"ก้าวไกล" นัดรวมพล 7 ส.ค. ฟังคำวินิจฉัยศาล รธน. ชี้ชะตา คดียุบพรรค | คมชัดลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊คพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า  เรียน ประชาชนที่เคารพ เนื่องจากวันที่ 7 ส.ค. 2567 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ในโอกาสสำคัญนี้ พรรคก้าวไกลจึงขอเรียนเชิญประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ และเจ้าของพรรคก้าวไกลทุกท่าน มาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยพร้อมกัน ณ อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป  โดยเราจะมีกิจกรรมต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.
 

นอกจากนี้ ยังเพจดังกล่าวยังได้โพสต์ระบุอีกว่า Exclusive Lecture : ปิยบุตร แสงกนกกุล 7 ส.ค. นี้ เวลา 13.30 น. ก่อนรับฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษ จากปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในหัวข้อ ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง

เจอกันที่พรรคก้าวไกล พร้อมกิจกรรมต่อเนื่องยาวไปถึงหลังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะก้าวต่อไปด้วยกัน

ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค. นี้ว่า ถ้าสื่อมวลชนไม่ถาม ตัวเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะทำงานกันอย่างลืมวันลืมคืน ความจริงแล้ววันที่ 7 ส.ค. ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการรอดูและการรอฟัง

ส่วนการที่นัดให้ประชาชนมารวมตัวกันที่อาคารรอนาคตใหม่ ที่หัวหมาก 12 ในวันที่ศาลมีการอ่านคำวินิจฉัย เพราะทางพรรคเห็นว่าประชาชนอาจจะมีการกระจัดกระจาย เลยอำนวยความสะดวก ให้มารวมตัวกันที่นี่ จะได้ไม่ต้องไปศาล ไม่ต้องไปที่อื่น และจะได้พบปะพูดคุยกัน คิดว่า 7 ส.ค. ประชาชนที่มารวมตัวกันที่นี่ ก็คงจะได้พูดคุยกัน ยังไม่ได้คิดว่าจะมีข่าวร้าย คิดว่าเป็นกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์ 
 

เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณอะไรหรือไม่ นายวิโรจน์ แซวนักข่าวกลับว่า สัญญาณใจ หรือสัญญาณอะไร ยังไม่มีการตอบรับ จากเลขหมายที่ท่านเรียก พร้อมกล่าวต่อว่า การแถลงข่าวของนายพิธา ก็ยืนยันว่า ทางกกต. ทำ มันขัดกับระเบียบของตัวเอง มีการลัดขั้นตอน ไม่ถูกต้องตามระเบียบ และการแถลงข่าวของนายชัยธวัช ก็เห็นได้ชัดว่า ข้อเท็จจริงที่ทาง กกต. เอาไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ มีความคลาดเคลื่อนและเป็นเท็จ อยู่หลายประการ

ที่สำคัญคือทางศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ยืนยันว่า กกต.ไม่ทำตามขั้นตอน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่ให้ผู้ถูกร้องชี้แจงข้อกล่าวหา

ซึ่งทั้ง 3 องค์ประกอบที่กล่าวมานั้น ทางศาลรัฐธรรมนูญ รับไว้พิจารณาแล้ว ทำให้ทางพรรคก้าวไกล ไม่ได้กังวลใจอะไร เพราะทำดีที่สุดแล้ว และบุคลากรภายในพรรคก้าวไกลไม่ได้เสียขวัญอะไร ยังคงทำงานกันต่อไป ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกหลายอย่าง อย่าฟุ้งซ่าน รอวันที่ 7 ส.ค. จะดีกว่า
 

ส่วนเรื่องการวางแผน หลังจากที่ศาลตัดสินแล้ว ทางพรรคก้าวไกลจะทำยังไงต่อไป นายวิโรจน์ บอกว่า เราไม่ได้มีการเตรียมการอะไรขนาดนั้น แต่เรามีแผนสอง จะบอกว่าไม่มีแผนเลยคงไม่ได้ คำตัดสินจะเป็นอย่างไร เรามีทางออกทั้งหมดแล้ว

นายวิโรจน์ ยังพูดถึงกระบวนการสกัดพรรคก้าวไกลว่า ถ้ายุบพรรคแล้ว ยังสกัดพรรคก้าวไกลไม่ได้ ผู้มีอำนาจก็อาจจะไม่ยุบก้าวไกลก็ได้ ถ้ายุบแล้วเป็นการถีบหลังก้าวไกลให้ไปไวกว่าเดิม เขาจะอยากยุบทำไม

แต่ถ้าคิดว่าถ้าบ้านเมืองอยู่ในหลักนิติรัฐ นิติธรรม สิ่งที่เราได้ต่อสู้ไปทั้งหมดนั้น มันไม่มีเหตุอะไรให้ยุบพรรคก้าวไกล ตัวเองไม่เคยตอบเรื่องนี้ด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะตัวเองเชื่อในความสุจริตของพรรคก้าวไกล เราไม่มีความจำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้น