14 ส.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้สิ้นความเป็นนายกรัฐมนตรี และกล่าวถึงบทบาททางการเมือง ว่า ยังไม่ทราบว่า จะช่วยงานพรรคเพื่อไทยต่อหรือไม่ เเต่ก็คิดเสมอว่า อยากช่วยบ้านเมืองอย่างเต็มที่ สำหรับข้อสงสัยว่าใครควรจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น ส่วนตัวเห็นว่า ผู้ที่มีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีทุกคน มีความพร้อมอยู่แล้ว เเต่ละคนมีจุดเเข็งจุดด้อยที่ต่างกัน เเต่คงไม่ฝากอะไรถึงผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะเเต่ละคนมีทิศทางการทำงานที่ไม่เหมือนกัน
สำหรับการขึ้นมาบริหารประเทศที่จะครบ 1 ปี ได้บทเรียนราคาแพงอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า "คำถามนี้มันยาก บทเรียนราคาแพงมันออกได้ทั้งเป็นบวก และลบ ผมไม่อยากมองในแง่ลบมากกว่า"
เมื่อถามว่าการเป็นนักการเมือง กับการเป็นนักธุรกิจอะไรโหดร้ายกว่ากัน นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อพบกับความผิดหวังทุกเรื่องก็โหดร้ายหมด แต่เราก็ต้องอยู่กับมันไป ส่วนวันพรุ่งนี้ตนยังไม่แน่ใจ ว่าจะทำอย่างไรเป็นสิ่งแรก ยังไม่ทราบ แต่คาดว่า อาจจะไปลอยอังคารกระดูกมารดาเร็วขึ้น ซึ่งขอคุยกับครอบครัวก่อน หรือหากทีมงานอยากคุยเรื่องส่งต่องาน ตนก็พร้อมไม่มีปัญหาอะไร เพราะได้ยกเลิกภารกิจการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีความพร้อมที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ นายเศรษฐา มองว่าคนที่อยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีความพร้อม และมีจุดแข็งจุดอ่อนต่างกันไป ขอให้เป็นตามกระบวนการรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีอะไรจะกล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งรู้จักกันอยู่แล้ว เดี๋ยวว่าง ๆ จะไปหากาแฟกินธรรมดา ไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่อทราบผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ไม่มีภาคการเมือง แล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่มีใครโทรมา มีเพียงแค่ส่งข้อความเข้ามาให้กำลังใจเท่านั้น บางคนบอกว่า จะเข้ามาหาที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ตนก็บอกว่าอย่าเข้ามาเลย เพราะจะออกไปอยู่แล้ว “มันอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเขาไม่ให้อยู่แล้ว “
นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในระยะเวลาการทำงานเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกเหนือจากการเป็นนักธุรกิจ เพราะได้แก้ปัญหาให้กับประชาชนมีการลงพื้นที่รับฟังปัญหา เพราะส่วนตัวไม่เคยรู้มาก่อน หากไม่ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยคิด ว่าการมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นจุดสูงสุดของชีวิตหรือไม่ เพราะจุดสูงสุดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีนี้ ก็ถือว่าเป็นเกียรติประวัติต่อตัวเอง
ระหว่างที่นายเศรษฐา ลงมาแถลงข่าวที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยก่อนเริ่มแถลงนายเศรษฐา ได้เช็กโทรศัพท์ตลอดเวลา ก่อนที่จะเดินมาให้สัมภาษณ์ โดยในช่วงต้นของการสัมภาษณ์ นายเศรษฐา มีเสียงสั่นเครือเล็กน้อย และให้สัมภาษณ์เป็นเวลาประมาณ 20 นาที
และหลังตอบคำถามสุดท้าย ที่ถามว่า จุดสูงสุดในชีวิตของนายเศรษฐาคืออะไร เจ้าตัวได้นิ่งไป ก่อนตอบว่า “เป็นลูกที่ดีครับ” จังหวะนี้นายเศรษฐา ตาแดง และมีน้ำตาคลอเล็กน้อยก่อนยกมือไหว้ และโบกมือ ส่งยิ้มให้กับผู้สื่อข่าวก่อนเดินขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อเลคซัส ป้ายทะเบียน ศฐ 30 กรุงเทพมหานคร ออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลา 16.13 น.
รวมระยะเวลา นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น 358 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง