
"ธนาธร" ยอมรับ เคยบินคุย "ทักษิณ" ที่ฮ่องกง หลังเลือกตั้งจริง
"ธนาธร" เผยเหตุผล บินคุย "ทักษิณ" ที่ฮ่องกงจริง หลุดเพิ่งคุย "อนุทิน" เมื่อเช้า แต่กดผิกเฉยๆ มั่นใจเลือกตั้งหน้า ปชน. ได้เกิน 250 เสียง ส่วนจะจับมือพรรคไหน ยึดหลัก 2 ปัจจัย
18 ก.ค. 2568 ที่ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ขึ้นเวทีร่วมพูดคุย "Exclusive Talk : ผ่าทางตันประเทศไทย" กับ 3 บก. สมชาย มีเสน รองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ,
บากบั่น บุญเลิศ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด และ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น
พิธรกรถาม ในฐานะพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้านพยายามเรียกร้องความยุติธรรม พยายามเรียกร้องเรื่องโอกาสแห่งความก้าวหน้า เพราะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่ดูเหมือนค้านไม่เต็มหมัด มีดีลอะไรหรือไม่ นายธนาธร คิดว่า มีความพยายามที่จะบอกว่า เพื่อนๆที่อยู่ในพรรคประชาชน เอียงแดงบ้าง เอียงน้ำเงินบ้าง แต่ตนเชื่อมั่นในพวกเขาว่าพวกเขาทำอะไรก็จะซื่อตรงต่ออุดมการณ์ตลอด
แน่นอนที่สุดการพูดคุยระหว่างพรรคการเมือง มีแน่นอน เพราะสภาเป็นที่ของการพูดคุยและถกเถียงกัน มีอยู่แล้วเป็นปกติ แต่หากคุยข้ามเส้นและเอาผลประโยชน์ของประเทศมาต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เมื่อไหร่แบบนี้ถือเป็นการพูดคุยที่ผลไม้พิษของสังคม แต่ถ้าเป็นการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันก็เป็นปกติ เช่น สัปดาห์ที่แล้วข่าวร้ายทั้งหมดก็ยังมีข่าวดีเล็กๆ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยพรรคประชาชน เราเป็นฝ่ายค้านไม่มีทางที่จะผ่านได้เลย ข้อเสนอของเรา ลาคลอด 180 วัน จาก 90 วัน แล้วตอนนี้กลับมาพบกัน เราก็มาพูดคุยกันถึงความจำเป็น ก็ได้ข้อสรุปออกมาเป็น 120 วัน
พิธีกรถามว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้นำแดงหรือผู้นำน้ำเงินหรือไม่
นายธนาธร หัวเราะพร้อมตอบว่า ในทุกระดับตั้งแต่ สส. กรรมาธิการถึงระดับแกนนำของพรรค ตนคิดว่ามันมีการพูดคุยกันโดยที่ส่วนตัวผมเองไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพูดคุยต่างๆเหล่านี้ ถ้าลองสังเกตดูตนอีกครั้งว่า ถ้ามีสัญญาณว่าแกนนำของพรรคหรือพวกเราคนไหนไปคุยกับพรรคอื่นหรือกลุ่มการเมืองอื่นและเอาผลประโยชน์เข้าตัวเอง คิดว่าตรงนี้ไม่มีสัญญาณ แต่มีการคุยกันหรือไม่ มีการคุย เช่น การแก้รัฐธรรมนูญหรือการนิรโทษกรรมจะเอาอย่างไร และเชื่อมั่นว่าการพูดคุยของคนในพรรคประชาชนไม่มีการล้ำเส้นเรื่องพวกนี้แน่นอน
พิธีกรถามได้เจอนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดเมื่อไหร่
นายธนาธร ตอบว่า ที่ทุกคนรู้ เรื่องนี้พูดให้ชัด คือที่ไปพบคุณทักษิณที่ฮ่องกง เรื่องมาจากว่า มีคนติดต่อมาหาคุณชัยธวัช ขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรคก้าวไกลให้ไปคุยกับคุณทักษิณ ซึ่งเกิดขึ้นหลังเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งคุณชัยธวัชก็บอกว่า เป็นการไม่เหมาะสมหากเป็นคุณชัยธวัชไปคุย เพราะเป็นเลขาธิการพรรค วันนั้นตนจึงบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ให้ตนไปคุยแทน นั่นคือที่มาของการคุย หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย
ส่วนคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายธนาธร ก็ยอมรับว่า มีพูดคุยกับนายอนุทินบ้าง ครั้งล่าสุดเมื่อเช้า
เมื่อพิธีกรถามว่าเป็นการคุยต่อหน้าหรือคุยทางโทรศัพท์ นายธนาธรตอบว่า "กดผิดครับ" พร้อมกับหัวเราะแล้วบอกโทรถามนายอนุทินได้เลย
พิธีกรถามว่า อนาคตหาก พรรคแดง พรรคน้ำเงิน ชวนไปตั้งรัฐบาล มีโอกาสร่วมงานกับพรรคไหนมากที่สุด
นายธนาธร กล่าวว่า เราตอบยาก แต่ผมยังเชือ่ว่า โอกาสที่พรรคประชาชนจะเกิน 250 เสียง เพียงพรรคเดียวยังมีโอกาส ซึ่งไม่ใช่เป็นศูนย์แน่นอน แต่ถ้าไม่ถึงและจำเป็นจะต้องเลือกระหว่างพรรคใดพรรคหนึ่ง มีอยู่ 2 ประการที่เป็นปัจจัยสำคัญ คือ ผลของการเลือกตั้ง ว่าเป็นอย่างไร และการยอมรับนโยบนยายที่พรรคประชาชนหาเสียงไว้และเอาเป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ
ตนมองว่าที่ตอนนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลทำ MOU ก็เป็นเรื่องนี้ เพื่อบอกประชาชนว่า คุยอะไรกันและเราจะทำร่วมกัน และ 4 ปีหลังจากนี้เราจะทำตามเอกสารแผ่นนี้ ตนก็เชื่อว่าพรรคประชาชนจะเดินเกมแบบนี้ว่า คุยอะไรแล้วมาบอกประชาชน ต้องเปิดให้ประชาชนรับรู้ โปร่งใส
พิธีกร ถามว่า ตอนนี้ประชาชนเห็นปัญหาและเสถียรภาพของรัฐบาล และกับดักของรัฐบาล กลไกของสภาที่ไม่ฟังก์ชัน ในแง่คิดของนายธนาธรมองว่า ปัจจุบันการเมืองของเราและโอกาสของประเทศไทย ถึงทางตันแล้วหรือยัง แล้วคิดจะแก้ปัญหาอย่างไร
นายธนาธร ถอนหายใจ พร้อมบอกว่า อย่าปล่อยให้มันถึงทางตัน