คปท.จี้'อัยการสูงสุด'เอาผิด'ทักษิณ'ม.112
KEY
POINTS
เราเห็นว่า บัดนี้ การหาข้อเท็จจริงทางคตีและการรวบรวมพยานหลักฐานนำจะเสร็จสิ้นและหาข้อยุติได้แล้วเนื่องจากว่า นายทักษิณ ชินวัตร ใด้ยื่นขอความเป็นธรรมและอัยการสูงสุดได้ให้โอกาสในการ
ชี้แจงข้อกลาวหาไปแล้วนั้น มื่อพิจารณาจากข้อกล่าวหาและระยเวลาที่ผ่านมา เห็นได้ว่าข้อเท็จจริงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใต้เป็นอย่างอื่น เพื่อให้กิดการพิจารณามีคำสั่งของอัยการสูงสุดที่เป็นมาตรฐานเดียวกับบุคคลอื่นที่โดนกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เราเห็นว่าอัยการสูงสุด ต้องรีบมีคำสั่งทางคดีตามหลักฐานที่กองทัพบกได้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายทักษิณ ชินวัตร โดยเร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายพิชิต ไชยมงคล,นายนัสเซอร์ ยีหมะ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), ดร.ใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม และ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (คปปส.) เดินทางมายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ดำเนินการโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก
ซึ่งมี นายณรงค์ ศรีระสันต์ เเละนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับหนังสือร้องเรียน
นายพิชิต กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุด ได้เลื่อนการมีคำสั่งคดี นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเป็นวันที่ 29 พ.ค.2567 โดยระบุว่า พนักงานสอบสวนส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งยังไม่ครบถ้วนนั้น การใช้สิทธิ์ในการขอความเป็นธรรมและการใช้สิทธิ์โนการชี้แจงข้อกล่าวหานั้น เป็นสิทธิ์ทางกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้
แต่ที่ผ่านมาพวกเราเห็นว่า การใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเพียงข้ออ้างในการถ่วงเวลาเพื่อขยายเวลาคดีออกไปให้ได้นานที่สุดเท่านั้นเอง ทั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร สามารถที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาตามกฎหมายได้ก่อนหน้านี้อยู่แล้วการดำเนินการทางคดีเพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกับบุคคลอื่นที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดที่กระทบต่อความรู้สึกของประชนชาวไทย จึงมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ควรทำให้เกิดข้อครหาว่า อัยการสูงสุต ได้ช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหา
เป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดเคยมีมติสั่งฟ้องไปแล้วนั้น การขยายเวลาให้สอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็ได้ดำเนินการมาแล้ว ข้อเท็จจริงทางคดีจึงน่าจะได้ข้อสรุปมีคำสั่งทางคดีได้ทันที
ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกมาชี้แจงการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ต้องหาว่าจะตำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัต โดยคำนึงถึงสิทธิ์ของผู้ต้องหาดามกฎหมายนั้น
เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม เห็นว่า การที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อต่อสู้คดีนั้น เราขอเรียนต่ออัยการสูงสุดประกอบการพิจารณาว่า กรณีผู้ต้องหาได้กระทำความผิดและมีการร้องทุกข์กล่าวโทษโดยกองทัพบกเพื่อไห้พนักงานอัยการเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายนั้น การแจ้งข้อกล่าวหานั้นพนักงานอัยการใด้รับเรื่องและมีการดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบ แต่ผู้ต้องหากลับหลบหนีอยู่ต่างประเทศไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเอง การร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหานั้น เป็นการยื่นร้องขอความเป็นธรรมที่มาจากผู้ต้องหาหลบหนีและไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมไทยตั้งแต่ต้น การยื่นร้องขอความเป็นธรรมในวันแจ้งข้อกล่าวหาต่อหน้าอัยการนั้นเป็นเพราะว่า ผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีได้อีกเนื่องจาก ตกเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด ดังนั้นการยื่นร้องขอความป็นธรรมดังกล่าวจำเป็นที่พนักงานอัยการต้องพิจารณาพฤติการณ์ผู้ต้องหาที่มีการหลบหนี มาประกอบความเห็นในการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมด้วย