ข่าว

"ชลน่าน" เชื่อ 4 เดือนรัฐบาล "อนุทิน" ไม่ใช่แก้ปัญหา แต่สร้างหายนะ

"ชลน่าน" เชื่อ 4 เดือนรัฐบาล "อนุทิน" ไม่ใช่แก้ปัญหา แต่สร้างหายนะ

29 ก.ย. 2568

"ชลน่าน" อภิปราย เชื่อนโยบาย 4 ด้าน ในระยะเวลา 4 เดือนรัฐบาล ไม่ใช่แก้ปัญหา แต่สร้างหายนะ สืบทอดอำนาจ ขณะที่ "อนุทิน" ตอกกลับ ตัวเองทำไม่ได้อย่าหายว่าคนอื่นทำไม่ได้

29 ก.ย. 2568 ในการประชุมสภา แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายเป็นคนที่ 2 ต่อจากผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 

 

โดยพูดถึงภาพรวมนโยบายทั้ง 4 ด้านของรัฐบาลอนุทินในกรอบเวลา 4 เดือน ไม่อาจนำไปสู่ทางออกของแต่จะกลายเป็นปัญหามากกว่า และไม่ใช่ปัญหาธรรมดาแต่เข้าขั้นหายนะ

 

1.ประชาธิปไตยไทย รัฐบาลภูมิใจไทยพูดมาตลอดว่า จะผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่สังคมเห็นอาจเรียกว่าเป็นสัญญาลมปาก จึงอยากใช้โอกาสนี้ผลักดันให้พรรคประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองที่ร่วมเซ็น MOA ผลักดันและเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการทำให้วุฒิสภายืนยันว่า จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นจริงประเทศไทยยังคงต้องถูกแช่แข็งต่อไป

\"ชลน่าน\" เชื่อ 4 เดือนรัฐบาล \"อนุทิน\" ไม่ใช่แก้ปัญหา แต่สร้างหายนะ

2. ระบบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แบบใหม่ที่นำมาใช้ครั้งเดียวในปี 2567 จนกลายเป็นต้นตอของปัญหา เพราะออกแบบมาให้การ นัดแนะ ตกลง แลกเปลี่ยนคะแนน ระหว่างผู้สมัครสามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย จนเกิดกลุ่ม สว. ที่คนทั้งประเทศขนานนามว่าเป็น สว.สีน้ำเงิน หลัง สว.ชุดนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่พบว่ามีการลงมติไปในทิศทางเดียวกันซ้ำๆ โดยเฉพาะประเด็นที่สอดคล้องกับพรรคภูมิใจไทย สะท้อนให้เห็นถึงเครือข่ายทางการเมืองที่ผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างสภาสูงกับพรรคการเมือง

 

 

ที่น่าเป็นกังวลจากการไต่สวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ระบุว่า มีผู้เกี่ยวข้องรวม 229 คน ในจำนวนนี้เป็นกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยและผู้ใกล้ชิดถึง 91 คน หากการสอบสวนแล้วเสร็จ กกต. มีสิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคภูมิใจไทยได้ในอนาคต ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลนี้คือหายนะต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และระบอบประชาธิปไตย เช่นนี้จะให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า นโยบายนี้จะไม่ใช่แค่ลมปากมาหลอกลวงประชาชน และทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งยุ่งยากมากขึ้น กลายเป็นวิกฤตประชาธิปไตยมากยิ่งไปกว่าเดิม

 

 

หายนะเรื่องความโปร่งใสและหลักนิติรัฐนิติธรรม โดยตั้งข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีที่มีฐานที่มั่นในบุรีรัมย์ สะท้อนปัญหาเรื่องการใช้ฐานอำนาจท้องถิ่นและเครือข่ายการเมืองมากกว่าการคัดสรรบุคคลตามความสามารถและมาตรฐานจริยธรรมที่ควรเป็น พน้อมเปรียบเปรยฉายารัฐบาลนี้ว่าเป็น "รัฐบาลอนุวิน-เนทิน-หนูเน"

หลายคนยังขาดความโปร่งใสและความชอบด้วยกฎหมาย เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เคยต้องโทษคดียาเสพติดในออสเตรเลีย แม้ศาลรัฐธรรมนูญปี 2564 จะตีความว่าไม่ขาดคุณสมบัติตามกฎหมายไทย แต่สังคมยังตั้งคำถามถึงมาตรฐานจริยธรรมของการแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่ง 

 

 

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องที่ดินเขากระโดง คดีฮั้ว สว. ที่ยังไม่ได้รับการสะสาง รัฐบาลที่มีประเด็นเรื่องความโปร่งใสเช่นนี้จะบริหารประเทศได้อย่างไร

 

3.การขาดความสามารถในการบริหารประเทศ ซึ่งหลายปัญหาที่ประกาศจะแก้ไข แต่ท่านเคยละเลยและอาจเป็นผู้สร้างปัญหาไว้เสียเอง โดยเฉพาะการเข้ารับตำแหน่งทั้งที่ท่านได้รับสมญานามจากสื่อต่างประเทศว่าเป็น Cannabis King เพราะ ประกาศปลดล็อกกัญชากัญชงออกจากบัญชียาเสพติด เปิดทางให้ประชาชนปลูกและใช้ได้ แม้จะตั้งเจตนารมณ์ว่าเพื่อการแพทย์และสุขภาพ แต่เมื่อดำเนินจริงกลับพบว่ากัญชาถูกใช้ในเชิงสันทนาการอย่างแพร่หลาย ส่วนกฎหมายควบคุมกลับยังล่าช้า เต็มไปด้วยช่องโหว่ และขาดมาตรการคุ้มครองเยาวชน สร้างปัญหาทางสังคมและสาธารณสุขที่ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงและต้องแก้กฎหมายต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

 

 

4. สิ่งที่น่าเสียดายที่สุด คือ หายนะทางโอกาสของประชาชน หลายโครงการที่พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์กลับถูกหยุดชะงัก ไม่ว่าจะเป็น บ้านเพื่อคนไทย หรือ โครงการ ODOS ที่จะยกระดับแรงงานและอาชีวะ รวมถึงนโยบายดอกเบี้ย 19% หรือแม้กระทั่ง Financial Hub ทั้งหมดนี้ถูกสกัดจนไม่เกิดผล ประชาชนไม่ได้แค่เสียเวลา แต่ถูกขโมยอนาคตและพลาดโอกาสไปต่อหน้าต่อตา

 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือหายนะของประเทศในระยะยาว จัดวางอำนาจเพื่อสืบทอดและครอบงำมากกว่าพยายามที่จะสร้างภาพอนาคตของประเทศที่ดูจับต้องได้ เวลา 4 เดือน สำหรับการเมืองอาจจะไม่นาน แต่สำหรับประชาชนที่ต้องทนอยู่กับเศรษฐกิจชะลอตัว รายได้ที่ไม่พอรายจ่ายและคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีขึ้น เป็นเวลาที่สูญเสียไปอย่างไร้ความหมาย 

 

\"ชลน่าน\" เชื่อ 4 เดือนรัฐบาล \"อนุทิน\" ไม่ใช่แก้ปัญหา แต่สร้างหายนะ

ด้านนายอนุทิน ตอบกลับว่า พอท่านทำไม่ได้ ท่านไปคิดคนอื่นทำไม่ได้ด้วย จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจเข้ามาแก้ไขความเสียหาย ตนยอมรับในสภาพนี้ และครม.อีก 35 คน จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเรียกความเสียหายความสูญเสียทั้งในเรื่องเกียรติภูมิประเทศ เรื่องเศรษฐกิจ ขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยประชาชน กลับมาสู่คนไทยให้ได้ในระยะเวลา 4 เดือน มั่นใจว่าทำได้ เพราะเตรียมการเรื่องนี้มามากพอสมควร การทำงาน ทุกคนมีความรู้ความสามารถแต่ต้องไม่เปรียบ บางทีท่านทำไม่ได้ ไม่ใช่คนอื่นทำไม่ได้ 

 

 

ส่วนนโยบาย 30 รักษาทุกโรค ขอเคลมอีกอย่างหนึ่งว่า ยืนยันชื่นชมศรัทธาเสมอ เป็นนโยบายมีคุณกับประชาชน แต่ 30 บาทรักษาทุกที่  "อนุทินครับ ไม่ใช่ ชนน่าน" ผมทำตั้งแต่เป็ร รมว.สธ. 4 ปี ผมเคยอยู่ในรัฐบาลเดียวกันท่านนโยบายต่างๆ พยายามตอบสนองทุกเรื่อง ยกเว้น แตะถึงความมั่นคงของประเทศ ความเสียหายของประเทศ และคุณภาพของชีวิตประชาชน ตนจึงตัดสินใจไม่ร่วมนโยบายนี้กับท่า นถือเป็นเกียรติ ที่ถูกเชิญออกมา และทำให้ ปชช รู้ว่าพรรคไหนคิดะงปรพโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง บางทีท่สนทำไมได้ และไปคิดว่าคนอื่นก็ทำไมได้ด่วย มันไม่ถูก จะเป็นรัฐบาลเฉาพกอจที่เข้ามาแก้ไขความเสีบหาย ที่เข้ามาแก้ไข