ข่าว

“ทักษิณ” ชูระบบทุนนิยมแบบเอื้ออาทร นำพาประเทศเติบโต แนะปฏิรูปเศรษฐกิจเต็มสูบ

“ทักษิณ” ชูระบบทุนนิยมแบบเอื้ออาทร นำพาประเทศเติบโต แนะปฏิรูปเศรษฐกิจเต็มสูบ

22 ส.ค. 2567

“ทักษิณ” แนะใช้ระบบทุนนิยมแบบเอื้ออาทร นำพาประเทศเติบโต ชูปฏิรูปเศรษฐกิจเต็มสูบ ดึงเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นบนดิน

22 ส.ค. 2567 ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน “เนชั่น กรุ๊ป” จัดงาน “Vision For Thailandมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงาน พร้อมกับกล่าวปาถกฐาวิสัยทัศน์ประเทศไทย

 

โดย นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงเรื่องระบบทุนนิยมว่า อย่าลืมว่าเราอยู่ในระบบทุนนิยม เราชอบหรือไม่ชอบ มันเป็นเศรษฐกิจทุนนิยม แต่พังไปหลายที่เพราะขาดความเอื้ออาทร วันนี้ถ้าเราไม่มีความเอื้ออาทรต่อคนที่ไม่มีกำลังก็ทำให้เติบโตลำบาก และเติบโตไปอย่างคนพิการ ทั้งรัฐ เอกชน ต้องเอื้ออาทรต่อคนที่ไม่มีกำลังทรัพย์ ไม่มีกำลังความรู้ ต้องให้โอกาสเขา

 

นอกจากนี้ ทักษิณ ชินวัตร ยังกล่าวถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจในหลายด้าน อาทิ ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ผมให้คนไปศึกษาที่ของดูไบ สิงคโปร์ แล้วมาดูว่า ที่พอเหมาะใช้กับเรา เพื่อเชิญธนาคารทั่วโลกมาตั้งที่ประเทศไทย เพื่อทำธุรกรรมต่างประเทศ

นอกจากนี้เรื่อง เศรษฐกิจใต้ดิน ปัจจุบันมีสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็น 1.ยาเสพติด 2. พนันออนไลน์ มีคนบอก ผม ว่า เรา ขาดทุนให้ออนไลน์ต่างประเทศ 1.7 แสนล้านบาทต่อปี ในประเทศยอดฝากประมาณ 3 ล้านล้าน ยอดเล่น 5 แสนล้าน สมมุติเราเก็บภาษีได้ 30 เปอร์เซ็นต์ 9 หมื่นล้าน นำเงินก้อนนี้ ให้ส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ จ้างครูต่างประเทศ มาสอนให้เป็น 2 ภาษาทั้งหมด และสร้างเครื่องมือการเรียนการสอน อันนี้ฝากเป็นข้อคิดไว้ เพราะเราสามารถเอาเงินจากใต้ดินขึ้นบนดิน ไม่งั้นตำรวจตีกันหมด

 

 

ทักษิณ ชินวัตร

รวมทั้งต้องปฏิรูประบบราชการอย่างเต็มเที่ ลดรายจ่ายภาครัฐ ลดจำนวนข้าราชการ ปรับเรื่องงบประมาณบอลลูน อย่างเรื่อง 30 บาท เราต้องคิดใหม่ คำนวณใหม่เพื่อให้ถูกต้องตรงความเป็นจริง และเอาเทคโนโลยี มาใช้กับระบบราชการมากขึ้น เป็นเรื่องท้าทาย พูดง่าย แต่ทำยาก แต่ต้องทำ

 

นอกจากนี้ ทักษิณ ชินวัตร ยังแนะนำถึง เศรษฐกิจไทย ซึ่งปัจจุบัน GDP ของไทยอยู่อันดับที่ 14 ขณะที่ ฟิลิปปินส์อยู่ที่อันดับ 18 และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเนื่องจาก เราขาดการแก้ปัญหาทั้งระบบ ขาดการคิดอย่างมียุทธศาสตร์ และขาดกำลังรบ ที่จะไปแข่งขันกับต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังได้ยกประเด็นปัญหาที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไข และรับมือ 

- ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของคนไทยแพงมาก พลังงานเราต้องนำเข้า ก็เป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยน ตามตลาดโลก ไฟฟ้าก็มีแต่ขึ้น แต่โลกกำลังบอกว่าจะทำยังไงให้ไฟฟ้ามันถูกลง พลังงานสีเขียวได้ไหม พลังงานฟิวชันให้เป็นไฟฟ้าราคาถูก เราขาด R&D

- ปัญหาของไทยอีกอย่างคือระบบราชการที่ใหญ่เทอะทะและไม่เอื้อต่อการให้บริการประชาชน

- Geopolitics (ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์) เป็นทั้งประโยชน์และค่าใช้จ่ายของประเทศไทย ความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ทำให้ระบบกีดกันทางการค้ากลับเข้า ที่อเมริกาก็จะดูว่าขาดดุลการค้ากับประเทศไหน แล้วก็ดูว่าจะทำยังไงถึงจะลดลงได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องเตรียมตัว เราจะขายอะไรจะซื้ออะไรต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า

- เทคโนโลยี เติบโตเร็วมาก โดยเฉพาะ AI เมื่อก่อนเขาบอกว่า AI จะฉลาดเท่ากับมนุษย์ค่าเฉลี่ย แต่ตอนนี้เราจะเห็น AI ที่ฉลาดกว่ามนุษย์แล้ว

- นักธุรกิจไทย ทำธุรกิจแบบตั้งรับ หากินในประเทศ และเชิญนักธุรกิจต่างประเทศเข้ามา หวังการจ้างงาน หวังเงินลงทุน
  รัฐบาลควรสนับสนุนให้คนไทยออกไปแข่งขันสู้ในเวทีโลก

 

 สำหรับการแก้ปัญหา สามารถแบ่งได้ 3  ข้อ 

1. ปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจ ให้เดินต่อให้ได้ เรื่องนี้ก็เป็นของรัฐมนตรีคลังและคุยกับสมาคมธนาคาร ว่าจะแก้ปัญหากันยังไง แนวทางมีและถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจัดการแรกๆ เลย

2.กระทรวงคลังต้องประสานนโยบายเศรษฐกิจกับแบงค์ชาติ เพื่อให้นโยบายการเงินซึ่งแบงค์ชาติดูแลและนโยบายการคลังที่กระทรวงการคลังดูแลไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่ยังเคารพความเป็นอิสระของแบงค์ชาติอยู่  

3. ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไทย วันนี้เราต้องไปชวนคนเข้ามา บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Nvidia และทั้ง Supply Chain ต้องการหาที่ลง วันนี้ประเทศไทยควรเป็น Safe Haven ของอุตสากรรมมากที่สุด อยากขายจีน อเมริกา ยุโรป มาตั้งที่ไทยได้ ไม่มีปัญหา เพราะเราไม่มีปัญหาเรื่อง Geopolitics


รวมทั้ง เรื่อง Data Centers สนใจเข้ามาประเทศไทยเยอะแยะ แต่พวกเขาก็จะบ่นเรื่องค่าไฟและพลังงานสะอาด เราก็พยายามแก้ไขกันตรงนี้อยู่ ถ้าบริษัทที่เข้ามาอยากผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดใช้เองทำได้ แต่ห้ามขาย อันนี้ก็พยายามช่วยให้เขาอยู่ ปัญหาที่ เราห่วง อยู่คือ EV ตอนนี้เราหาความพอดีไม่ค่อยเจอ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเอาจริงเรื่อง Soft Power อย่างมวยไทยก็ไปแล้ว ดังไปทั่วโลก แต่มันยังไม่มีมาตรฐานที่เหมือนกัน เหมือนฟีฟ่าทำฟุตบอล 

E-Sports เป็นสิ่งที่เราอยากสนับสนุนในประเทศไทย ทั้งการผลิตเกมด้วย อยากจะกระตุ้นผ่าน demand ด้วยการให้ token กับคนเล่นเกม เพื่อไปซื้อเกมจากคนไทย เพื่อสนับสนุนให้มีการสร้างเกม นอกจากนี้อุตสาหกรรม Fashion เราก็อยากจะส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้เติบโตมากขึ้นด้วย ต้องพยายามสร้างให้คนไทยพัฒนามากขึ้น รวมถึงอุตสาหรรมกรรม อาหารไทย ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เราต้องนำ ครัวไทยสู่ครัวโลก กลับมา สร้างเชฟอาหาร ส่งออกอาหาร สินค้าการเกษตรไปยังต่างประเทศได้

ขณะที่การเพิ่มศักยภาพ ท่องเที่ยว Entertainment Complex การลงทุนขนาดใหญ่ Entertainment complete ในหลายประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ ตอนนั้นผมคิดแต่ทำไม่ได้ เพราะมีคนค้าน โดย Entertainment Complex มีสนามกีฬา คอนเสิร์ต ขณะที่ในส่วน พื้นที่ที่เป็นคาสิโนมีไม่ถึง 10% เป็นกติกาที่สากลใช้

นอกจากนี้การปฏิรูปการเกษตร แม้ว่าตอนนี้ประเทศไทยเราดีมาก แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่พัฒนาได้ อย่างข้าวตอนนี้เราสู้เวียดนามไม่ได้ เหตุผลเพราะดินเราเริ่มไม่ดี มีการใส่ปุ๋ยใส่ยาฆ่าแมลงมานานมาก เราต้องใช้ R&D ช่วย เราจะทำยังไงให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เช่นคนรุ่นใหม่อยากได้ข้าวที่มีคาร์โบไฮเดตน้อย ไฟเบอร์เยอะ อร่อยเหมือนเดิม เราใช้ R&D ได้ ขายราคาสูงขึ้นได้ เราอยู่กับสัดส่วนกำไรที่ต่ำมากตอนนี้ เราต้องไปหาสินค้าที่สัดส่วนกำไรนี้สูงขึ้น เราต้องไม่แข่งกันตัดราคา

 

อีกอันที่ เราอยากทำ รถไฟฟ้า 20 บาทก็คงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราพูดไปแล้ว เราต้องทำให้ได้ เพราะฉะนั้นรถไฟฟ้า 20 บาท เราอาจจะต้องเวรคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหาร และเรากำหนดค่าตั๋วเอง เพราะไม่เช่นนั้นเอกชนเขาก็ต้องมุ่งเรื่องของกำไรเขา เป็นสิ่งที่เราต้องทำ

 

เราต้องตั้ง Infrastructure Fund หรือ กองทุนรวมด้านโครงสร้างพื้นฐาน คิดถึงเรื่องการเก็บรายได้จากความแออัด Congestion Charge  เพราะเราเป็นน้อยประเทศมาก ที่มีความหนาแน่นของเมืองหลวง แต่ไม่ยอมเก็บ เงินตรงนี้จะเข้ากองทุน ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาถูกขึ้น