"เชาว์ มีขวด" อดีตรองโฆษก ปชป. แฉถูกใบสั่งขับพ้นพรรค
"เชาว์ มีขวด" อดีตรองโฆษก ปชป. แฉถูกใบสั่งขับพ้นพรรค เพราะชอบให้ข่าวโจมตี "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" ลั่น! แน่จริงอย่าไปยืมมือใคร
15 ก.ย. 2567 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้บริหารพรรคพยายามจัดการกับคนที่เห็นต่าง
เมื่อเช้าวานนี้ผมได้รับโทรศัพท์จาก สส.พรรคประชาธิปัตย์ ซีกที่สนับสนุนนายเฉลิมชัย ท่านหนึ่ง โทรมาแจ้งข่าวให้ทราบว่ามีความพยายามที่จะขับผมออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่พอใจที่ผมออกมาให้ข่าวโจมตีนายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรค
โดยมีผู้บริหารพรรคเบอร์ต้นๆ ไหว้วานให้ทีมงานสส. ท่านนี้ช่วยจัดการยื่นหนังสือถึงผู้บริหารพรรค แต่สส. ท่านนี้ไม่เล่นด้วย จึงโทรมาแจ้งข่าวให้ผมทราบด้วยความหวังดี
ที่ผ่านมาสาเหตุที่ผมให้สัมภาษณ์ข่าวหรือเขียนบทความลงใน Facebook ก็เพราะไม่เห็นด้วยกับผู้บริหารพรรคภายใต้การนำของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อยู่สามเรื่อง คือ
1. นายเฉลิมชัยเป็นคนไม่รักษาคำพูด เพราะเคยประกาศในเวทีหาเสียงต่อหน้าสาธารณชนว่าจะเลิกเล่นการเมืองแต่กลับตระบัดสัตย์ต่อคำพูดของตนเอง กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคำขวัญ "สจุจเวอมตาวาจา" คำจริงเป็นสิ่งไม่ตายเป็นข้อเตือนสติ ให้ผู้บริหารและสมาชิกพรรคพึงระวังอยู่ตลอดเวลา
2. ผมไม่เห็นด้วยกับนายเฉลิมชัย ที่มีท่าทีตั้งแต่เริ่มต้น ภายหลังที่มีการเลือกตั้ง ต้องการที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์ไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย และในที่สุดนายเฉลิมชัยก็นำพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อสู้ห้ำหั่นทางการเมืองกันมากกว่าสองทศวรรษ โดยเฉพาะเรื่องการต่อต้านทุจริต ซึ่งตรงกันข้ามกับอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างสุดขั้ว
3. ในขณะนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มีเลขาหน้าห้องและญาติของนายเฉลิมชัยถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกหมายจับ ข้อหานำเข้าตีนไก่เถื่อนหมูเถื่อน ถือเป็นข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ชัดในลักษณะภาวะวิสัยในความซื่อสัตย์สุจริตและความน่าเชื่อถือหรือไว้วางใจต่อสาธารณชน นายเฉลิมชัยจึงไม่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลใดก็ตาม ความเห็นของผมจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรม ในฐานะสมาชิกพรรคที่สามารถกระทำได้
"ผมจึงส่งข่าวนี้ไปถึงนายเฉลิมชัย ว่าท่านเป็นถึงหัวหน้าพรรคมีอำนาจสูงสุด ในการจัดการกับสมาชิกพรรคเมื่อเห็นว่าสมาชิกสมาชิกคนใดกระทำผิดข้อบังคับพรรค เพราะฉะนั้นถ้าท่านแน่จริงท่านทำเลยและทำไห้ไว ไม่ต้องไปยืมมือใครให้มาเป็นศัตรูกับผมโดยไม่จำเป็น และถ้าจะเล่นเรื่องทำให้พรรคเสื่อมเสีย ผมคิดว่าคนแรกที่ท่านต้องจัดการคือตัวท่านเองไม่ใช่คนอื่นที่เขารักและพยายามกอบกู้พรรค"