
กมธ.ป.ป.ช. เรียกสอบ 2 ปมร้อน "ตึกสตง.ถล่ม-ฮั้วสว." สัปดาห์หน้า
จับตาสัปดาห์หน้า ประธาน กมธ.ป.ป.ช. สอบเข้ม ฮั้ว สว. ลั่นไม่ยอมขบวนการยึดวุฒิสภา พร้อมเรียก "กรมบัญชีกลาง" ให้ข้อมูลเบิกจายงบฯ สร้างตึกสตง.
ประเด็นร้อนที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมากขณะนี้ หนีไม่พ้น การตรวจสอบสาเหตุและการก่อสร้างอาคาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม และ กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกหมายเรียก 53 สมาชิกวุฒิสภาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว. นั้น
ล่าสุด 11 พ.ค. 2568 นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า แม้จะยังเป็นช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา แต่ กมธ.ป.ป.ช. ยังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยในการประชุมวันพุธที่ 14 พ.ค. ที่จะถึงนี้ มีวาระการติดตามตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ย่านจตุจักร กทม. มูลค่างบประมาณมากกว่า 2.1 พันล้านบาท ที่เกิดโศกนาฏกรรมถล่มลงจนมีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายนับร้อยคน
นอกจากนี้การประชุมวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. นี้ จะมีวาระการพิจารณาตรวจสอบการเลือก สว. ปี 2567 ที่ส่อไปในทางทุจริต หรือ ฮั้วเลือก สว. ที่แม้ขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายเรียก สว. ชุดแรก ให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่ร่วมกับ กกต. แล้ว
แต่ในชั้น กมธ.ป.ป.ช. ก็ได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความผิดปกติการเลือก สว. ปี 2567 เข้ามาเช่นกัน ก็จะเดินหน้าตรวจสอบต่อ โดยได้เชิญผู้ร้องในพื้นที่จังหวัดต่างๆ อาทิ จ.อำนาจเจริญ รวมไปถึง กกต. มาให้ข้อมูล เพื่อดูว่ากระบวนการขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมายมีช่องโหว่อย่างไร จึงถูกนำไปใช้ประโยชน์ในทางทุจริต เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขปิดช่องว่างเหล่านั้น เพราะสร้างความเสื่อมเสียโดยตรงต่อฝ่ายนิติบัญญัติ และประชาธิปไตย ทั้งในแง่ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ
ยิ่งหากข้อสันนิษฐานที่ว่า มีความพยายามยึดวุฒิสภา โดยส่งคนของตัวเองเข้ามาเป็น สว. จำนวนมาก ใช้เป็นเครื่องมือต่อรองอำนาจผลประโยชน์ทางการเมือง ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้เด็ดขาด
ซึ่งในชั้น กมธ.ป.ป.ช. จะเป็นการตรวจสอบกระบวนการต่างๆในการเลือก สว. มีข้อบกพร่อง หรือช่องโหว่หรือไม่อย่างไร ถึงมีคนบงการ และทำกันเป็นขบวนการเข้ามายึดวุฒิสภา เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายเช่นนี้