ยื่น กกต. ยุบพรรคภูมิใจไทย ยืนยันมีหลักฐานโยง "ลูกเนวิน-อนุทิน" | คมชัดลึก

20 พ.ค. 2568 นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ยื่นขอให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยยุบพรรคภูมิใจไทย ตามความผิดของ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคภูมิใจไทย 

 

นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า หลักฐานที่เตรียมมาวันนี้ มีทั้งรูปถ่าย คลิปเสียง และภาพถ่ายการเซ็นใบลาออก ขณะที่เส้นทางการเงินที่โยงถึง นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นลูกของ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้น เป็นหลักฐานการโอนเงินและจัดตั้งบุคคลในจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนนี้ Super Computer สามารถตรวจสอบได้หมด พบว่ามีการโอนไปยังเครือข่าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันว่าหลักฐานที่มีเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ เนื่องจากมีผู้หวังดีหลายคนส่งมาให้ ถ้าไม่มั่นใจคงไม่มายื่นต่อ กกต. ส่วนที่ไม่ได้เอาหลักฐานมายื่นในครั้งนี้ก็เพราะกลัว มีทั้งฝ่ายเขาฝ่ายเรา แต่ถ้าเรียกมาชี้แจงก็จะมาพร้อมกับหลักฐาน

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อเลือกตั้ง สว. เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เรียก สว. ที่ผ่านการเลือกและได้รับการรับรองเข้าไปที่โรงแรมพูลแมน เพื่อให้ สว. เขียนใบลาออก หากมีการทำผิดจากที่สั่งก็จะยึดใบลาออกและให้ลาออกไปเลย เพื่อให้ สว. อยู่ภายใต้การสั่งการของพรรคภูมิใจไทย รวมถึง นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ

 

นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า บ้านเมืองไม่ใช่ของเราคนเดียว หาก สว. ทั้งหลายมีสิทธิที่จะเลือก ป.ป.ช. กกต. กสทช. บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร เราเป็นคนไทยด้วยกัน เราจะไม่ยอมให้กระบวนการเหล่านี้มาทำลายประเทศไทย ทำลายประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของไทย พร้อมยืนยันไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นหรือขุ่นข้องหมองใจกับบุคคลเหล่านั้น แต่ทำในฐานะคนไทยคนหนึ่งให้เห็นกระบวนการที่เกิดขึ้นว่า เป็นสิ่งที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม 

ขณะที่กระบวนการเลือกองค์กรอิสระ ก่อนหน้านี้มีผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นคนดีมากก็หลุดไป จากคำสั่งของคนบางสีบางกลุ่ม แสดงว่าหากอนาคตใครทำผิดทุจริตคอรัปชั่นก็จะมีการยกคำร้องใช่หรือไม่ ยืนยันตนเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร แต่อยากให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ ตนเองไม่ได้จะต่อสู้ให้ได้เป็น สว. แต่ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม อยากให้คนกลุ่มนี้ได้รู้ว่ายังมีคนไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาชน อนาคตบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ถ้ามีแต่กระบวนการทุจริต ขาดการตรวจสอบ ขาดความรับผิดชอบ 

วุฒิสภาเป็นสภาสูง แต่หัวหน้าพรรคทำผิดหรือไม่ที่สั่งให้นายอำเภอรับผู้สมัคร สว. บางคนขายข้าวแกง สมัครในกลุ่มวิทยาศาสตร์ บางคนเป็นคนขับรถ สมัครในกลุ่มสื่อสารมวลชน เรื่องนี้ผิดที่กระทรวงมหาดไทยที่ให้นายอำเภอเซ็นรับรองบุคคลเหล่านี้

 
 
"พรรคบางพรรคทำลายประชาธิปไตยและประเทศไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคนบางคนได้ร่วมกระทำความผิด หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้เห็นว่า มีส่วนรู้เห็น บงการกระบวนการเลือก สว. จึงสมควรยุคพรรคนี้และให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ พร้อมกับส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป" 

ครั้งนี้เป็นความผิดมโหฬาร ช็อกคนทั้งประเทศและตนเองด้วย จะยืนเพื่อต่อสู้เรื่องนี้ไม่เกรงกลัวอิทธิพลของใคร ถ้าประเทศไทยอยู่ภายใต้การเงื้อมมือของบางพรรค บางสีบางกลุ่ม จนมองไม่ออกว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

ส่วนการเปิดหน้าต่อสู้ นางกุสุมาลวตี ไม่กลัวจะถูกฟ้องกลับ เพราะการติติงเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้ทำผิด ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ยืนยันไม่มีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะตนเองไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองมานาน และลาออกมาแล้ว ไม่มีใครมาสั่งตนเองได้ ไม่ได้เจอใครเลย ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะตนเองเตรียมตัวลง สว.มา 2-3 ปี และเป็น สส.มานานสายสะพายได้มาหมดแล้ว เหลือแต่สายสิญจน์ 

 

นางกุสุมาลวตี ยืนยันเขียนคำร้องด้วยตนเอง เพราะสงสัยว่าเหตุใดถึงใช้เงินพันกว่าล้าน เพื่อครอบงำประเทศไทย หากไม่มีใครลุกขึ้นมาสู้บ้านเมืองจะอยู่ใต้อาณัติเขาอย่างนั้นหรือ ส่วนกระแสข่าวว่าตนเองจะขอลง สส.ภูมิใจไทย นั้น ตนเองไม่ชอบการทุจริต และไม่ชอบพรรคภูมิใจไทย 

 
"จะฟ้องก็เชิญเลย ดิฉันจะได้ สว.หรือไม่ได้ สว.ไม่มีสาระ ยืนยันว่าดิฉันมาในกระบวนการที่ถูกต้องตามประชาธิปไตย เพราะคุณค่าของคนไม่อยู่ที่ สส. หรือ สว. และไม่คิดจะไปขอคนประเภทนี้เพื่อจะได้เป็น สว. ด้วยซ้ำ" นางกุสุมาลวตี ทิ้งท้าย

 

 

ด้าน นายอนุทิน เสียงสูงตอบว่า "ไม่มี เขาโกหกตั้งแต่บอกว่ามาคุยกับผมที่รัฐสภาแล้ว ผมรู้จักเขาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคชาติพัฒนา เขาก็เป็นแบบนี้แหละ การที่ผมบอกปัดให้ไปคุยกับคนโน้น คนนี้ ผมสุภาพแล้ว จริงๆ หน้าผมยังไม่อยากมอง เพราะรู้ เขาเป็นคนยังไง แล้วเขาก็มาดักรอหน้ารัฐสภา จะมาขอเสียงสนับสนุน สว. ใครจะไปสนับสนุน เพราะเขาไม่ได้อยู่พรรคผม ไม่ได้ยุบพรรคผม ไม่ได้เป็นอะไร และรู้พฤติกรรมเป็นแบบนี้มานานแล้ว พูดง่ายๆ ถ้าภาษาหยาบๆ คือรำคาญ"

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คำร้องนางกุสุมาลวตี สอดคล้องกับการที่ผู้สมัคร สว. ไปอบรมที่โรงแรมนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ตนไปโรงแรมพูลแมน สัปดาห์ละ 7 วัน เพราะสะดวก เวลานัดพรรคพวกก็อยู่ที่นั่น ถามว่าเจอใคร เจอทั้งเพื่อนนักธุรกิจ เพื่อนข้าราชการ เพื่อนร่วมรุ่น ใครไปก็เจอตนที่นั่น ก่อนกลับบ้านตนก็ไปนั่งทุกเย็น

 

"เวลาคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ก็นัดที่นั่น เพราะบ้านนายเนวินอยู่ลาดกระบัง ไกลตายโหง อยากเจอผมก็ไปพูลแมน 4-5 โมงก็เจอกัน ไป 10 ครั้งก็เจอ 8 ครั้ง"

 

นายอนุทินยังกล่าวด้วยว่า จำได้ว่าปีที่แล้ว นางสาวกุสุมาลวตี ไปเดินอยู่ที่สภาฯ ขอคุยกับตน อย่างที่บอก เราเป็นคนสุภาพ ก็โดนคนที่กักขฬะทำแบบนี้

 

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีสองคนแล้วที่จะไปยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย กังวลใจหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่า ไม่สะทกสะท้าน เพราะไม่ได้ทำ ดูวิธีการพูด วิธีการนำเสนอ

 

"ผมเจอใครผมก็ทัก นักข่าวก็รู้จักนิสัยผม ทุกคนที่รู้จักผมไม่มีคนเกลียด คนชัง พ่อแม่สั่งสอนมาดี ว่ามารยาทต้องทำตัวอย่างไร "

 

ส่วนกรณีที่นางสาวกุสุมาลวตีบอกว่า ไปที่สภาฯ เพราะต้องการไปหานายสุชาติ ตันเจริญ เพราะมีหัวใจเป็นสีแดง แต่ถูกรัฐมนตรีช่วยของพรรคภูมิใจไทย พาไปเจอนายอนุทิน นายอนุทินกล่าวว่า ใครจะกล้า พร้อมย้อนถามว่า "ถ้าเป็นลูกน้อง กล้าพาคนที่ผมรังเกียจมาพบผมหรอ" พร้อมบอกว่า เขาไปดักรอที่สภา เจอใครก็เก็บหมด อย่าไปพูดถึงเลย

 

ส่วนที่มีการอ้างถึงนางสุขสมรวย สส.อำนาจเจริญ นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะตนไม่ได้สนใจ ไม่ได้ให้ราคา ตนพยายามจะสุภาพเต็มที่แล้ว ที่มาพูดโกหกหลอกลวงประชาชน พร้อมยืนยันว่า ถ้าถึงขนาดนี้ ก็คงต้องฟ้องกลับ ส่วนจะฟ้องกี่ข้อหา ฝ่ายกฎหมายของพรรคดูแล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการถอดเทปคำสัมภาษณ์

 

"พวกนี้มาเป็นขบวนการ ตัวเองก็มาถึง สว.สำรอง ถ้าบอกผิดก็ผิดกันหมด จากอำเภอก็มาด้วยกัน ซึ่งถ้าผมเกี่ยวข้อง ผมต้องนั่งคุยกับเขา ถ้าผมเห็นคุณค่าหรืออะไรในตัวเขา ผมรู้จักเขามานาน และคงไม่ต้องไปตักเตือน เพราะไม่ได้อยู่ในวงจรชีวิตของผม ผมไม่ชอบตั้งแต่อยู่พรรคชาติพัฒนา พฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว" นายอนุทินกล่าว