ข่าว

ลดความขัดแย้ง ‘สุวัจน์’ หนุนตั้ง กมธ.สภาถก ทำ ‘นิรโทษกรรม’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'สุวัจน์' หนุนตั้งกรรมาธิการในสภา ถกแนวทางทำ 'นิรโทษกรรม' ลดความขัดแย้งในสังคมไทย พร้อมไฟเขียวแก้รัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย ชี้ สสร.ควรมาจากเลือกตั้ง-แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงการนิรโทษกรรมว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 หรือมากกว่า 16-17 ปี ความขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่วิกฤต ขาดความต่อเนื่องของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และขาดความเชื่อมั่น ถ้าเราสามารถที่จะยุติความขัดแย้งได้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดวิกฤตและเป็นการรวมพลังของคนในชาติ รวมพลังความรัก ความสามัคคีและประสบการณ์ 

 

ลดความขัดแย้ง ‘สุวัจน์’ หนุนตั้ง กมธ.สภาถก ทำ ‘นิรโทษกรรม’

ส่วนขอบเขตหรือวิธีการของการนิรโทษกรรมจะทำอย่างไรเพื่อไม่นำไปสู่ความขัดแย้งใหม่อีกครั้งนั้น จะต้องเป็นวิธีการที่ทุกฝ่ายยอมรับ และเห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยสภาผู้แทนราษฎร น่าจะเป็นองค์กรที่ชอบธรรมในการเริ่มต้นกระบวนการต่างๆ อาจจะเป็นการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ หรือคณะกรรมการ มีองค์ประกอบทุกพรรคการเมืองทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

 


อาจจะมีตัวแทนนักวิชาการ มาวิเคราะห์ให้ตกผลึกว่าการนิรโทษหรือไม่ควรจะนิรโทษแบบใด และนิรโทษส่วนไหน แล้วได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายแล้วจึงเริ่มต้นกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดมาตรา 112 และคดีทุจริตหรือไม่นั้น ควรเป็นเรื่องของคณะกรรมการไปคุยในรายละเอียดเพื่อให้ทุกฝ่ายรับได้

 

นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าพรรคชาติพัฒนากล้าได้พูดไว้ในช่วงเลือกตั้ง และพรรคอื่นๆ ก็พูดเรื่องนี้ ฉะนั้นในฝ่ายการเมืองเห็นพ้องต้องกันว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย มีความถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์โลกและสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้องได้รับการแก้ไข และเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ แต่จะแก้บางมาตรา หรือแก้ทั้งฉบับต้องไปอิงให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 

 

 

หากจะแก้ทั้งฉบับไม่แตะต้องหมวด 1 หมวด 2 ก็ต้องมีการทำประชามติ หากประชาชนเห็นด้วยก็ต้องมาว่ากันที่วิธีการแก้คือมาตรา 256 ว่าจะแก้แบบไหน เช่นการมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) มีกี่คน มาจากเลือกตั้ง หรือผสมกับการแต่งตั้ง

 

 

“พรรคชาติพัฒนากล้ารับได้ที่ สสร. จะมาจากการเลือกตั้งส่วนหนึ่ง และมาจากการแต่งตั้งส่วนหนึ่ง เพราะต้องมีความชอบธรรมที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และต้องได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความชำนาญและมีประสบการณ์มาช่วยกันร่าง เป็นองค์ประกอบสองส่วน เพื่อให้มองครบทุกมิติในการแก้ปัญหาของประเทศก็จะสมบูรณ์ แต่ความชอบธรรมของประชาชนต้องมากกว่า เช่นมาจากการเลือกตั้งส่วนใหญ่ และอีก 20 กว่าคนมาจากการแต่งตั้งที่เลือกจากสาขาวิชาชีพทำให้องค์ประกอบของการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกต้องเหมาะสมในทุกมิติ เช่นเดียวกับ สส. ที่มาจากการเลือกตั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ” นายสุวัจน์ กล่าว

 

 

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมเราสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยเต็มที่ เพราะตอนนี้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเต็มที่ การเขียนรัฐธรรมนูญก็จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นประชาธิปไตย และวันนี้เราต้องมีเครื่องมือในการแก้ปัญหาประเทศ เศรษฐกิจโลก เทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลง ความยืดหยุ่นของกฎหมายจึงมีความสำคัญในการแก้ปัญหาของประเทศได้เร็วและสำเร็จ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ