ข่าว

"ชาญชัย" เปิดค่ารักษา "ทักษิณ" 181 วัน กว่า 2.4 ล้าน กลับไม่มีค่ายา

"ชาญชัย" เปิดค่ารักษา "ทักษิณ" 181 วัน กว่า 2.4 ล้าน กลับไม่มีค่ายา

18 ก.ค. 2568

"ชาญชัย" โชว์ค่ารักษา "ทักษิณ" นอนชั้น 14 ตั้งแต่ 4 ก.ย. 66-19 ก.พ.67 รวม 181 วัน 2.4 ล้าน กลับไม่มีค่ายา แต่อ้างป่วยวิกฤติ ท้าไม่พอใจ ฟ้องได้ จะกระชากความจริงให้กระจุย

18 ก.ค. 2568 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ และนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมาที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน หเข้าร่วมสังเกตุการณ์ศาลนัดไต่สวนคดีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี นายชาญชัย นำใบเสร็จการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14  มาเปิดต่อสื่อมวลชน เป็นใบเสร็จค่ารักษาตัวนายทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.66  ถึง 19 ก.พ.67 รวม 26 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 2,475,276 บาท ซึ่งผู้บังคับบัญชาของตำรวจได้สั่งให้โรงพยาบาลตำรวจรายงานว่า กรณีนายทักษิณเข้าพักรักษาตัวใช้สิทธิประเภทใด ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ต้องขังเป็นจำนวนเงินเท่าใด ผู้ใดเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งขอเอกสารการใช้สิทธิที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด 

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์

 

นายชาญชัยตั้งข้อสังเกตุว่า นายทักษิณย้ายจากราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 ส.ค. 2566 แต่มีการเก็บเงินในวันที่ 4 ก.ย. 2566 เป็นครั้งแรก มีการเก็บค่าสารอาหารทางเส้นเลือด 150 บาท นอกนั้นจะเป็นค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางพยาบาล     และค่าห้องราว 140,000 บาท ไม่มีค่ายา แต่กลับอ้างว่าป่วยวิกฤติ 

 

นายชาญชัย ท้าให้มาตรวจสอบ ใบเสร็จนี้เป็นของจริง และใบเสร็จนี้ไม่ใช่เวชระเบียน เป็นสิ่งที่เปิดเผยได้ ซึ่งหากดูตามใบเสร็จจะพบว่าไม่มีอาการของโรคที่จะต้องรักษาด้วยยาเลย หากดูในใบเสร็จในวันที่ 19 ก.พ. 2567  พบว่า มีค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค 11,461 บาท ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา 47,324 บาท ค่าห้องและค่าอาหาร 57,350 บาท ซึ่งหลังจากนั้น 7 วันก็ออกไปเดินฉุยๆ ได้แล้ว "ใครไปบังคับให้นายทักษิณให้นอนโรงพยาบาลถึง 181 วัน ถ้านายทักษิณไม่สั่งพวกนี้ทำ" 

นายชาญชัย  กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การใช้กฎหมายพิเศษ แต่เป็นเรื่องการพิจารณาโทษว่า มีการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่ หากมีการละเมิดอำนาจศาล ศาลก็ต้องหาข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนกระบวนความ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะไปกลั่นแกล้งใคร เป็นเรื่องกระบวนการตามกฎหมาย ศาลก็ใช้วิธีการไต่สวนโดยเปิดเผย

 

นายชาญชัย  ยืนยัน ตนเองได้เอกสารและใบเสร็จเหล่านี้มาโดยชอบและกฎหมาย ข้อมูลทั้งหมดจะส่งให้ศาลอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เพื่อจะใช้มัดนายทักษิณว่า สั่งการอะไรที่เกี่ยวข้องกับการไม่จำคุกตามคำพิพากษา ขออย่าไปโทษคนอื่น เหล่าบริวาร ข้าราชการ แพทย์ ถูกกลั่นแกล้ง นายทักษิณเป็นคนฆ่าเขาทั้งเป็น ไม่มีใครไปบังคับให้ไปทำ เรื่องนี้นายทักษิณเป็นตัวการ มองว่าความวิบัติจะเกิดขึ้นกับนายทักษิณ 4  เรื่อง โดยหลังจากฟังคำให้การแล้วจะออกมาสรุปให้ฟังอีกครั้งว่ามีเรื่องอะไรที่โกหกศาลอีกหรือไม่  


"ถ้าเขาไม่พอใจก็มาฟ้องผม ผมพร้อมขึ้นศาลกับเขาอีกรอบ และผมจะกระชากลากเอกสารที่เป็นเรื่องลับออกมาอีกรอบ เอาให้มันกระจุยไปเลย แน่จริงมาเลย ไม่เป็นไร แต่ขอให้ความจริงปรากฏต่อศาล บ้านเมืองจะได้สงบ ผมไม่ได้มาทำเพื่อการเมือง เพราะผมไม่ได้เล่นการเมืองแล้ว ผมทำในฐานะประชาชน ผมกำลังปรับความรู้ให้ประชาชนรู้ว่า ความถูกต้องของบ้านเมืองต้องยืนในจุดไหน   และนักการเมืองชั่วที่ท้าบ้านท้าเมือง ไม่ควรเอามายุ่งกับบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายมาก"นายชาญชัยกล่าว 

 

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

ด้าน นพ.ตุลย์ กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 5 ที่ศาลนัดไต่สวน ตนขอพูดสั้นๆ ว่า "คนที่วิกฤตกว่านายทักษิณคือพยาน ที่ให้การไม่ตรงความจริง" ใครที่ให้การเท็จไว้หรือมีการลงมติและอนุมัติไม่ตรงความจริง ความก็จะปรากฎในที่สุด ซึ่งแม้แต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้อนุมัติการพักโทษก็ปรากฎแล้วว่า นายทักษิณไม่มีสภาพทรุดโทรม ตามคะแนนกรมอนามัยของผู้สูงอายุจริง ซึ่งใครที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 จนถึง 18 ก.พ. 2567 ถ้าเกิดให้การไว้ไม่ตรงข้อเท็จจริงกับศาล และอนุมัติอะไรไว้ไม่ถูกต้อง น่าจะต้องถูกลงโทษถึงที่สุด


ส่วนกรณีที่นายชาญชัย จะนำเอกสารมาเปิดนั้น นพ.ตุลย์ กล่าวว่า นายชาญชัยจะเป็นคนมาบอกอีกครั้ง แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเข้าโรงพยาบาลของนายทักษิณ เพราะพยานให้การไว้อีกอย่างหนึ่ง ตลอดการไต่สวน 4 ครั้งที่ผ่านมา พบว่ามีการให้การไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทางการแพทย์และให้การไม่ตรงกัน