เร่งจบดราม่า รมช.ศธ. ขีดเส้น 20 ก.ย. ความจริงกระจ่าง ปม "ครูเบญ" ชื่อหาย | คมชัดลึก

17 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากเหตุการณ์กรณี น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม หรือ"ครูเบญ" อายุ 24 ปี ซึ่งเข้าสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานการศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)สระแก้ว ได้อันดับ 1 แต่พอผ่านไป 3 วัน มีการประกาศรายชื่อใหม่ ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของตนเอง จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรมทางโซเชียลฯ 

โดยทาง สพม.สระแก้ว ชี้แจงว่า เฉลยข้อสอบผิดพลาด ทำให้คะแนนรวมคลาดเคลื่อน แต่การชี้แจงก็ยังดูไม่ชัดเจน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง

ต่อมา นางพันทิพา สวาสุ รอง.ผอ.สพม.สระแก้ว รักษาราชการแทน ผอ.สพม.สระแก้ว ได้ออกประกาศ ลงวันที่ 16 กันยายน 2567 ให้เลื่อนกำหนดการรายงานตัวของผู้สอบผ่าน การสรรหาและเลือกสรรให้เป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่ง ครูผู้สอน ทั้ง 5 วิชาเอก ตามกำหนดเดิมคือวันที่ 19 กันยายน 2567 ออกไปก่อน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบสวน ที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่งตั้ง ให้ทำหน้าที่ สืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ ทั้งนี้จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสิ้น 

ล่าสุด นาย สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงประเด็นของ "ครูเบญ" ว่า สิ่งที่ผิดอย่างแน่นอนคือ ความประมาทเลินเล่อ โดยขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ไปตรวจสอบ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลครั้งใหม่ทั้งหมด กระดาษคำตอบทุกใบ เอกสารทุกอย่าง สพฐ. ส่วนกลาง เก็บมาหมดแล้วโดยไม่ให้ทางเขตเข้ามายุ่ง ซึ่งผอ.เขตถูกสั่งให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะหากอยู่ในพื้นที่ก็จะมีความไม่สบายใจเรื่องความเป็นธรรม ทั้งนี้ก็ต้องมาดูกันว่าผลคะแนนที่แท้จริงเป็นอย่างไร 

"แต่หากมีการทุจริต ก็ต้องโดนวินัยร้ายแรงเลย ต่อไปนี้ก็ต้องเป็นบรรทัดฐาน ครอบครองทำอะไรต่อไปนี้ต้องรอบคอบ ไม่อย่างนั้นจะโดนเรื่องธรรมาภิบาล จริยธรรม" นายสุรศักดิ์ กล่าว 

นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า “ก่อนจะชี้แจงว่าวันนี้ ถ้าคะแนนส่อว่าผิดทุจริตจริง ก็จะต้องดำเนินการต่อไป จึงขอมาดูข้อเท็จจริงก่อนว่า ข้อสอบมีการแก้ไขหรือไม่ ส่อพิรุธที่จะมีการทุจริตหรือไม่ ซึ่งในวันศุกร์ที่ 20 ก.ย. ทุกอย่างต้องกระจ่าง ไม่ว่าจะนามสกุลไหน นามสกุลคนดังอย่างไร ไม่กลัวอยู่แล้ว ถ้าดังในสิ่งที่ดีน่าเกรง  แต่ไปดังในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตนว่าไม่มีใครกลัว ”  

อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบแล้วคะแนนผู้ถูกร้องไม่ถึงเกณฑ์จะเยียวยาอย่างไร

นายสุรศักดิ์ ยืนยันว่า กระทรวงเข้าใจและเห็นใจ คุณครูที่ประสบปัญหาตรงนี้ แต่การเยียวยาต้องแยกออกจากเรื่องนี้ เพราะถ้าคะแนนครูไม่ถึงจริง เราไม่สามารถทำให้ถึงได้ มิเช่นนั้นคนที่ทุจริตจะเป็นเรา คนที่เขาสอบติดเองก็สมควรติดบัญชี ตามบัญชีที่โปร่งใสสุจริต และตรวจสอบอย่างรอบคอบ เราไม่สามารถช่วยให้คุณครูขึ้นมาติดบัญชีได้ ซึ่งตนพูดในมิติของความถูกต้อง