
‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ สร้างเรื่องสะเทือนทั้งภูมิใจไทย
‘ไชยชนก’ ประกาศลั่นกลางสภา ไม่มีวันเห็นด้วยกับ 'กาสิโน' ทำเหวอกันทั้งพรรค ไม่เอาจริงหรือแค่ละครฉากใหญ่ที่พ่อใหญ่เนวินบอกบท ?
เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) สร้างเรื่องจนกลายเป็นประเด็นร้อนภายในพรรคภูมิใจไทย หลังเมื่อวานที่ผ่านมา (9 เม.ย.2568) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในการประชุมวาระการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาผลกระทบและมาตรการรับมือจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา โดยของนายไชยชนก ชิดชอบ สส.พรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องข้อเสนอแนะ แนวทางการการรับมือและแก้ไขปัญหา ผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ ผลกระทบจากวิกฤตเศรษกิจโลก และ ภัยความมั่นคงจากสถานการณ์โลก ว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ด้วยใจจริง
การที่สภาผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน สำหรับตนเอง นายกรัฐมนตรีได้แสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง เป็นนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างแท้จริง นายกรัฐมนตรีได้มองถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของคนไทยก่อนประโยชน์ส่วนตัว ได้ตระหนักถึงข้อมูล ที่ตนเองได้เสนอจากใจด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
นายไชยชนก ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า ตนสัญญาว่าจะใช้สติปัญญาที่มี สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ด้วยความสุจริตใจ ตราบใดที่ นายกรัฐมนตรี ยังเห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อนแบบนี้ต่อไป ฉะนั้น ด้วยความจริงใจ ก่อนที่จะกล่าวประโยคเด็ดว่า
“ผมขอประกาศในที่ประชุมสภาฯแห่งนี้ นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของนายเนวิน และ นางกรุณา ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ไม่มีวันเห็นด้วย กับ กาสิโน และไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุกๆ พ.ร.บ. ฉบับนี้ แม้กระทั้ง พ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย ที่คิดขึ้นมาและนำเสนอ เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา เพราะจากที่ตนศึกษามา มันมีเรื่องที่เร่งด่วนกว่า อย่างมหาศาล”
ทำเอาคนในพรรคภูมิใจนั่งไม่ติด โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) เปิดเผยว่าตนได้ไลน์ไปแจ้งท่านนายกรัฐมนตรีแล้วว่าสิ่งที่นายไชยชนกได้อภิปราย เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคก็มีแนวทางในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งโดยปกติก่อนที่สมาชิกพรรคจะขึ้นอภิปราย พรรคต้องอนุมัติก่อน ซึ่งกรณีเมื่อวานพรรคไม่ได้มีการอนุมัติ
เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้ได้มีการเคลียร์กับนายไชยชนก แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ต้องเคลียร์ รู้สึกว่าเขามีความเครียดเยอะ ซึ่งนายไชยชนกก็ไม่ได้แจ้งตนว่าจะขึ้นอภิปราย นี่คือเหตุผลที่พรรคจะมีการประชุมทุกครั้งก่อนที่จะประชุมสภา เพื่อที่จะรู้ได้ว่าสมาชิกคนไหนจะพูดเรื่องอะไรบ้าง เราไม่ได้มีมติว่าวันพรุ่งนี้จะให้มีใครขึ้นมาพูด ฉะนั้นตนก็ไม่รู้ เพราะถ้าพรรคมีมติให้นายไชยชนกขึ้นมาพูดเรื่องอย่างนี้ ตนก็ต้องอยู่ในที่ประชุมสภา แต่นี่ตนไปทำงานอยู่ข้างนอก
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย แล้วหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็คุยแต่อย่างที่ตนบอกว่านายไชยชนก เขาพูดในนามของเขาเอง อย่าไปมองว่าเขาเป็นลูกชายของใคร ทุกคนสามารถมีความคิดเป็นของตัวเองได้ ถ้าเขาพูดในนามพรรคเมื่อไหร่ค่อยเป็นประเด็น แต่นี่เขาพูดในนามส่วนตัวของเขา พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่มติของพรรค ย้ำว่าแนวทางพรรคภูมิใจไทยยังเหมือนเดิม คือสนับสนุนรัฐบาล
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “แนวทางการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ยุคใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัด” แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายกอบจ.ทั่วประเทศ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “ให้เขามีสิทธิกาในแบบฟอร์มเสียภาษี ภ.ง.ด.9 ว่าเขาจะส่งเงินลงไปที่ไหน แล้วแต่ว่าใครจะสำนึกรักบ้านเกิด นี่คือการให้อำนาจประชาชนจริงๆไม่ใช่แค่ให้อำนาจประชาชนหลอกๆ นี่คือหลักเกณฑ์การสร้างความยั่งยืนความเจริญของท้องถิ่นสำหรับผม แน่นอนว่าลูกผม และทีมงานคงพากันไปเสนอกฎหมายแล้ว แต่อย่างไรคงไม่เร่งด่วนเท่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นี่คือความรู้สึกของคนที่อยากเห็นความยั่งยืนความเจริญเติบโตของบ้านเมืองที่แข็งแรงต่อไป ดังนั้น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหลายท่านก็มีคะแนน ท่านก็มีประชาชน ถ้าอยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ขอให้ช่วยกันกดดันเรื่องนี้ เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่มีคนค้าน เพราะเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจประชาชนโดยตรง”
ล่าสุด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว่า นายอนุทินชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่มันมติพรรค ตนเข้าใจทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น จริงๆแล้วคิดว่าไม่น่ามีอะไร อย่างนายไชยชนกเคยพูดคุยกันนอกรอบ ทราบว่าเป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติต่างๆ เขาเป็นห่วงจริงๆ และการอภิปรายเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมามีหลายเรื่องหลายประเด็นอาจทำให้เกิดความสับสนได้ให้เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยไปเคลียร์กันเอง แต่ตนเข้าใจว่าเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเคยมาพูดส่วนตัวว่าเป็นห่วงในเรื่องนี้ เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นแต่มีหลายประเด็น