
เปิดจดหมาย "ทนายทิวา" ขอโทษ "ภูมิธรรม" เคยซัดแรงปมที่ดินเขากระโดง
เปิดจดหมายผนึก "ทนายทิวา" ขอโทษเคยลั่น "ภูมิธรรม" เป็นมะเขือเผาตอนเจรจาชายแดน แต่เป็นหมาป่ากับคนไทยปมที่ดินเขากระโดง
กรณีการเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงกว่า 5,083 ไร่ มีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 995 ครัวเรือน โดยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 มีชาวบ้านกว่า 300 คน ที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่มีที่ดินอยู่แนวเขตที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ รวมถึงนายทิวา การกระสัง ทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ รวมตัวกันที่สนามฟุตบอลช้างอารีน่า อ้างสิทธิ์การครอบครอง บางส่วนนำโฉนดที่ดินมาแสดง
ขณะนั้นนายทิวา ออกมาระบุว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาไม่ผูกพันองค์กรอื่น ไม่ผูกพันการรถไฟ ไม่ผูกพันที่ดินและไม่ผูกพันประชาชน คำพิพากษาของศาลที่ผูกพันองค์กรอื่นคือคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น รวมทั้งใช้ถ้อยทำรุนแรงถึงนายภูมิธรรมว่า "อยากรู้ว่า -ึงเอาหัวใจอะไรมาคิด ทีตอนเขมรเป็นมะเขือเผาไปเจรจากับเขาที่มาเลเซีย แต่ให้เขาพูดครึ่ง ชม. พอทีกับคนไทยเรื่องเขากระโดงทำตัวเป็นหมาป่าคิดว่าคนบุรีรัมย์เป็นเหยื่อ"
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายทิวา เขียนจดหมายเปิดผนึกด้วยลายมือ ระบุว่า กราบเรียนท่านรักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ท่านภูมิธรรม) ที่เคารพ
กระผมนายทิวา การกระสัง ทนายความ กราบขอโทษมายังท่านที่กระผมแถลงข่าวกรณีเขากระโดงเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 ในลักษณะใช้วาจาหยาบคาย ก้าวร้าว เปรียบเทียบ ด่าว่าตามที่มีการเสนอข่าวทางภาพและเสียง ซึ่งเป็นการกล่าววาจาไม่เคาระท่านและอาจทำให้ท่านเกิดความเสียหาย
กระผมรู้สึกเสียใจจากการกระทำของตนที่ที่ทำผิดต่อท่านและยังกระทำผิดต่อคำสั่งสอนของมารดาที่เคยสอนสั่งไม่ให้พูดจาหยาบคาย และแสดงกิริยาไม่เคารพต่อบุคคลอื่น
ด้วยเหตุดังที่กราบเรียนข้างต้น กระผมจึงมีจดหมายเปิดผนึกกราบขอโทษท่านผ่านสื่อมวลชนเพื่อเผยแพร่คำขอโทษของกระผมต่อท่าน หวังว่าท่านจะให้อภัยต่อคำขอโทษและการกระทำของผมในครั้งนี้
สุดท้ายขอให้ท่านมีแต่ความสุขและมีสุขภาพแข็งแรง ด้วยความเคารพอย่างสูง