ข่าว

'นิติพล' ผิดหวังรัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 มัวแต่เอื้อนายทุนสร้างมลพิษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'นิติพล' เผย รัฐบาลตอบกระทู้เรื่องฝุ่น PM2.5 มีแต่ข้ออ้างแก้ตัว เสนอไม่ซื้อสินค้าเกษตรจากพื้นที่ที่มีการเผา แต่กลับบอกต้องพิสูจน์เป็นปัจจัยเดียวของปัญหาหรือไม่

นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ เครือข่ายภาคเหนือ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังฟังคำชี้แจงของ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ตอบกระทู้ถามสดของ นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคก้าวไกล แล้วรู้สึกผิดหวังในคำตอบและสะท้อนว่า ปัญหานี้อาจไม่ถูกแก้ในรัฐบาลชุดนี้

 

ประเด็นสำคัญคือ ทราบดีแก่ใจ ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุใหญ่มาจากฝุ่นข้ามพรมแดนอันเนื่องมาจากการเผาไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้อนบริษัทการเกษตรยักษ์ใหญ่ของไทย แต่รัฐบาลยังพยายามปิดหูปิดตาหาคำตอบให้ตัวเอง บอกให้ไปพิสูจน์นั่นนี่ เพื่อไม่ดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วน
 

นายนิติพล กล่าวต่อว่า มีข้อเสนอให้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับจัดจุดความร้อน เพื่อออกมาตรการไม่รับซื้อสินค้าการเกษตรที่มาจากพื้นที่ที่มีการเผา เพราะกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวของไทยอย่างรุนแรง แต่นายนภินทรกลับอ้างว่า ทำไม่ได้ เพราะแม้แต่ไทยเองยังไม่มีมาตรการห้ามเผา มีเพียงการขอความร่วมมือเกษตรกร จะไปออกมาตรการห้ามซื้อในสิ่งที่ไทยเองก็ไม่มีมาตรการไม่ได้ และการออกมาตรการห้ามเผาเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์

 

นอกจากนี้นายนภินทรยังบอกในสภาอีกว่า หากจะห้ามไม่ให้ซื้อยังจะต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่า ฝุ่น PM2.5 จากการเผาเป็นเพียงปัจจัยเดียว ไม่ใช่มาจากปัจจัยอื่น และฝุ่นดังกล่าวต้องพิสูจน์อีกเช่นกันว่า มีผลกระทบต่อสุขภาพจริง แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจได้ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุดมาแก้ปัญหาแล้ว
 

นายนิติพล มองว่า คำตอบแบบนี้เป็นการหาข้ออ้างให้นายทุนสร้างมลพิษและทำลายสุขภาพคนไทยต่อไปได้ ทั้งที่ในประเทศไทยต้องแสดงพื้นที่เพาะปลูกโดยละเอียดว่ามาจากแหล่งใด แต่ในกรณีข้าวโพดนอกพรมแดนแค่บอกกว้างๆว่ามาจากประเทศใดเท่านั้น ตนเชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์สามารถกำหนดรายละเอียดเหล่านี้ได้ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจรับซื้อข้าวโพดข้ามพรมแดนหรือไม่ได้ รวมถึงเชื่อว่าการออกมาตรการห้ามเผาในไทยเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการต่อสามารถทำได้แน่ หากนายกรัฐมนตรีไม่ลืมที่จะควิกวิน ทำตามนโยบายที่เพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ว่าจะแก้ที่ต้นตอ ซึ่งต้นตอปัญหาอยู่ตรงไหนก็เห็นอยู่แล้ว

 

ส่วน ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่รัฐบาลบอกว่าจะผลักดัน ก็เป็นเรื่องดี ตนเห็นด้วย แต่พวกท่านย่อมรู้ดีว่ากฎหมายแต่ละฉบับกว่าจะผ่านใช้เวลานานเป็นปีๆ แต่ตอนนี้กำลังเผชิญปัญหาอยู่ตรงหน้า จึงต้องพึ่งอำนาจฝ่ายบริหารให้ทำอะไรเป็นรูปธรรมสักอย่าง ถ้าไม่ทำอะไรเลย จะมีฝ่ายบริหารไว้ทำไม อันดับแรกพวกต้องหยุดแก้ปัญหาแบบซื้อเวลา แล้วกล้าที่จะแก้ที่ต้นตอ เพราะสุขภาพประชาชนเจอวิกฤตนี้มาเป็นสิบปีแล้ว มีคนตายจริงป่วยจริงหลายคนแล้วเช่นกัน อย่าให้ประชาชนต้องรอ เพราะมัวแต่เกรงใจนายทุนเลย


"ท่านแค่ลองย้ายตัวเอง โดยเอาปอดท่านไปสูดอากาศเชียงใหม่ทุกๆเช้าจากวันนี้ไปจนจบเดือนกุมภาพันธ์ วันละชั่วโมงก็พอ ท่านจะได้คำตอบด้วยตัวท่านเองว่ากระทบสุขภาพหรือไม่ ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ทันที แค่ นายกฯ กล้าขยับเหมือนที่ชอบเรียกหน่วยงานต่างๆมาคุยก่อนขึ้นเครื่องบินไปประเทศต่างๆ การเอากระทรวงพาณิชกับเกษตรมาคุยกันและเคาะมาตรการเร่งด่วนออกมาแก้ปัญหาแบบควิกวินที่ท่านชอบพูด คงไม่ยากเกินไปอย่างแน่นอน สำหรับชายที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ส่วนการตั้งคณะกรรมการหลายชุดขึ้นมานั้น มองไม่ต่างจากการซื้อเวลาหาข้อแก้ตัวว่า มีการขยับแล้ว สมัยรัฐบาลก่อน พลเอกประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะกรรมการเป็นร้อยชุด ผมก็ไม่เห็นจะขับเคลื่อนประเทศไปไหนได้" นายนิติพล กล่าว

นายนิติพล ผิวเหมาะ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ