ข่าว

"ทักษิณ" เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลประชุมด่วน บ้านจันทร์ส่องหล้า

"ทักษิณ" เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลประชุมด่วน บ้านจันทร์ส่องหล้า

14 ส.ค. 2567

"ทักษิณ ชินวัตร" เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทุกพรรคเข้าหารือด่วนที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ขณะที่ "แพทองธาร" กลับถึงไทยเย็นนี้ (14 ส.ค.67) หลังบินศึกษาดูงานจีนหลักสูตร มินิ วปอ.

14 ส.ค. 2567 รายงานข่าวแจ้งว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย "เศรษฐา ทวีสิน" พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพทย์เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเข้าหารือด่วน ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ช่วงเย็นวันนี้ (14 ส.ค.2567)

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพร​ทองธาร​ ชินวัตร​ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ได้เดินกลับหลังจากศึกษาดูงาน ในหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ​ วปอ.​ (มินิวปอ.)​ ที่ประเทศจีน​ ระหว่างวันที่​  12 -​ 15 สิงหาคม​ 2567 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ​มีกำหนดการเดินทางกลับจากประเทศจีนไว้ล่วงหน้าแล้ว​  เนื่องจาก ติดภารกิจที่ไทย​ ทำให้สามารถร่วมกิจกรรมได้เพียงวันที่​ 12 -​14 สิงหาคมเท่านั้น​ โดยเดินทางกลับไทยตั้งแต่เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

 

ซึ่งคาดการณ์ว่า น่าจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในเวลาประมาณ 18:00 น.- 19.00 น.​ ทำให้ต้องจับตาความเคลื่อนไหวของนางสาวไทยทองธา และพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้ ในการเตรียมความพร้อม เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากตัดชื่อของนายเศรษฐา ทวีสิน ออก จะเหลือชื่อของนางสาวแพรทองธาร​ และนายชัยเกษม​ นิติศิริ

 

 

 

"ทักษิณ" เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลประชุมด่วน บ้านจันทร์ส่องหล้า

 

ขณะที่วันนี้ (14 ส.ค 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังรับทราบคำตัดสินคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ ครม. สิ้นสภาพทั้งคณะว่า ได้พูดคุยกับนายเศรษฐา โดยได้แสดงความเสียใจและเสียดายในความตั้งใจที่จะทำงานของนายกฯ แต่ก็เคารพต่อคำวินิจฉัยของศาล


โดยขั้นตอนต่อจากนี้ ตนในฐานะรองนายกอันดับหนึ่ง จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี  โดยในวันนี้ ได้มีการเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยทันที  หลังเสร็จสิ้นภารกิจการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นภารกิจสุดท้าย โดยพูดคุยถึงความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าร่วมกัน ซึ่งจะเดินทางถึงประเทศไทยในช่วงเช้าของวันที่ 15 สิงหาคม นี้ 

 

ทั้งนี้  สิ่งที่ต้องรีบดำเนินทันที 3 ด้าน คือ การประชุม ครม.  ประชุมพรรคเพื่อไทย และหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหารือแนวทางการทำงาน หลังจากนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด อย่างไรก็ตาม ตนก็มีความเป็นห่วงต่อนโยบายที่ค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิตอลวอลเล็ท 10,000 บาท และการจัดทำงบประมาณ ปี 2568 ซึ่งเรื่องนี้ตนก็กังวล จะไปหารือกับพรรค ในรายละเอียดต่อไป

 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการประชุมกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะหารือเกี่ยวการหาแคนดิเดตนายรัฐมนตรี ของพรรคที่ตอนนี้มีอยู่ 2 รายชื่อ คือ

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
  • นายชัยเกษม นิติศิริ

 

โดยขณะนี้พรรคมีบุคคลที่มีศักยภาพพร้อมอยู่สองคน ซึ่งนายชัยเกษมก็รับทราบว่ามีสุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาปฎิบัติช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด

 

ส่วนการประชุม ครม. ก็จะวางแนวทางการทำงาน และเดินหน้าทำงานต่อไป ซึ่งในสัปดาห์หน้าก็จะมีการประชุม ครม. สัญจรที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ  ซึ่งจะทำภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก็จะมีการหารือสานต่อถึงนโยบายที่จะทำร่วมกันต่อไป

 

 

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าอย่าพึ่งคิดไปไกลเกินขนาดนี้ ก็ต้องดำเนินการไปตามกฏหมายไปก่อน และจะนานแค่ไหน ตนไม่ทราบขึ้นอยู่กับประชุมรัฐสภา  

 

 

ส่วนประเด็นคำถามที่ว่า จะต้องมีการหารือเรื่องนี้กับ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยหรือไม่? นายภูมิธรรมกล่าวว่า  เป็นคนละเรื่องกัน เพราะทุกอย่างต้องรอมติของกรรมการบริหารพรรค จากนี้ไปก็เป็นการบริหารจัดการร่วมกันของพรรค ซึ่งจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ขณะที่นายกฯ คนใหม่ก็ต้องให้สภาเป็นคนตัดสินใจ เพราะเป็นกลไกตามกฎหมาย