ข่าว

“ภูมิธรรม” สวน ก้าวไกล ตั้ง 9 คณะอนุฯงบ 67 แบบใหม่ เหตุพิจารณาล่าช้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ภูมิธรรม” สวน ก้าวไกล ตั้ง 9 คณะอนุฯงบ 67 แบบใหม่ ยันไม่ได้ป้องงบกระทรวง หวังพิจารณาได้เร็วขึ้น ขออย่ากังวล สุดท้ายที่ประชุมชุดใหญ่ชี้ขาดตัดงบฯ พร้อมมอบนโยบายให้ทำงานเป็นหนึ่งเดียว-ปรับลดโครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์-เคร่งครัด ม.144

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่มีนายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน กมธ. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการ ในกมธ. งบประมาณปี 67 จำนวน 9 คณะ ประกอบด้วย

นายภูมิธรรม เวชชยชัย

1.คณะอนุฯด้านการบริหาร อาทิ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นต้น

 

 

2.คณะอนุฯด้านเศรษฐกิจ 1 อาทิ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.ศนิวาร บัวบาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์

 

 

3.คณะอนุฯด้านเศรษฐกิจ 2 อาทิ นายสุรเกียรติ เทียนทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นต้น

 

“ภูมิธรรม” สวน ก้าวไกล ตั้ง 9 คณะอนุฯงบ 67 แบบใหม่ เหตุพิจารณาล่าช้า

4.คณะอนุฯด้านมั่นคง อาทิ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายรังสิกร ทิมาตฤกะ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย นายทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ นายสุไลมาน บือแนปีแน สส.ยะลา พรรคประชาชาติ นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย เป็นต้น

 

 

5.คณะอนุฯด้านสังคม อาทิ นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา อดีตสส.นครปฐม พรรคก้าวไกล นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น

 

 

6.คณะอนุฯด้านการปกครอง อาทิ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สส.สระบุรี พรรคภูมิใจไทย นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี พรรคพลังประชารัฐ นายชลธานี เชื้อน้อย สส.ลำปาง พรรคก้าวไกล น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นต้น

 

 

7.คณะอนุฯด้านทรัพยากรบุคคล อาทิ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล นายอิสรพงษ์ มากอำไพ อดีตสส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์

 

 

8.คณะอนุฯด้านแผนงานบูรณาการ อาทิ นายศักดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น

 

 

9.คณะอนุฯข้อสังเกต อาทิ นางฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ นายวาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นต้น

 

 

ภายหลังที่ประชุมมีมติตั้ง 9 คณะอนุฯ ในกมธ.งบฯ ปี 67 แล้วเสร็จ ปรากฎว่าน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในที่ประชุมกมธ.ฯ ว่า การตั้งคณะอนุฯ ทั้ง 9 คณะ ยกเว้นคณะอนุกรรมาธิการข้อสังเกต จะพบว่าเป็นการตั้งคณะอนุกรรมาธิการที่มีลักษณะแบ่งตามหน่วยงานที่พรรคร่วมรัฐบาลดูแล ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่การตั้งคณะอนุฯ จะแบ่งตามรายการงบประมาณที่ต้องการให้ตรวจสอบ เช่น รายการงบประมาณสำหรับการฝึกอบรม คุรุภัณฑ์ เป็นต้น ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรอบการทำงานของคณะอนุกรรมาธิการฯตามที่ที่ประชุมได้มีมติในครั้งนี้ อาจจะกระทบต่อความเป็นอิสระต่อการทำงานของคณะอนุฯหรือไม่

 

 

ทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธาน กมธ.ชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากการพิจารณางบประมาณของปี 2567 มีความล่าช้ามาเป็นเวลานาน จึงคิดว่าการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานของคณะอนุกรรมาธิการฯจะสามารถทำให้การพิจารณางบประมาณทำได้รวดเร็วมากขึ้น

 

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567  กล่าวว่า ที่ประชุมได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการ 9 คณะ มีอนุชุดละ 10 คน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมี กรรมาธิการจากชุดใหญ่เข้าไปนั่งในคณะชุดละ 2 คน และวันนี้หลังจากที่ประชุมนัดแรกได้เชิญคณะอนุเข้าประชุมร่วมกับคณะใหญ่เพื่อมอบในการปฎิบัติหน้าที่ ขอบคุณความร่วมมือของคณะอนุกรรมมาธิการ และขอให้ยึดแนวทางการทำหน้าที่พิจารณา ดังต่อไปนี้

 

 

1.ขอให้ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่ใช่มองเป็นพรรคการเมืองหรือฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แนะรับฟังทุกความเห็นและร่วมมือกันเป็นอย่างดี ไม่ต้องการใช้วิธียกมือโหวต แต่ต้องการให้คุยกันเกิดข้อสรุป

 

 

2.ขอให้ตั้งคำถามกระทรวงหน่วยงานให้มีความสั้นกระชับ ตรงประเด็นได้ใจความ เนื่องจากแต่ละหน่วยงานต่างมีภารกิจ และการขอข้อมูลควรอยู่ภายใต้การให้เกียรติและเคารพกัน แล้วทุกฝ่ายก็ต้องตอบสนองเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการวางงบประมาณ

 

 

3.กรรมาธิการจะพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว 

 

 

4. การปรับลดงบประมาณ หลายโครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง 

 

 

5. เคร่งครัดในการพิจารณางบประมาณภายใต้กรอบกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เชื่อว่าความร่วมมือกันจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งท้ายที่สุดในการพิจารณาตัดสินใจตัดงบประมาณอยู่ที่คณะกรรมาธิการชุดใหญ่

 

 

พร้อมชี้แจงว่าคณะกรรมาธิการใช้วิธีการใหม่ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ในการตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาใช้เป็นการแบ่งตามภาพรวม มีข้อดีได้เห็นภาพรวม แต่ยอมรับมีปัญหาว่า หน่วยราชการทั้งหมดจะต้องทำงานหนักมาก จึงใช้วิธีการตั้งคณะอนุตามมาตรา หรือตามกระทรวง ซึ่งการพิจารณาแต่ละกระทรวงหนึ่งอาจจะใช้เวลา 1-2 วัน ซึ่งหากทำแล้วเห็นว่าแบบเก่าดีกว่าก็จะกลับไปใช้แบบเก่า หากแนวทางใหม่ดีกว่าก็จะเป็นวิธีทำงานใหม่

 

 

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงข้อสังเกตุการตั้งคณะอนุฯ ว่าจะเป็นการใช้รูปแบบเพื่อปกป้องงบของกระทรวงตัวเองหรือไม่ ว่าท้ายที่สุดคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ และมาจากตัวแทนทุกพรรคการเมือง จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ

 

 

“อย่ากังวลเกินไป คิดว่าวันนี้เชิญบุคคลภายนอกเข้ามา หรือรับตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองส่งมา ล้วนแต่เป็นการทำให้รวดเร็วคล่องตัวมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าตั้งไจทำอะไรที่เป็นประโยชน์แบบนี้อยู่ตรงไหนก็ทำได้ เจตนาแบบนี้สามารถแฝงไปได้ทั้งนั้น วันนี้เราเปิดเผยต่อสาธารณะ และเปิดเผยต่อหน้าคณะกรรมาธิการวิสามัญซึ่งเป็นตัวแทนพี่มาจากทุกพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร” นายภูมิธรรมกล่าว

 

“ภูมิธรรม” สวน ก้าวไกล ตั้ง 9 คณะอนุฯงบ 67 แบบใหม่ เหตุพิจารณาล่าช้า

 

ทั้งนี้ยืนยันจะพิจารณางบประมาณภายในกรอบเวลา 105 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้ผ่านมาแล้ว 17 วัน โดยตั้งใจจะทำให้แล้วเสร็จก่อนกรอบเวลากำหนดอย่างน้อย 15 วัน เมื่อทำกฎหมายได้เร็วที่สุดก็จะมีงบประมาณไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้เร็ว แม้มีความเห็นต่าง ที่เป็นความเห็นอิสระของแต่ละคน แต่สุดท้ายก็ต้องที่ประชุมใหญ่พิจารณา

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ