี" แม้จะเป็นการทำงานแบบตัวคนเดียว ทั้งคิดบท ร่างคอนเทนต์ และแสดงเองทั้งหมด แต่ด้วยเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย จริงใจ และสนุกสนาน ทำให้ "ป้าจูรี" กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว

 

อีกทั้งจุรี เป็นคนสนใจด้านการเมืองมาตั้งแต่ต้น เมื่อมีชื่อเสีย ก็อยากเป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องชาวใต้ จึงตัดสินใจลงสมัคร สส. สงขลา ในนาม พรรคชาติพัฒนากล้า แม้ไม่ได้ชัยชนะ แต่คะแนนถือว่าไปได้สวย เมื่อปี2566

 

 

ภายหลังจากจูรีได้รับตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเข้ามาทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ภายใต้การนำของ“คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ในฐานะ“รองหัวหน้าพรรค” ของผมในวันนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาในพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเพราะเงื่อนไขจำนวนมาก พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองไม่มีใครเป็นเจ้าของ มีข้อบังคับชัดเจน มีสมาชิกเก่าแก่อยู่จำนวนมาก โดยที่ภาจกิจฟื้นฟูพรรคในครั้งนี้ คุณอภิสิทธิ์เสนอต่อที่ประชุมเพื่อให้สมาชิกยกเว้นข้อบังคับพรรค ให้สามารถนำคนรุ่นใหม่มาร่วมทำงานได้ 

 

สำหรับผมเองเป็นลูกชาวบ้าน ไม่ใช่ลูกหลานตระกูลดัง ไม่ใช่ทายาททางการเมืองของใคร   ไม่ใช่ผู้รับเหมาหรือต้องการอำนาจใดมาอุ้มชูธุรกิจของตัวเอง  แต่เป็นเพียงผู้ที่อยากเห็นประเทศนี้ดีขึ้น เจริญขึ้น น่าอยู่ขึ้นผ่านระบบการเมืองที่ดี  นี่จึงเป็นสิ่งยืนยันการเริ่มต้นปรับรูปโฉมใหม่ของสถาบันการเมืองที่ชื่อว่า "พรรคประชาธิปัติย์" ณ เวลานี้  เพื่อจะเป็นปากเสียง ความหวังและตัวเลือกสำคัญของพี่น้องชาวบ้านประชาชน