ข่าว

'สส.ก้าวไกล' ซัดงบประมาณ 'สิ่งแวดล้อม' ตั้ง 'กรมโลกร้อน' ไร้ประโยชน์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'สส.ก้าวไกล' อภิปรายงบประมาณปี 67 ตั้ง 'กรมโลกร้อน' แต่ตัวชี้วัดต่ำ ไร้ประโยชน์ แนะตัเงบปลูกป่า แต่เพิ่มเงินเดือนผู้พิทักษ์ป่า

นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ในประเด็นสิ่งแวดล้อมและการทำงานของกรมโลกร้อนที่ตั้งขึ้นโดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และใช้งบประมาณปีแรกในรัฐบาลเศรษฐา ว่า ทั่วโลกทราบดีประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ แต่รัฐบาลไหนจริงจังในเรื่องนี้

'สส.ก้าวไกล' ซัดงบประมาณ 'สิ่งแวดล้อม' ตั้ง 'กรมโลกร้อน' ไร้ประโยชน์

ตัวชี้วัดหนึ่งก็คืองบประมาณ ทว่า แผนงานในร่างงบประมาณฉบับนี้ แทบไม่ต่างจากสมัยรัฐบาลประยุทธ์เลย เช่น ให้งบกรมอุตุนิยมวิทยาไปซื้อเครื่องมือวัดลมเฉือนติดให้สนามบิน และอุปกรณ์ทางการบินเป็นพันล้าน อีกส่วนคือ งบอบรมสร้างเครือข่าย หรือสร้างแพลตฟอร์มเก็บข้อมูล ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้อย่างไร

 

นายนิติพล ระบุต่อว่า เรื่องที่น่าประทับใจในปีนี้คือ ในที่สุดประเทศไทยก็มีหน่วยงานระดับกรมที่ดูแลเรื่องโลกร้อนโดยเฉพาะ ชื่อว่า กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ขอเรียกง่าย ๆ ว่า "กรมโลกร้อน" เปลี่ยนชื่อมาจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่สมัยรัฐบาลประยุทธ์ แต่เริ่มตั้งงบประมาณปีแรกในรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเมื่อไปดูตัวชี้ กรมตั้งเป้าไว้ว่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก กรณีปกติ 4% ขณะที่หากเราดูสถิติในปีก่อนหน้านี้ ไทยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงจากกรณีปกติ ได้ปีละ 15% อยู่แล้ว ด้วยวิธีแบบเดิม ๆ 

ดังนั้นการตั้งเป้าลดลง 4% ต่อให้ไม่ทำอะไรเลยก็ได้ผลงานแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ งบมันเลยไปโผล่ที่งบอบรมสัมมนาสูงถึง 170 ล้านบาท และเอาไปทำโครงการแบบกรมเดิม เหมือนก็อปวางมา ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะตัวชี้วัดต่ำมากจนแทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยไม่ต้องทำอะไรเลย

 

นอกจากนี้นายนิติพล ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกประเด็นสำคัญคือ งบพิทักษ์ป่า ทั้งที่เป็นผู้เสี่ยงภัยอยู่หน้างาน อันตรายต่อชีวิตทุกนาที ต้องดูแลเขาให้ดี จึงอยากเสนอให้เพิ่มเงินและสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่ใช่เสี่ยงแล้วยังต้องลุ้นว่าจะได้รับการต่อสัญญาหรือไม่ และทุกวันนี้เขาได้เงินเดือนแค่ 9,000 – 10,000 ต้น ๆ เท่านั้น

 

ที่สำคัญคือ พอกรรมาธิการงบฯ ขอตัดงบประมาณของกรมป่าไม้ แทนที่จะไปตัดงบประมาณปลูกป่า เพาะกล้าไม้ ซึ่งใช้กันปีละเป็นพันล้านแต่ไม่สัมฤทธิ์ผล เช่น เอาไปปลูกต้นสีเสียดแก่น ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าเพราะมีหนามเต็มไปหมด สัตว์กินก็ไม่ได้และช้างป่ากลับเข้าป่าก็ไม่ได้ ดังกรณีที่เกิดขึ้นกับช้างป่าตะวันออก แต่พอให้ตัดงบกลับไปตัดของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เหมือนในปี 2565 แล้วไปโยนบาปให้กรรมาธิการและสภาว่ารังแกเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่เห็นใจคนทำงาน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว กรมฯ คือผู้เลือกตัดเงินเขาเอง และอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อของบประมาณซื้อรถยนต์ก็ต้องให้เงินเติมน้ำมันด้วย ปีนี้ทำงบมาแบบงงมาก ซื้อรถให้ แต่ไม่มีเงินค่าน้ำมันให้ แล้วเขาจะเอารถไปใช้งานได้อย่างไร

 

"การทำงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ ท่านบอกวิกฤติโลกร้อน แต่ทำไมทำงบแบบนี้ ปัญหานี้ไม่ใช่แค่ทำโครงการมา แต่ไม่มีแผนให้สามารถแก้ปัญหาได้จริง ขอให้รัฐบาลตั้งใจทำงบมาใหม่ เพราะถ้ายังจัดงบแบบนี้เจอกันในการอภิปรายไม้ไว้วางใจแน่ และผมสัญญากับพี่น้องประชาชนว่าพรรคก้าวไกลทุกคนจะตรวจสอบงบประมาณทุกบาทในชั้นกรรมาธิการอย่างเข้มงวดแน่นอน" นายนิติพล กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ