ข่าว

ปม ถือหุ้น ลาออก​จากบริษัท อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เกิดขึ้นหลังได้รับตำแหน่ง นายกฯ

ปม ถือหุ้น ลาออก​จากบริษัท อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เกิดขึ้นหลังได้รับตำแหน่ง นายกฯ

28 ส.ค. 2567

ปมถือหุ้น - ลาออก​จากบริษัท "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร เกิดขึ้นหลังได้รับแต่งตั้งเป็น นายกรัฐมนตรี มีเหตุอันควรสงสัยเข้าข่ายความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่

28 สิงหาคม 2567  นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผ่านไปรษณีย์ EMS เพื่อตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 จริงหรือไม่ เหตุใดจึงจดทะเบียนกรรมการออกในวันที่ 19 ส.ค.67 หลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 16ส.ค.67 แล้ว กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ 

 

นายเรืองไกร ได้อ้างอิงสำนักข่าวอิศรา ที่ระบุว่า วันที่ 26 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา หัวข้อ แพทองธาร ลาออก กก.ธุรกิจเกลี้ยง 21 บริษัท- อัลไพน์ ด้วย หลัง เศรษฐา  ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกฯ วันเดียว มีข้อควรสังเกต คือ คำขอจดทะเบียนบริษัท (แบบ บอจ.1) ลงรับวันที่ 19 ส.ค.67 แต่มีข้อความในท้ายของแบบว่า “ขอรับรองว่า ผู้ขอจดทะเบียนได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าข้าพเจ้าจริง เมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 ลงชื่อ สมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา และคำขอดังกล่าว ลงนามโดย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ

คำรับรองการจดทะเบียนบริษัท ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 (2) ระบุว่า “ได้มีหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2567 บริษัทได้รับเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 หนังสือมอบอำนาจของบริษัท ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 แต่ไปเสียค่าอากรในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 

 

จากข่าวของสำนักข่าวอิศรา และเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ระบุว่าถึง กรณีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากกรรมการบริษัทต่าง ๆ ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 จริงหรือไม่ และถ้ามีการมอบอำนาจลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เหตุใดจึงไม่ไปจดทะเบียนในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นวันศุกร์ และทำไม จึงไปจดทะเบียนในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ซึ่งห่างกันอีก 4 วัน กรณี จึงมีเหตุอันควรสงสัย 

ดังนั้น การลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 แต่ไปจดทะเบียนวันที่ 19 สิงหาคม 2567 จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบว่า วันที่ลาออกจริงนั้น คือวันที่ใด มีการทำเอกสารย้อนหลัง หรือไม่ หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า มีการลาออกหลังจากวันที่ 16 สิงหาคม 2567 จะมีผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่

 

นายเรืองไกร ระบุว่า คำรับรองการจดทะเบียนบริษัท ลงวันที่ 19 ส.ค.67 (2) ระบุว่า ได้มีหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการของ น.ส.แพทองธาร ลงวันที่ 15 ส.ค.67 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 67 บริษัทได้รับเมื่อ 15 ส.ค. 67 แต่ไปเสียค่าอากรในวันที่ 19 ส.ค.67 จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า น.ส.แพทองธาร ลาออกจากกรรมการบริษัทต่าง ๆ ในวันที่ 15 ส.ค. 67 จริงหรือไม่ 

 

และถ้ามีการมอบอำนาจลงวันที่ 15 ส.ค.67 เหตุใดจึงไม่ไปจดทะเบียนในวันที่ 16 ส.ค.67 ซึ่งเป็นวันศุกร์ ทำไม จึงไปจดทะเบียนในวันที่ 19 ส.ค.67 ซึ่งห่างกันอีก 4 วัน กรณี จึงมีเหตุอันควรสงสัย และควรตรวจสอบว่า วันที่ลาออกจริงนั้น คือวันที่ใด มีการทำเอกสารย้อนหลังหรือไม่ หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า มีการลาออกหลังจากวันที่ 16 ส.ค.67 จะมีผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่

 

นายเรืองไกร กล่าวว่า ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก ซึ่งรอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลมาให้ และจะนำมาตรวจสอบเพื่อส่งให้ กกต. พิจารณาต่อไป

 

ปม ถือหุ้น ลาออก​จากบริษัท อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เกิดขึ้นหลังได้รับตำแหน่ง นายกฯ