
"ธนาธร" เชื่อ หากยังไม่ "ปฏิรูปกองทัพ" ปิดประตู "รัฐประหาร" ไม่ได้
"ธนาธร" เผย ตราบใดไม่ "ปฏิรูปกองทัพ" ปิดประตู "รัฐประหารไม่ได้" หน่วยงานเดียวเขียนงบเอง ใช้เอง ตรวจสอบเอง ผลประโยชน์มหาศาล
18 ก.ค. 2568 ที่ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในงาน 55 ปี NATION “Exclusive Talk : ผ่าทางตันประเทศไทย Chapter 2 กับ 3 บก. สมชาย มีเสน รองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ,
บากบั่น บุญเลิศ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด และ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น
ในบางช่วงบางตอนพิธีกรนายธนาธรถามถึงมุมมองรัฐประหาร จะยังมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่
นายธนาธร ตอบว่า ตราบใดที "ปฏิรูปกองทัพ" ไม่ได้ เราไม่สามารถปิดประตูการทำ "รัฐประหาร" ได้เลย ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะดูว่าการทำรัฐประหารไม่น่าจะเป็นไปได้มากเท่าไหร่ก็ตาม แต่การทำรัฐประหารมีโอกาสเป็นไปได้เสมอ ตราบใดที่ยังไม่ปฏิรูปกองทัพ ใครจะไปคิดการทำรัฐประหารเมื่อปี 2534 แล้วจะเกิดการรัฐประหารปี 2549 ได้ หากใครจำได้ครั้งนี้เป็นที่รังเกียจของประชาชน
และหลังจากปี2540 เราปฏิรูปด้านต่างๆมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่ในวาระการปฏิรูป แต่ไม่มีใครทำ คือปฏิรูปกองทัพ โดพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชน ไม่ได้เป็นคนแรกที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่เราเป็นคนเอาวาระนี้มาอยู่ในเวทีการเมืองเท่านั้น
ส่วนจะปฏิรูปกองทัพแบบใด ต้องทำหลายๆอย่างไปพร้อมกัน พวกเราเคยเสนอ เช่น การยกเลิกกองทัพพาณิชย์ เข้ามาข้องเกี่ยวทางการเมือง หากต้องการสวัสดิการก็ขอผ่านกระบวนการงบประมาณปกติเหมือนหน่วยงานอื่น ยกตัวอย่างเช่น กองทัพเป็นหน่วยงานที่มีสนามกอล์ฟมากที่สุด ทั้งเอกชนและรัฐมี 70 กว่าสนาม มีสนามมวย มีหอประชุม มีโรงแรม มีคลื่นวิทยุมีคลื่นโทรทัศน์ ผลประโยชน์พวกนี้มีจำนวนมาก
สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อกองทัพ คือ ผู้ไม่ได้มีสมาธิกับการบริหารภารกิจหลักและทำให้กองทัพต้องมายุ่งกับการปกป้องผลประโยชน์ตรงนี้ ดังนั้นเวลาพูดถึงการปฏิรูปกองทัพมี 2 ส่วนใหญ่ๆ ที่ต้องทำไปพร้อมๆกัน
- ทำให้กองทัพมีสมรรถนะการรบสูง พร้อมปกป้องประเทศตลอดเวลา
- การทำให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน โปร่งใส ตรวจสอบได้
พิธีกรถามว่า รัฐมนตรีที่กำกับดูแลอยู่ไม่ถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน นายธนาธร ได้ยกตัวอย่าง สภากลาโหม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สำคัญมากในการตัดสินใจเรื่องกำลังพลและแต่งตั้งโยกย้าย แต่กลับมีสัดส่วนพลเรือนน้อยกว่ากองทัพ
ยกตัวอย่างอีกอย่าง คือ เงินนอกงบประมาณประเภทที่ 2 คือ มีกองทัพเพียงแห่งเดียว ที่มีการใช้เงินในรูปแบบนี้ ซึ่งบ่งบอกว่าให้หน่วยงานนั้นๆสามารถ เขียนวิธีการจัดสรรงบประมาณเองได้ ใช้งบประมาณเองได้ ตรวจสอบงบประมาณเองได้ โดยที่คนนอกเข้าไปยุ่งไม่ได้เลย เช่น สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ 5) มีรายได้ของตัวเอง มีระเบียบการใช้งบของตัวเอง บริหารงบประมาณของตัวเอง ตรวจสอบเอง ไม่มีผู้ตรวจสอบบัญชีจากภายนอก จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครเคยเห็นรายงานตรวจสอบบัญชีของททบ 5 มาหลายทศวรรษแล้ว พอเราขอข้อมูลไปเขาก็ไม่ให้ และก็ไม่ยื่นให้ สตง ตรวจสอบเช่นกัน
พิธีกรถามเหนื่อยหรือไม่ เสนอปฏิรูปอะไรไปไม่เคยได้
นายธนาธร ตอบว่า ผมตื่นขึ้นมาทุกวันนี้มีแต่กำลังใจมีแต่ความสนุก แล้วก็มีแต่ความตั้งใจและผมเชื่อว่าวันพรุ่งนี้ดีกว่าและเชื่อว่า เพื่อนๆที่อยู่ในพรรคประชาชนก็รู้สึกแบบนี้ทุกคน