ข่าว

ศาลยกคำร้อง "ชาญชัย" ขอห้าม "ทักษิณ" ออกนอกประเทศ คดีชั้น 14

ศาลยกคำร้อง "ชาญชัย" ขอห้าม "ทักษิณ" ออกนอกประเทศ คดีชั้น 14

08 ก.ย. 2568

ศาลฎีกา ยกคำร้อง "ชาญชัย" ยื่นขอห้าม "ทักษิณ" ออกนอกประเทศ เหตุไม่ใช่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในคดีชั้น14 เชื่อไม่มีดีลลับก่อนตัดสิน

กรณีเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เพื่อขอให้ศาลออกข้อกำหนดห้าม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกราชอาณาจักร จนกว่าจะมีคำสั่งจากกรณีการบังคับโทษของนายทักษิณเป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่


วันนี้เวลา 15.00 น. ที่ศาลฎีกาฯนักการเมือง สนามหลวง ศาลนัดฟังคำสั่งในคำร้องดังกล่าว 

 

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายชาญชัย เปิดเผยหลังฟังคำสั่งว่า ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วเห็นว่า ตนเองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงในคดีดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะยื่นคำร้อง ศาลจึงมีคำสั่งยกคำร้องขอห้ามไม่ให้นายทักษิณเดินทางออกนอกราชอาณาจักร 

ส่วนตัวเข้าใจได้ว่า เป็นอำนาจการพิจารณาของศาล แต่อย่างน้อยเป็นข้อดีว่า ศาลท่านทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วและสามารถพิจารณาออกคำสั่งได้เอง หลังจากนี้ไม่ต้องมีใครมายื่นคำร้อง ส่วนจะมีหรือไม่มีคำสั่งส่งถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เป็นดุลพินิจของศาล 

 

ศาลยกคำร้อง \"ชาญชัย\" ขอห้าม \"ทักษิณ\" ออกนอกประเทศ คดีชั้น 14
นายชาญชัย ทองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นายทักษิณเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพราะอยากให้กลับมาฟังคำสั่งของศาล เพื่อให้กระบวนการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งตนมองอยู่แล้วว่า หากนายทักษิณยอมเดินทางมาที่ศาล อย่างมากสุดก็แค่ถูกจำคุก 1 ปี หรือรอดพ้นความผิด แต่ถ้านายทักษิณไม่ยอมรับในกระบวนการ คดีความก็อาจจะเพิ่มขึ้นและกลับประเทศไทยยากลำบากมากขึ้น จึงเชื่อว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นายทักษิณได้คิดทบทวนตัวเองมาดีแล้ว 

สำหรับการอ่านคำสั่งในวันพรุ่งนี้นั้น จะเริ่มต้นในเวลา 09.00 น. ซึ่งตนเองก็จะเดินทางมาฟัง เพื่อดูว่ามีประเด็นอะไรบ้าง ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ตนก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะได้ทำหน้าที่ของตัวเองไปแล้ว ให้จบเป็นเรื่อง ๆ ไป แต่เชื่อว่าคำสั่งในวันพรุ่งนี้จะเป็นผลทำให้ ป.ป.ช. นำไปขยายเรื่องดำเนินการต่อ หากศาลมีประเด็นพิจารณาว่า พบเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือและมีความผิด ก็จะนำไปสู่การสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีบุคคลระดับถึงรัฐมนตรีที่มีความผิดด้วย 


นายชาญชัย ระบุว่า มีความเชื่อมั่นในคำสั่งของศาลในวันพรุ่งนี้ จึงไม่เชื่อว่ามีดีลลับอะไร เพราะองค์คณะผู้พิจารณาคดีทั้ง 5 ท่านนั้น เป็นระดับปรมาจารย์ฝ่ายนิติศาสตร์ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านกฎหมาย จนได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมใหญ่ ซึ่งได้รับสมญานามว่า "ตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด" เพราะมีความตรงฉินน่าเชื่อถือ ดังนั้น คำสั่งในวันพรุ่งนี้ จะกลายเป็นบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเป็นคดีใหญ่และเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินคดีทุจริตในประเทศ รวมทั้งจะกลายเป็นตำราสำหรับผู้เรียนกฎหมายในอนาคต 

 

ไม่มีทางเป็นไปได้ ที่นายทักษิณจะขอเลื่อนการฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้ ด้วยอ้างเหตุว่าป่วย ต่อให้นายทักษิณไม่เดินทางมาฟัง ตามกฎหมายแล้วก็สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ เพราะถือเป็นการบังคับคดีจากคำพิพากษา ขึ้นอยู่กับนายทักษิณว่า จะเลือกหนีทั้งชีวิตหรือยอมเข้าสู่กระบวนการ

 

ใครทำอะไรไม่ดี ก็ต้องรับผลกรรม ใครทำผิดทำความเสียหายต่อบ้านเมือง ต้องรับผิดชอบ ถ้ายังหนี ถือว่าคิดผิดอย่างมาก