ข่าว

“จิรัฏฐ์” สส.ก้าวไกล ปัดโชว์ “ใบ สด.43” ต่อสาธารณะ หวั่นถูกปลอมแปลงเอกสาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จิรัฏฐ์" สส.ก้าวไกล ปัดโชว์ ใบ สด.43 ต่อสาธารณะ หวั่นถูกปลอมแปลง ย้ำ ของแท้ เผยได้มาวันเดียวกับขึ้นศาล แต่ไม่แน่ใจไปจับใบดำ-แดง วันต่อไปหรือปีถัดมา อ้าง 10 ปี ผ่านมานานแล้ว โบ้ย จนท.รัฐสอบเองจริงหรือไม่ มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิต เพราะร้องเรียนแค่ 2 วัน ก็ตั้งโต๊ะแถลง

ที่พรรคก้าวไกล นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เปิดเผย ถึงกรณีที่ กองบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ออกมาแถลงข่าวเตรียมเอาผิดกรณีการปลอมแปลงเอกสารราชการ ใบ สด.43 ของนายจิรัฏฐ์ เมื่อวานนี้ ว่า เหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อไว้ก่อนหน้านี้ ว่า ปลอมหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของตนในการพิสูจน์ แต่ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการในการพิสูจน์ ยืนยันว่าเอกสารที่ตนมีไม่ใช่เอกสารปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์ และตนก็ไม่กล้าปลอมด้วย ตนกำลังถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารราชการในเรื่องคดีที่หมดอายุความไปแล้ว ไม่เป็นเหตุเป็นผลเลย จึงยืนยันว่าของแท้แน่นอน

ในวันที่ไปรับเอกสาร มีลำดับเหตุการณ์อย่างไรบ้าง นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า วันนั้นตนเดินทางไปคนเดียว เพื่อไปหาสัสดี ที่ว่าการอำเภอ เขาก็พาขึ้นรถไปที่ศาล และดำเนินการตามกระบวนการ ในข้อหาไม่มารายงานตัวในวันเกณฑ์ทหาร จนกระทั่งได้รับใบ สด.43 นอกจากนี้ตนยังคิดว่า คนที่ได้ใบ สด.43 ทั่วประเทศ จะได้รับจากมือประธานกรรมการคัดเลือกหรือไม่ก็ไม่ทราบ ส่วนเรื่องการพิมพ์ลายนิ้วมือ ตนได้ตรวจสอบกับหลายคนแล้ว พบว่าประมาณ 30-40 คนก็ไม่มี และส่งเอกสารมาให้ตนดูผ่านทางอินบ๊อกซ์แล้ว

 

 

เมื่อถามว่ามีหน่วยงานของกองทัพติดต่อมาแล้วหรือยัง นายจิรัฏฐ์ ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า ยัง

 

 

ถ้าไม่เปิดเอกสารก็จะคลายข้อสงสัยไม่ได้ สังคมเรียกร้องให้เปิด นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนยินดีเปิด ก็รอให้มาตรวจสอบ แต่จะไม่เปิดต่อสาธารณะเพราะมีตัวเลขที่ต้องระวัง

 

 

“ผมเอาให้พี่นักข่าวดูได้ แต่ขอแค่ไม่ถ่ายรูปไว้ อยากให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการ” นายจิรัฏฐ์ กล่าว

 

 

สำหรับใบ สด.43 ได้มาวันที่ขึ้นศาลเลยหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ ยืนยันว่า เป็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า แล้ววันที่จับใบดำใบแดงเป็นวันไหน นายจิรัฏฐ์ ตอบว่า “มันไม่ใช่วันนั้นไง เพราะผมมีความผิดที่ไม่ได้ไปรายงานตัว ผมจับใบดำใบแดงหลังจากนั้น“

 

ทั้งนี้ ถ้าไปจับหลังจากวันที่ไปศาล จะไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีการจับใบดำใบแดงกัน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนถึงได้บอกว่าต้องให้หน่วยงานรัฐมาตรวจสอบ เพราะตนก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ตนก็ชี้แจงตามที่เกิดขึ้น

 

 

เมื่อถามย้ำว่า ไปจับใบดำใบแดงหลังจากที่เพื่อนเขาจับกันใช่หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ว่าไปจับหลังจากนั้น 1 ปี หรือ 1 วัน แต่พอรู้ตัวว่าทำผิดก็รีบไปรายงานตัว

 

 

แล้วข้อกล่าวหาที่ชั้นศาลคืออะไร นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มารายงานตัว ซึ่งวันต่อไปก็ไปจับใบดำใบแดง ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่าเป็นวันที่เขาจับใบดำใบแดงใช่หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า น่าจะอยู่นะ สิบกว่าปีแล้วอย่าลืม ตนก็พยายามทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงเอกสารกว่าจะหาเจอก็ใช้เวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งในปีนั้นตนทำเรื่องผ่อนผันไว้เพราะติดสอบธีซิส (เล่มวิจัย)

 

 

เมื่อถามว่าปกติคนที่ไม่ไปเกณฑ์ทหารจะถูกดำเนินคดีหนีทหารเลย ทำไมถึงไม่โดน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ถ้าดูตามไทม์ไลน์แปลว่าตนมีความผิดเป็นนักโทษตั้งแต่ปี 2555 ทำไมไม่มาจับตน ตนก็อยู่ที่บ้านหลังเดิมไม่ย้ายไปไหน สถานีตำรวจก็อยู่ใกล้แค่นิดเดียว ในขณะที่คนอื่นถ้าหนีทหารก็โดนจับถึงบ้านแล้วไม่ใช่หรือ แค่ปีเดียว ปีแรกก็ต้องมาตามจับแล้ว ส่วนจะมีการติดต่อไปยังกองทัพเองหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า กมธ.การทหารรับเรื่องไว้แล้ว ตนยินดีให้ตรวจสอบทั้ง กมธ.การทหาร และ คณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร

 

 

ส่วนที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธาน กมธ.การทหาร ระบุว่าอาจมีการซัดทอดว่ามีการซื้อใบ สด.43 หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนยินดีให้ตรวจสอบอยู่แล้ว รออยู่ว่าจะมาเมื่อไรอย่างเดียว ตนจะได้ไปทำอย่างอื่นบ้าง

 

 

เมื่อถามว่าซื้อใบ สด.43 มาจริงหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า บ้านตนไม่มีเส้นสาย ไม่รู้จักนักการเมือง เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แค่บอกว่าจะไปซื้อก็ยังไม่รู้จะบอกใครเลย ไม่มีเส้นสายแล้วจะไปติดต่ออย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่ากระบวนการที่ได้มาถูกต้อง

 

 

นายจิรัฏฐ์ มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิต เพราะมีคนร้องเรียนแค่ 2 วัน ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแล้ว ส่วนคำถามที่ตนถามกองทัพไม่เห็นแถลงบ้างเลย ทำหนังสือไปก็ไม่ตอบ

 

 

ส่วนเหตุผลที่ไม่เปิดใบ สด.43 เพราะกลัวจะมีคนปลอมแปลงใช่หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวยอมรับ รวมถึงไม่อยากให้เป็นประเด็นอื่นอีก ส่วนถ้าให้เบลอข้อมูลสำคัญจากต้นทางได้หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ก็จะเหมือนกับที่ไปมติชน

 

 

“ตอนแรกที่เห็นว่าไม่มีลายมือ ผมจะปั๊มลงไปยังได้เลย แต่มันเป็นเอกสารราชการ ใครจะกล้าหล่ะ ในเมื่อมันไม่มีก็ต้องเปิดแบบนั้น“ นายจิรัฏฐ์ กล่าว

 

 

เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบชื่อคนที่เซ็นในใบไว้หรือไม่ว่ายังมีตัวตน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เท่าที่ตนดูพบว่ามีลายเซ็นประมาณ 5 คน บางคนก็อ่านชื่อไม่ออกเพราะเป็นลายเซ็น ตนก็ไม่ได้ไปเช็ค แต่เจ้าหน้าที่รัฐเช็คได้ ก็แค่ไปดูว่าใครทำหน้าที่ตอนปีนั้น

 

 

”ที่บอกว่าไม่เจอต้นขั้ว อยากให้ตรวจสอบ เพราะที่แถลงว่าไม่มีชื่อ นวรินทร์(ชื่อเดิม) ผมเข้าใจได้ แต่ถ้าไม่มีชื่อจิรัฏฐ์ ผมว่ามีปัญหาแล้ว“นายจิรัฎฐ์กล่าว

 

 

นายจิรัฏฐ์ ยังกล่าวว่า ตนอยากให้กองทัพตรวจสอบเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากกว่า แล้วหากมีการตรวจสอบสุดท้ายแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ผิด และนายจิรัฏฐ์ก็ผิด มีการประเมินสถานการณ์นี้ไว้หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าไม่มีทางผิดแน่นอน

 

 

หลังจากนั้นนายจิรัฏฐ์ ได้เปิดเอกสาร สด.43 ให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพ ซึ่งผู้สื่อข่าวพบว่าในเอกสารนั้นมีการระบุเป็นชื่อนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่มีการเซ็นชื่อนายจิรัฏฐ์เพื่อรับเอกสาร พร้อมทั้งมีการระบุว่าเป็นบุคคลที่จับได้ใบดำอย่างชัดเจน มีลายเซ็นนายทหารรับรองในเอกสาร และในแฟ้มเอกสารเดียวกัน นายจิรัฏฐ์ยังได้เก็บเอกสารในการขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารมาโดยตลอดระหว่างการศึกษา รวมถึงใบเรียกไปรายงานตัวในการเกณฑ์ทหาร ตั้งแต่ใช้ชื่อเดิมจนกระทั่งเปลี่ยนชื่อใหม่ไว้ด้วย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ