
ย้อนวีรกรรมฉาว "สส.ปูอัด" เคยถูกกล่าวหา คุกคามทางเพศ จนถูกขับพ้นพรรค
ย้อนวีรกรรมฉาว "สส.ปูอัด" เคยโดนกล่าวหา คุกคามทางเพศ จนถูกขับพ้นพรรค ส่องประวัติ โปรไฟล์การทำงาน
จากกรณี นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ "สส.ปูอัด" สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเรา" หลังจากนักท่องเที่ยว ชาวไต้หวัน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่าถูกนายไชยามพวาน ล่วงละเมิด เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 2568
"คมชัดลึกออนไลน์" ชวนย้อนวีรกรรม สส.ปูอัด ซึ่งเคยมีกรณีถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ จนถูกขับพ้นพรรคก้าวไกล (ในขณะนั้น) มาแล้ว
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2566 ผู้เสียหายที่ถูก สส. ปูอัด ไชยามพวาน คุกคามทางเพศ ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึงกรรมการบริหารและสส.พรรคก้าวไกล 22 คน ที่ลงมติไม่ขับออก-ไม่ร่วมประชุม ต้องมีหลักฐานมากขนาดไหน จึงจะเหมาะสมกับความผิดจนสามารถขับออกจากพรรคได้
จดหมายเปิดผนึกจากอดีตผู้ช่วยหาเสียง ถึงกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคก้าวไกล ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ X (ทวิตเตอร์) มีทั้งข้อความพร้อมรูปภาพระบุว่า เป็นผู้เสียหาย 3 ราย ที่ถูก สส.ปูอัด คุกคามทางเพศ ทั้งล่วงละเมิดขณะไม่มีสติ แตะเนื้อต้องตัว จับแขน จับไหล่ ชวนไปไหนมาไหนสองต่อสอง รวมถึงการพูดคุยถึงเรื่องส่วนตัว
ฝั่ง สส.ปูอัด แถลงเปิดใจ ชี้แจงทั้ง 3 กรณี ยืนยัน ไม่เคยรู้สึกนอกเหนือไปจากเพื่อนร่วมงาน พร้อมขออภัยหากทำให้รู้สึก และจะระมัดระวังตัวมากขึ้น
กระทั่ง 7 พ.ย. 2566 พรรคก้าวไกล มีมติขับ สส.ปูอัด พ้นพรรค รับไม่ได้แสดงความรับผิดไม่จริงใจ ซ้ำร้ายเปิดข้อมูลเหยื่อ ซึ่งต่อมา สส.ปูอัด ได้ไปสังกัด พรรคไทยก้าวหน้า
ทำความรู้จัก สส.ปูอัด
"สส.ปูอัด" หรือ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. "พรรคไทยก้าวหน้า" สำเร็จการศึกษา จากปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และยังจบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ เอกการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ด้านการทำงาน "สส.ปูอัด" เป็นนักวิจัยผลิตภัณฑ์ UX Research แอปพลิเคชัน StartDee ให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ตัวแทนกลุ่ม Resolution รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน "ร่างรื้อระบอบประยุทธ์"
"สส.ปูอัด" ยังเคยเป็นตัวแทนรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หรือ ร่าง ILAW สมาชิกกลุ่ม ConLab ขับเคลื่อนให้ความรู้ประชาชนด้านรัฐธรรมนูญไทยและสากล รณรงค์เข้าชื่อแก้ไขกฎหมายสมรสเท่าเทียม (LGBTQ) คติประจำใจในการทำงาน "ยืนข้างประชาชน เพื่อคนเท่ากัน"