ข่าว

"เศรษฐา" ลั่นเข้าใจความรู้สึก "บิ๊กโจ๊ก" ชง ก.ตร. แก้ปัญหา ยันไม่เข้าข้างใคร

"เศรษฐา" ลั่นเข้าใจความรู้สึก "บิ๊กโจ๊ก" ชง ก.ตร. แก้ปัญหา ยันไม่เข้าข้างใคร

25 มิ.ย. 2567

"เศรษฐา" ลั่นเข้าใจความรู้สึก "บิ๊กโจ๊ก" มองไม่ได้เป็นการขู่ปมการแก้ไขคำสั่ง ยันไม่เข้าข้างใคร วอนทุกคนสำนึกหน้าที่ตำรวจหลังยังขัดแย้งหนัก

25 มิ.ย. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ (26.มิ.ย.2567)  โดยยอมรับว่าจะมีการพิจารณาเรื่องของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องจะกลับไปหรือไม่กลับ แต่เป็นเรื่องรายละเอียดในข้อกฎหมายที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ โดยอาจจะต้องฟังรายงานอีกครั้ง

\"เศรษฐา\" ลั่นเข้าใจความรู้สึก \"บิ๊กโจ๊ก\" ชง ก.ตร. แก้ปัญหา ยันไม่เข้าข้างใคร

เมื่อถามว่าได้เห็นบทสัมภาษณ์ของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ที่บอกว่าหากนายกฯ ไม่ทบทวนคำสั่งก็อาจจะมีการฟ้องร้องท่าน นายเศรษฐา ทวีสิน ระบุว่าเรื่องของการทบทวนแก้ไข เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ถ้าผู้สื่อข่าวเห็นในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เราพยายามแก้ปัญหา แต่มันมีขั้นตอนของกฎหมาย และการประชุม ก. ตร.ในวันพรุ่งนี้ ก็เป็นหนึ่งในการแก้ปัญหาที่เราต้องรับฟังคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการตำรวจ และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ

\"เศรษฐา\" ลั่นเข้าใจความรู้สึก \"บิ๊กโจ๊ก\" ชง ก.ตร. แก้ปัญหา ยันไม่เข้าข้างใคร

 

และเชื่อว่า ถ้าเกิดเรื่องเหล่านี้จบ ก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ ก็เข้าใจและเห็นใจทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราเองก็ไม่ได้มีความลำเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่ง ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

 

 

เมื่อถามว่าสิ่งที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ได้ออกมาพูด ให้สัมภาษณ์นั้นเป็นถือเป็นการขู่หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ตนเข้าใจว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นผู้เดือดร้อนและมีความร้อนใจ ในฐานะที่เราเป็นคนทำงานด้วยกัน ก็เข้าใจความร้อนใจไม่มองว่าเป็นการขู่

 

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี อยากให้ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เกิดความปรองดองจึงคืนตำแหน่งให้กลับไปทำงานช่วยกัน แต่ภาพที่ออกมา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กลับฟ้องร้องทุกคน มันจะปรองดองได้หรือไม่?

 

นายเศรษฐา ระบุว่า ความปรองดองเป็นแค่ทางผ่าน อย่างหนึ่ง จุดประสงค์ใหญ่ที่เราอยากให้มีการปรองดอง เพื่อดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน เพราะปัจจุบันปัญหามันเยอะเหลือเกิน แต่เมื่อก้าวข้ามเรื่องพวกนี้ไป ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจ ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม และเรื่องของกฎหมายทั้งหลาย ทั้งที่เราตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และเรื่องร้องเรียนต่างๆ มันต้องมีการพิจารณา

 

 

เมื่อถามว่าในฐานะที่นายกรัฐมนตรี ที่คุมตำรวจจะให้กำลังใจ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่โดนหางเลขเรื่องนี้ด้วย นายเศรษฐา ระบุว่า ผมเชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกๆ คน ทั้งพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ รวมไปถึงพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์

 

" ตนเชื่อว่าทุกท่านมีปัญหาอยู่แล้ว แต่ผมอยากจะขอแบบนี้ ทุกท่านมีวุฒิภาวะสูง เรื่องของปัญหาส่วนตัว ก็ต้องมีการแก้ไขกันตามกระบวนการกฎหมาย แต่อยากให้ทุกท่านเอง  สำนึกถึงว่าเรามายืนตรงนี้ทำไม ว่าเรามายืนตรงนี้เพื่ออะไร ต้องดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ก็เป็นเรื่องสำคัญ เชื่อว่ากำลังใจ และเชื่อว่าทุกท่านอยู่ในหน้าที่การงานมา 30 กว่าปี เชื่อว่าทุกท่านรู้ว่าหน้าที่คืออะไร "

 

 

เมื่อถามต่อว่าการมีปัญหากันในระดับนายพล แต่ทำให้ลูกน้องมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย นาย เศรษฐา ระบุว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์เข้ามาเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับไปดูประวัติศาสตร์ว่าผมได้ให้คำแนะนำไปว่าอย่างไร และให้แนวทางปฏิบัติอย่างไร ว่าเรื่องทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด

 

เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์แล้วบ้างหรือไม่นายเศรษฐา ระบุว่า ยังไม่ได้พูดคุย ถ้าพรุ่งนี้เจอก็คงจะมีการคุย เพราะเข้าใจว่าพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ น่าจะเข้าประชุมด้วย ก็ต้องฟังความคิดเห็นของพวกท่านเหล่านั้นด้วยเพราะตนเองก็เป็นแค่เสียงเดียวคณะกรรมการยังมีผู้เชี่ยวชาญและอดีตผู้บริหาร ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกด้วย