ข่าว

กลุ่ม สว.สำรอง เผย วงในแจ้งมี "บิ๊กเนม" รับสารภาพคดีฮั้ว สว.

กลุ่ม สว.สำรอง เผย วงในแจ้งมี "บิ๊กเนม" รับสารภาพคดีฮั้ว สว.

21 พ.ค. 2568

กลุ่ม สว.สำรอง บุก กกต. ทวงถามประเด็นยื่นหยุดปฏิบัติหน้าที่ "แสวง" เหตุเคยแจงมี ฮั้วสว. แต่เมินเฉย จับตาวงในแจ้งมี "บิ๊กเนม" รับสารภาพแล้ว ขอเป็นพยาน

21 พ.ค. 2568 พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้นำกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาสำรอง (สว.สำรอง) พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนัส นครศรี เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการเลือก สว. และ สว. สำรองกว่า 10 คน เปิดไทม์ไลน์ที่เคยร้องเรียนต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ว่า มีความผิดปกติในวันคัดเลือก สว. ซึ่งขณะแจ้งนั้น เป็นเวลาก่อนจะลงคะแนนจริง แต่นายแสวงกลับเพิกเฉย จนท้ายที่สุดเกิดเหตุฮั้วกันขึ้น

 

พ.ต.อ.มนัส เล่าว่า เมื่อวานนี้ ทาง กกต. กลับออกใบแถลงโต้ข่าวยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ตนมองว่า ทางฝั่ง กกต. เองนั่นแหละที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งในวันเลือก สว. อย่าว่า ตัวเองไม่ได้กล่าวหาผู้สมัครท่านใดเลย เพียงแต่นำเบาะแสที่มีผู้สมัครร้องเรียนไปแจ้งให้กับนายแสวงว่า มีการนำโพยเขียนเข้าไปในสว. 3  ตั้งแต่ช่วง 8.29 น. ก่อนกระบวนการเลือกจะเริ่ม 9.00 น. โดยหวังว่านายแสวงจะแจ้งทาง กกต. แต่ปรากฏว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งที่กฏหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการได้มา ซึ่ง สว. มาตรา 59 ก็ระบุชัดเจนว่า ถ้ามีเหตุอันควรสงสัย ก็ให้ผู้อำนวยการเลือก สว. เป็นผู้แจ้งต่อ กกต. ทันที 

กลุ่ม สว.สำรอง เผย วงในแจ้งมี \"บิ๊กเนม\" รับสารภาพคดีฮั้ว สว.

 

มองว่าถ้าเหตุการณ์วันนั้น นายแสวงนำข้อมูลไปแจ้ง กกต. แล้วมีการจัดการกับกระบวนการฮั้ว ยึดสว.3 กระบวนการเลือกก็คงจะจบด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม ไม่ใช่เป็นขบวนการฮั้วใหญ่โตขนาดนี้

 

พ.ต.อ.มนัส กล่าวว่า นายแสวงเป็นถึงเลขาธิการ กกต. ถือเป็นตัวหลัก คุมกระบวนการสืบสวนไต่สวนทั้งหมด จึงมองว่า ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ควรแสดงความบริสุทธิ์และสปิริตขอยุติบทบาทไม่ยุ่งเกี่ยวกับคดี ฮั้ว สว. ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเองเคยยื่นคำร้องไปแล้ว ให้นายแสวงหยุดปฏิบัติหน้าที่ถึง 3 ครั้ง แต่ก็ไม่มีผล วันนี้จึงเดินทางมาร้องเรียนเป็นครั้งที่ 4 ไม่รู้ว่าจะได้รับคำตอบอย่างไรและไม่รู้ว่าองค์กรอิสระมีการช่วยเหลือกันหรือไม่

 

ยืนยันว่า สิ่งที่ตัวเองพูดเป็นความจริงทั้งหมด ถ้าพูดไม่จริงก็ขอท้าให้นายแสวงดำเนินคดีกับตัวเองได้เลย พร้อมกับโชว์ภาพในวันที่ตัวเองเข้าไปแจ้งเบาะแสกับนายแสวงในครั้งนั้น ยังถ่ายภาพคู่เก็บไว้อยู่ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า มีการพูดคุยกันจริง
 

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า วันนี้มาทวงถาม กกต. ในประเด็นต่างๆ ที่ยังค้างคาไว้อย่างน้อย 2 ประเด็น คือ กรณีการปฎิบัติหน้าที่ของนายแสวง และ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยในการออกหนังสือแนวทางแนะนำเจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่ต่างๆ โดยเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็มีอีกฉบับ ลักษณะทำนองว่า หากเจ้าหน้าที่ปกครองได้รับการประสานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องการสอบสวนกรณีฮั้ว สว. มีข้อเสนอลักษณะเหมือนให้หลีกเลี่ยงการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในวันนี้จึงได้ยื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อใช้อำนาจในการเป็นเจ้าหน้าที่ไต่สวนสอบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อร้องขอให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกรณีฮั้วด้วย

 

ด้านนายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล หนึ่งใน สว. สำรอ ระบุว่า ขบวนการทุจริตคอรัปชั่นที่ผ่านมา ก็เขียนว่า ได้รับการช่วยเหลือจากข้าราชการที่ไม่ดีทั้งนั้น อย่างล่าสุดวงในก็มีรายงานมาว่า จากการสอบเรียกสอบ สว. 55 คน มีสว.ระดับบิ๊กเนมให้การรับสารภาพเรื่องการฮั้วและอยากเป็นพยานในคดี ซึ่งส่วนตัวบอกว่าหากสารภาพความผิดก็จะลดน้อยลง แต่หากต่อสู้คดี ไม่ยอมรับ ก็เสี่ยงจะติดคุกนาน และถูกยึดทรัพย์ด้วย โดยบอกว่า “สารภาพติดน้อย สู้ติดนาน”