
เปิดประวัติรู้จัก "อนุทิน" กับเส้นทางสู่เก้าอี้ผู้นำ ตัวแปรสำคัญในเกมอำนาจการเมือง
เปิดประวัติรู้จัก เสี่ยหนู "อนุทิน ชาญวีรกูล" จากทายาทนักการเมือง สู่ 'หัวหน้าภูมิใจไทย' กับเส้นทางสู่เก้าอี้ผู้นำ ตัวแปรสำคัญในเกมอำนาจ
อนุทิน ชาญวีรกูล เกิด 13 กันยายน พ.ศ.2509 เกิดที่กรุงเทพมหานคร มีชื่อเล่นว่า "หนู" ที่สื่อมวลชนนิยมเรียกกันว่า "เสี่ยหนู" ต่อมาสื่อมวลชนได้เรียกเป็น“หมอหนู” ในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเขาเป็นบุตรคนโตของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (STECON) มีน้องชายได้แก่ นาย มาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) มีน้องสาวหนึ่งคน คือนางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ กรรมการ บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด
ชีวิตส่วนตัว สมรสครั้งแรกกับสนองนุช (สกุลเดิม วัฒนวรางกูร) เมื่อปี พ.ศ. 2533 มีบุตร 2 คน คือ นัยน์ภัค และเศรณี ชาญวีรกูล ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 เขาได้หย่ากับสนองนุช และสมรสใหม่กับศศิธร (สกุลเดิม จันทรสมบูรณ์) รองกรรมการผู้จัดการ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ ปากช่อง ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 อนุทินได้หย่ากับศศิธรอีกสามปีต่อมาเขาเปิดตัวสุภานัน นิรามิษ (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วธนนนท์") ซึ่งเป็นคู่รักคนปัจจุบัน
ประวัติการศึกษา
อนุทิน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Hofstra ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2532 และจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Mini MBA) เมื่อปี พ.ศ.2533
ในปี พ.ศ.2553 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 9 (วตท.9), พ.ศ.2555 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านการบริหารงานพัฒนาเมือง รุ่นที่ 1 (มหานคร 1)
ปี พ.ศ.2555 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านการพัฒนาเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 (พ.ต.ส.3), พ.ศ.2555 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 1 (วพน.1), ในปี พ.ศ. 2556 หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 17 (บ.ย.ส.17)
พ.ศ. 2557 ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, พ.ศ. 2559 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ รุ่นที่ 9 (TepCot 9) และ พ.ศ. 2559 โครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. 2560 หลักสูตรการปฏิรูปธุรกิจและสร้างเครือข่ายนวัตกรรม รุ่นที่ 1 (BRAIN 1), พ.ศ. 2560 หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 5 (ปธพ.5), พ.ศ. 2560 หลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 (กทส.1)
พ.ศ. 2560 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมาศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศานศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น, พ.ศ. 2560 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมาศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, พ.ศ. 2561 : ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมาศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นอกจากนี้ ยังจบหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 6 (นธป.6) และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 (วปอ.61) อีกด้วย
ประวัติการทำงานบางส่วน
- พ.ศ.2532 : Mitsubishi Corporation, New York, U.S.A., Production Engineer
- พ.ศ.2533 : บริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ทางด้านเทคนิค แผนกโครงการทางด้านการเงิน
- พ.ศ.2533 : บริษัท ซิโน-ไทย คอนสตรัคชั่น เซอร์วิส จำกัด, ผู้จัดการทั่วไป
- พ.ศ.2534 : บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน), ผู้จัดการทั่วไป
- พ.ศ. 2535 : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน): ผู้จัดการทั่วไป
- พ.ศ.2537 : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน): กรรมการรองผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ
- พ.ศ.2538 : 2547 – บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน): กรรมการผู้จัดการ
- พ.ศ.2549 : ประธานคณะกรรมการการก่อสร้างโครงการเขตพระราชฐานฯ
- 2551 - 2561 : ประธานกรรมการ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน)
อนุทิน เข้าสู่วงการการเมือง
พ.ศ.2539 เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ประจวบ ไชยสาส์น) และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ.2547 และพ.ศ.2548) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พ.ศ.2547) ต่อมาถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในปี พ.ศ.2549
พ.ศ.2555 สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย หลังจากพ้นกำหนดการตัดสิทธิทางการเมือง และได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555
พ.ศ.2557 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป อนุทิน ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
พ.ศ.2562 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป อนุทิน ได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อต่อรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี
หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จัดตั้งรัฐบาล โดยเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. 2566 นายอนุทิน ได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และต่อมาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ต่อมารัฐบาลครั้งใหม่ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งพรรคก้าวไกลส่งไม่ต่อเนื่องจากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้จะเป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยได้เชิญพรรคภูมิใจไทยที่มี สส. 71 เสียง ร่วมจัดตั้งรัฐบาล
พ.ศ. 2566 มาถึงรัฐบาลใหม่ หลังจัดตั้งรัฐบาล และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐบาลทั้งคณะ นายอนุทิน ได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และคุมกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ อีก 1 ตำแหน่ง
พ.ศ. 2567 เดือน ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นนายกรัฐมนตรี ปมแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ชี้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีลักษณะต้องห้าม และให้รัฐมนตรีพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ทำให้ นายอนุทิน มีชื่อเป็นหนึ่งใน 7 แคนดิเตตนายกฯ คนที่ 31
สมการการเมืองพลิก! “อนุทิน” จ่อขึ้นแท่นนายกฯ คนที่ 32 หลังรัฐบาลแพทองธารสิ้นสุด
การสิ้นสุดลงของรัฐบาล “แพทองธาร” ได้เปิดพื้นที่ทางการเมืองครั้งสำคัญให้กับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ผู้นำพรรคภูมิใจไทย แม้พรรคจะอยู่ในสถานะฝ่ายค้าน แต่ด้วยจำนวน ส.ส. 71 เสียงในมือ ทำให้ภูมิใจไทยกลายเป็น “กุญแจ” ที่ทุกขั้วอำนาจต้องหันมาจับตาและเจรจาด้วย
สถานการณ์ปัจจุบันทำให้พรรคเพื่อไทยอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด หากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลือไม่สามารถรวบรวมเสียงในสภาได้เพียงพอ ความเป็นไปได้ที่จะมีการเสนอชื่อ “อนุทิน” ในฐานะ นายกรัฐมนตรีคนกลาง ที่สามารถเชื่อมโยงผลประโยชน์จากหลายฝ่าย ก็เริ่มเด่นชัดขึ้นทุกขณะ
เส้นทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทยสำหรับ “อนุทิน” ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่สะท้อนถึงการต่อสู้ การปรับตัว และทักษะการอ่านเกมการเมืองอย่างเฉียบคม ท่ามกลางความวุ่นวายของประชาธิปไตยไทย ชายผู้เคยถูกมองว่าเป็นเพียง “ผู้กำหนดเกม” กำลังจะก้าวสู่การเป็น ผู้เขียนกติกาใหม่ ด้วยตัวเอง