“ภูมิธรรม” เชื่อ รัฐบาลกัมพูชา ถูกกดดัน ทวงเกาะกูดคืนจากไทย ไม่กระทบเจรจา
"ภูมิธรรม" ชี้ รัฐบาลกัมพูชา ถูกฝ่ายต่อต้านกดดันฟ้องศาลโลก ทวงเกาะกูดคืนจากไทย ไม่กระทบเจรจา MOU44 หากรัฐบาลมาจากตัวแทนประชาชน
30 พ.ย.2567 ที่ กองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายนพดล ปัทมะ สส.เพื่อไทย เสนอให้ใช้ มาตรา 152 เปิดอภิปรายเรื่อง MOU44 ในรัฐสภาทำข้อเสนอแนะให้รัฐบาลป้องกันม็อบลงถนน ว่า ถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่เรื่องนี้ต้องมาดูตามความเป็นจริง ต้องดูพรรคร่วมรัฐบาลด้วยจะว่าอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันคิด แต่ขณะนี้ยังไม่ไปถึงตรงนั้น ตอนนี้เราก็ใช้วิธีการชี้แจง หลายช่องทาง การแก้ปัญหาไม่ได้มีแค่ไม่วิธีเดียว ถ้าทำไม่ได้ก็เปลี่ยนวิธี สิ่งที่นายนพดลเสนอ ก็น่าจะเสนอได้
เมื่อถามว่า นายจักรภพ เพ็ญแข เสนอให้รัฐบาล ยื่นเงื่อนไขเจรจาแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ภายใต้เงื่อนไขเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายทางทะเล และสนธิสัญญา จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการเทคนิคร่วมฝ่ายไทย (JTC) ส่วนที่ว่าตนนั่งเป็นประธาน ยังต้องรอ มติ ครม. สุดท้ายต้องคุยกันก่อน เมื่อจัดตั้งได้ ก็ต้องมีการหารือกัน ยืนยันว่า การเจรจาก็อยู่ภายใต้กรอบ JTCและ MOU44 ตรงนั้นชัดเจนอยู่แล้ว ว่าจะไม่ไปกระทบ สิ่งที่เกี่ยวข้อง และต้องเป็นความเห็นชอบของประชาชนทั้งสองฝ่าย รวมถึงกฎหมายทางทะเล กฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกรอบนโยบายต่างๆ ที่เราต้องคำนึงด้วย
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาได้มีการหารือทวิภาคีกับกัมพูชาได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในภาพรวมพูดคุยในเรื่องต่างๆ ส่วนตรงนี้ไม่มีอะไร เราไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเขายอมรับและทราบอยู่แล้วว่าเกาะกูดเป็นของเรา และอยู่กับเรามาตั้งแต่ต้น ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า กลุ่มต่อต้านรัฐบาลกัมพูชากดดันให้ฟ้องศาลโลก เพื่อทวงคืนเกาะกูดจากไทย จะส่งผลให้การเจรจาไม่ราบรื่นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เพียงแต่อยากให้ตรวจสอบภายในกรอบที่อยู่ภายใต้ของกฎหมาย
พร้อมย้ำว่าไม่มีปัญหาอะไรถ้ารัฐบาล ที่มีหน้าที่โดยตรงและเป็นตัวแทนประชาชน ส่วนความเห็นของประชาชนบางส่วน ที่มีความแตกต่างกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า การประชุมทวิภาคีกัมพูชา จะมีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม ส่งผลกระทบความสัมพันธ์สองประเทศ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นแค่เพียงการพูดคุยเกี่ยวกับข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ไม่ถึงกับตั้งคณะกรรมการ เพียงแต่ให้แต่ละประเทศช่วยกันชี้แจง เพราะบางครั้งมีเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง อยากให้ทั้งสองประเทศช่วยกันตรวจสอบในข้อเท็จจริง เพราะข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนจะส่งผลให้ทั้งสองประเทศ ไม่เข้าใจกัน และไม่ส่งผลดี รวมถึง MOU44 และเรื่องอื่นด้วย
เมื่อถามว่า รวมถึงการปั่นข่าวว่ากัมพูชา เคลมหมูเด้ง เคลมลิซ่า ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าฟังเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วเอามาเป็นประเด็น