ข่าว

ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวน ถือหุ้นสื่อไอทีวี 2 ชั่วโมง -พิธา ระรื่นได้อธิบาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล  "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ซึ่งมีประเด็นถูกร้องในเรื่องของคุณสมบัติจาก กกต. จนมีผลต่อการทำหน้าที่ สส. ปมถือหุ้นสื่อไอทีวี เข้ารับการไต่สวน ต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิธา แจง พอใจกับกระบวนการ ได้ไต่สวนตามข้อเท็จจริงที่ตั้งใจ 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล   และ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล  กล่าวภายหลังการเข้ารับการไต่สวน ต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่  ซึ่งศาลได้ใช้เวลากว่า  2 ชั่วโมง ในการไต่สวน

 

 

 

 

นายพิธา กล่าวว่า บรรยากาศระหว่างการไต่สวน เป็นไปตามที่คาดคาดหวังพอใจกับกระบวนการ และได้ไต่สวนตามข้อเท็จจริงที่ตั้งใจไว้ทุกประการรู้สึกพอใจ   ส่วนรายละเอียดในการชี้แจงไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นการละเมิดศาล แต่ในส่วนข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับการยุติจากประกอบกิจการไอทีวี หรือสถานะผู้จัดการมรดกของตนเอง ก็ได้รับการไต่สวนจากศาลและฝ่ายกฎหมายของผู้ร้องและผู้ถูกฟ้องครบถ้วน ทั้งนี้ การไต่สวนมีพยาน 3 ปาก  คือ นายแสวงบุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะพยานผู้ร้อง   นายคิมห์ สิริทวีชัย ผู้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี และตนเอง 

 

 

 

 

จาการฟังน้ำหนักพยานและหลักฐานจากตนเองและผู้ร้องแล้วนั้น ตนไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะจะเป็นการชี้นำและละเมิดศาลได้ แต่สิ่งที่จะให้สัมภาษณ์ได้คือพอใจและเป็นไปตามที่หวังไว้ทุกประการซึ่งสามารถบอกได้แค่นี้  ส่วนรายละเอียดขอให้รอการสรุปอย่างเป็นทางการจากทาง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ  หลังจากนี้ไม่มีการนัดไต่สวนโดยจะมีการนัดตัดสินหรือการอ่านคำวินิจฉัยเลย  

 

 

 

 

"ยังมั่นใจเหมือนเดิม มั่นใจว่าได้ทำตามหน้าที่ในฐานะผู้ถูกฟ้องอย่างเต็มที่แล้ว   ส่วนความคาดหวังต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมและความยุติธรรม ในกรณีนี้หากคำพิพากษาเป็นคุณ ก็หวังว่าจะกลับไปทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทันที " 

 

 

 นายพิธา กล่าวว่า   การถือหุ้นไอทีวี เป็นการถือแทนในฐานะผู้จัดการมรดก แต่ในส่วนรายละเอียดอยู่ในชั้นศาลตนไม่อยากที่จะละเมิดศาล แต่ก็ยืนยันว่าเป็นการถือ แทนน้องชาย  ซึ่งได้สละเจตนาตั้งแต่ก่อนอยู่พรรคอนาคตใหม่ และมีการปันทรัพย์มรดกกัน ตนจะตอบมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ข้อนี้ก็เป็นหนึ่งในข้อที่มีการพูดคุยกัน ถ้าตอบไปจะเป็นการชี้นำสังคมและเป็นการละเมิดศาล 

 

 

 

 

"  ถ้าได้ดูตามเอกสารที่ออกมาก็จะเห็นว่าไอทีวีได้ยุติการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 50 ทรัพยากรอีกครึ่งหนึ่งก็ไปอยู่ไทยพีบีเอส แล้วตอนนี้ใบอนุญาตก็ไม่มี เพราะฉะนั้นการจะกลับมาประกอบกิจการเดิม ก็ต้องมีทั้งคดีความที่เกี่ยวโยงกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. ที่ศาลปกครองสูงสุด รวมถึงคลื่นความถี่ที่ไม่มีแล้ว ใบอนุญาตประกอบกิจการ ที่สอบถามไปยัง กสทช.  ก็ไม่มี " 

 

 

 

 

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดเข้ารับฟังคำวินิจฉัยในวันพุธ ที่ 24 มกราคม  2567 เวลา 14.00น.  อนึ่ง  สำหรับพยาน 3 ปาก เป็นพยานฝั่งผู้ถูกร้อง 2 คน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  สส.พรรคก้าวไกล  กับนายคิมห์ สิริทวีชัย ผู้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 และยังเป็นผู้เซ็นรับรองในรายงานบันทึกการประชุม  ส่วนพยานอีก 1 คน เป็นฝั่งผู้ร้อง คือ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่ ศาลเรียกให้มาไต่สวน  โดยให้การเสร็จแล้วซึ่งนายแสวงได้ยืนยันเอกสารหลักฐานแล้วก็กลับสำนักงานไป


ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวน ถือหุ้นสื่อไอทีวี 2 ชั่วโมง -พิธา ระรื่นได้อธิบาย

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล

.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ